ที่อยู่ 107/1
หมู 2 ตำบล : วังหว้า อำเภอ : ศรีประจันต์ จังหวัด: สุพรรณบุรี
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : มัธยมศึกษาปีที่ 6
ประวัติ :
เกษตรอินทรีย์-ผสมผสาน เริ่มต้นจากการทำไร่ทำนาสวนผสมผสาน จนกระทั่งผลเกษตรลดลงเลยคิด ทำเกษตรอินทรีย์-ผสมผสานขึ้นมาใช้หลักเศรษฐีกิจพอเพียง นำมาประยุกต์ทำเกษตรอินทรีย์-ผสมผสานขึ้นมา
การทำเกษตร
ผลผลิตให้ได้ผลผลิตสูงคุณภาพดี เราไม่สามารถละเลย ขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งได้เลย และสิ่งสำคัญที่จะละเลยไม่ได้ก็คือ “การติดตามควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน” ถ้ามีปัญหาอย่าตัดสินใจแก้ไขเองโดยพละการ ให้ปรึกษาผู้รู้ก่อน ในระหว่างทุก ๆ ขั้นตอน ย่อมมีอุปสรรคต่าง ๆ เกิดขึ้นเสมอ แต่อย่าวิตก เพราะทุกอย่างแก้ไขได้ทั้งสิ้น ขอให้ยึดหลักการที่ได้แนะนำมาเป็นทางแก้ ทั้งนี้เพราะมีปัจจัยต่าง ๆ มากมายที่จะทำให้เกิดอุปสรรค อาทิ ปัจจัยดินฟ้าอากาศ ปัจจัยสภาพพื้นที่ ๆ แตกต่างกัน เป็นต้น
เกษตรอินทรีย์-ผสมผสาน เริ่มต้นจากการทำไร่ทำนาสวนผสมผสาน จนกระทั่งผลเกษตรลดลงเลยคิด ทำเกษตรอินทรีย์-ผสมผสานขึ้นมาใช้หลักเศรษฐีกิจพอเพียง นำมาประยุกต์ทำเกษตรอินทรีย์-ผสมผสานขึ้นมา
การทำเกษตร
รูปแบบของระบบเกษตรผสมผสาน
ระบบเกษตรผสมผสานนั้น ถึงแม้ว่าเกษตรกรจะมีการดำเนินการกันมาช้านานแล้วก็ตามแต่ลักษณะของการดำเนินการ ยังมีความแตกต่างกันไป แล้วแต่การจะนำองค์ประกอบต่าง ๆ มาผสมผสานกันมากน้อยแค่ไหน และผสมผสานในรูป รูปแบบใดก็ตามยังมีความหมายหลากหลาย การศึกษารายละเอียดเชิงวิชาการในด้านนี้ก็ยังมีไม่มาก เมื่อเปรียบเทียบ กับการศึกษาในด้านกิจกรรมเดี่ยว ๆ ไม่ว่าจะเป็นพืช สัตว์ หรือปลาก็ตาม ฉะนั้นการกำหนดรูปแบบดำเนินการเกษตร ผสมผสานก็จะมีหลายแบบเช่นกัน ทั้งนี้อาจจะยึดการแบ่งตามวิธีการดำเนินการลักษณะพื้นที่กิจกรรมที่ดำเนินทรัพยากร เป็นต้น ซึ่งพอที่จะกล่าวได้ดังนี้
1. แบ่งตามกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่เป็นหลัก
1.1 ระบบเกษตรผสมผสานที่ยึดกิจกรรมพืชเป็นหลัก ซึ่งกิจกรรมที่ดำเนินการนี้จะมีพืชเป็นรายได้หลัก
1.2 ระบบเกษตรผสมผสานที่ยึดกิจกรรมเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก ซึ่งการดำเนินการเลี้ยงสัตว์จะเป็นรายได้หลัก
1.3 ระบบเกษตรผสมผสานที่ยึดกิจกรรมประมงเป็นหลัก ซึ่งจะมีกิจกรรมเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นรายได้หลัก
