ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

           สืบเนื่องจากในปัจจุบัน การทำนาข้าวโดยส่วนใหญ่มีการใช้สารเคมีในการจัดศัตรูพืชในนาข้าว รวมถึงการใช้ปุ๋ยเคมีเป็นจำนวนมาก ทำให้ข้าวที่เรารับประทานปนเปื้อนสารเคมี ไม่มีความปลอดภัยในการนำมารับประทาน จึงทำให้มีแนวคิดในการทำข้าวปลอดสารพิษและแปรรูปข้าวกล้องปลอดสารพิษเพื่อเพิ่มมูลค่าของข้าว และเกิดความปลอดภัยในการนำไปบริโภค

วัตถุประสงค์ ->

1. เพื่อให้เพิ่มมูลค่าของข้าวให้มากขึ้น

2. เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคข้าวที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการ

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

ข้าวเปลือกคุณภาพ(ข้าวไรเบอรี่)

อุปกรณ์ ->

๑.โรงสีข้าว

๒.เครื่องซีลข้าว

๓.ถุงบรรจุข้าว

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. ขั้นตอนการทำความสะอาด วัตถุดิบหลักคือ“ข้าวเปลือก” ก่อนนำข้าวเปลือกมากะเทาะต้องทำความสะอาดเพื่อแยกเศษดิน หิน ฟาง หรืออื่นๆ ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับเครื่องมือ เครื่องจักรในขั้นตอนของการกะเทาะ

2. ขั้นตอนการกะเทาะเมล็ด เป็นขั้นตอนที่เกิดการแยกกันระหว่างส่วนเนื้อผล (ข้าวกล้อง) กับแกลบ ซึ่งขั้นตอนนี้จะได้ “ข้าวกล้อง” ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงโดยสามารถนำไปบริโภคโดยการหุงสุก หรือการนำข้าวกล้องไปแปรรูปเป็นข้าวกล้องงอกเพื่อเพิ่มมูลค่าและคุณค่าทางโภชนาการก็ได้ รวมถึงหลังการกะเทาะจะเกิดเศษเหลือของกระบวนการ คือ “แกลบ” สามารถนำไปแปรรูปได้หลากหลาย เช่น เชื้อเพลิง สารดูดจับความชื้น และวัสดุเพาะปลูก เป็นต้น

3. ขั้นตอนการขัดขาว  จากคุณสมบัติของข้าวกล้องที่มีเนื้อสัมผัสค่อนข้างแข็งและกลิ่นเฉพาะตัว ใช้เวลาหุงนาน ระยะเวลาในการเก็บรักษาสั้น ดังนั้นผู้บริโภคจึงไม่ค่อยนิยม การแปรรูปจึงต้องขัดเอาผิวด้านนอกของเมล็ดออกที่เรียกว่า“รำข้าว” สามารถนำไปแปรรูปเป็นน้ำมันรำข้าวหรือผลิตเครื่องสำอาง เพิ่มมูลค่าได้อย่างมหาศาล โดยหลังการขัดขาวแล้ว เมล็ดข้าวส่วนที่เหลือเรียกว่า “ข้าวสาร” หรือ “ข้าวขาว” นั่นเอง ต้องปรับแต่งเครื่องสีข้าวให้พอดีจึงจะได้ข้าวกล้องที่มีคุณภาพ

4. ขั้นตอนการคัดขนาดก่อนการจำหน่าย  ต้องทำการแยกเมล็ดที่เกิดการแตกหัก อันเกิดจากการที่เมล็ดข้าวรับแรงกระทำในช่วงต่างๆ เพื่อแบ่งคุณภาพของข้าว โดยจะได้ข้าวเต็มเมล็ดและปลายข้าวนั่นเอง

๕. ขั้นตอนการบรรจุถุง  หลังจากที่เราคัดแยกเมล็ดข้าวแล้วก็นำข้าวที่มีคุณภาพมาบรรจุถุง โดยใช้เครื่องซีลถุงแบบสุญญากาศ เสร็จแล้วสามารถนำไปจำหน่ายได้

ข้อพึงระวัง ->

           ปริมาณข้าวเต็มเมล็ด หรือที่เรียกว่า “เปอร์เซ็นต์ข้าวต้น” นั้นจะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พันธุ์ข้าว เปอร์เซ็นต์ความชื้น คุณภาพของข้าวก่อนการแปรรูป และการปรับแต่งเครื่องจักร เป็นต้น