1.4 ระบบเกษตรผสมผสานแบบไร่นาป่าผสมหรือวนเกษตรเป็นระบบที่มีการจัดการป่าไม้เป็นหลักร่วมกับการเกษตร ทุกแขนง อาจประกอบด้วยการปลูกพืชเกษตรในสวนป่า การปลูกพืชเกษตรร่วมกับการเลี้ยงสัตว์ในสวนป่าระบบนี้มุ่ง หวังที่จะให้เป็นตัวกลางเพื่อผ่อนคลายความต้องการที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมกับความต้องการป่าไม้ เพื่อควบคุมสิ่ง แวดล้อมให้สามารถดำเนินควบคู่กันไปโดยคำนึงถึงสภาพทางสังคมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งช่วย พัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรที่เกี่ยวข้อง ระบบวนเกษตรที่ดีควรสามารถเพิ่มการซึมซับน้ำ รักษาน้ำใต้ดิน ลดการสูญ เสียดิน ลักษณะพันธุ์พืชที่ใช้ควรเป็นทรงพุ่มเพื่อลดความรุนแรงของเม็ดฝนที่ตกกระทบผิวดินสามารถรักษาสภาพดุลย์ ของสภาวะแวดล้อมให้เหมาะสมกับพืชที่ปลูกร่วม เช่น บังร่มเงา พายุ ฝน อีกทั้งควบคุมสภาพความชุ่มชื้นและอุณหภูมิ ให้ดี พันธุ์ไม้ที่ปลูกควรมีรากลึกพอที่สามารถหมุนเวียนธาตุอาหารในระดับที่ลึกขึ้นมาสู่บริเวณผิวดิน เป็นประโยชน์ต่อ พืชรากตื้นที่ปลูกร่วม โดยรวมทั้งระบบควรให้ผลตอบแทนแก่เกษตรกรหลายด้าน เช่น ผลผลิตในรูปอาหาร ยารักษา โรค ไม้ฟืน ไม้สร้างบ้านและรายได้ สิ่งสำคัญที่สุดควรเป็นระบบที่อนุรักษ์ดินและน้ำได้ดีปลูกได้หลายสภาพแวดล้อม และง่ายต่อการปฏิบัติในสภาพของเกษตรกรวนเกษตรที่พอประยุกต์ใช้ในประเทศไทยมีอยู่ 3 ระบบใหญ่ คือ ระบบป่า ไม้-ไร่นา, ระบบป่าไม้-เลี้ยงสัตว์ และระบบเลี้ยงสัตว์-ป่าไม้-ไร่นา ซึ่งวิธีการนำแต่ละระบบไปประยุกต์ใช้ย่อมขึ้นอยู่กับ สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ของพื้นที่เป็นเกณฑ์
ผลผลิตให้ได้ผลผลิตสูงคุณภาพดี เราไม่สามารถละเลย ขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งได้เลย และสิ่งสำคัญที่จะละเลยไม่ได้ก็คือ “การติดตามควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน” ถ้ามีปัญหาอย่าตัดสินใจแก้ไขเองโดยพละการ ให้ปรึกษาผู้รู้ก่อน ในระหว่างทุก ๆ ขั้นตอน ย่อมมีอุปสรรคต่าง ๆ เกิดขึ้นเสมอ แต่อย่าวิตก เพราะทุกอย่างแก้ไขได้ทั้งสิ้น ขอให้ยึดหลักการที่ได้แนะนำมาเป็นทางแก้ ทั้งนี้เพราะมีปัจจัยต่าง ๆ มากมายที่จะทำให้เกิดอุปสรรค อาทิ ปัจจัยดินฟ้าอากาศ ปัจจัยสภาพพื้นที่ ๆ แตกต่างกัน เป็นต้น