ที่อยู่ 15
หมู 5 ตำบล : ครน อำเภอ : สวี จังหวัด: ชุมพร
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : อื่นๆ
ประวัติ :
ปลูกเพื่อกิน เพื่อขาย
เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย
ปลูกเพื่อกิน เพื่อขาย
ขั้นตอนและวิธีการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน
1. การเพาะเมล็ด นำฟองน้ำสำหรับเพาะเมล็ดบรรจุใส่ถาดเพาะเมล็ด รดน้ำให้ชุ่ม โดยใช้มือกดฟองน้ำแล้วรดน้ำตาม จากนั้นใช้ไม้ปลายแหลมจุ่มน้ำและแตะที่เมล็ดพันธุพืชประมาณ 2-3 เมล็ด (ถ้าเป็นผักสลัดใส่ 1 เมล็ด ) หลังจากใส่เมล็ดครบทุกช่องแล้ว นำถาดเพาะเมล็ดไปวางไว้ในที่ร่ม คลุมด้วยผ้าทึบแสงเพื่อกระตุ้นการงอกของเมล็ด ทำการรดน้ำให้ชุ่มทุกวันเช้า เย็น หลังจากเพาะได้ 3 วันเมล็ดจะเริ่มงอก
2. การอนุบาลต้นกล้า เปิดผ้าทึบแสงออกเพื่อให้ต้นกล้าได้รับแสง (โดยอาจใช้ตาข่ายพรางแสงชนิด 60 เปอร์เซ็นต์ 2 ชั้นพรางแสง) ทำการอนุบาลรดน้ำเช้า-เย็น จนกระทั่งต้นกล้าสูงประมาณ 2-3 เซนติเมตร มีระบบรากและใบเลี้ยงที่สมบูรณ์ (ประมาณ 3-4 วัน หลังจากเปิดผ้าทึบแสง)
3. การย้ายปลูก นำต้นกล้าที่มีอายุประมาณ 7-8 วัน ย้ายลงแผ่นปลูก โดยให้ยกแผ่นปลูกขึ้นมาแล้วสอดต้นกล้าเข้าไปทางด้านล่างของแผ่นปลูก แต่ถ้าหากปลูกในถ้วยปลูกให้ใส่ต้นกล้าลงในถ้วยปลูกก่อนแล้วจึงวางถ้วยปลูกลงบนแผ่นปลูกและให้รากสัมผัสกับน้ำ (ควรย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูกในตอนเย็นเพื่อให้พืชปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้)
4. การดูแลต้นกล้าหลังจากย้ายปลูก
4.1 การเติมธาตุอาหาร หลังจากย้ายปลูกต้นกล้าผ่านไป 1 วัน ให้เติมสารละลายธาตุอาหาร A ทิ้งไว้ ประมาณ 4 ชั่วโมง (หรือเมื่อสารละลาย A ผสมกับเข้าน้ำทั้งหมด) หลังจากนั้นให้เติมสารละลายธาตุอาหาร B ลงไป (อย่าเติมสารละลาย A และ B พร้อมกัน เนื่องจากเมื่อสารละลาย A และ B ที่มีความเข้มข้นสูงผสมกันจะทำให้ธาตุอาหารตะกอน ซึ่งจะทำให้ธาตุอาหารอยู่ในรูปที่พืชไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้)
4.2 ค่าปริมาณความเข้ม (Electrical conductivity ; EC) ของสารละลายธาตุอาหาร A และ B ที่เติมต้องมีความเหมาะสมต่อชนิดพืชที่ปลูก (ดังตารางที่ 1)
4.3 ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ของสารละลายธาตุอาหารที่พืชต้องการ (A+น้ำ+B =สารละลายธาตุอาหารที่พืชต้องการ)ที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 5.5-6.5 แนะนำให้ใช้กรดไนตริก (HNO3 ) และ โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ (KOH ) ปรับค่าความเป็นกรดเป็นด่าง เนื่องจากแตกตัวแล้วจะให้ธาตุไนโตรเจนและโพแทสเซียม ซึ่งพืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ด้วย
ดังนั้น ควรปรับค่า EC และค่าpH ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตลอดระยะเวลาการเพาะปลูก แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนถึงอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 1 สัปดาห์ (ตารางที่ 2) ควรงดเติมธาตุอาหารให้เติมแต่น้ำเพื่อป้องกันและลดการสะสมธาตุอาหารต่างๆในพืช โดยเฉพาะการสะสมไนเตรท
ตารางที่ 1 ค่า EC ที่เหมาะสมของพืชแต่ละชนิด
ชนิดของพืช | ค่า EC (mS/cm) |
คะน้าเห็ดหอม | 4.5 |
คะน้าฮ่องกง | 4.5 |
ผักสลัด | 1.8-2.0 |
ผักกาดขาว (ไดโตเกียว) | 3.5 |
กวางตุ้งฮ่องเต้ | 3-4 |
ผักโขม (โขมไวท์ลีฟ) | 2.0-2.5 |
ผักบุ้ง | 2.0 |
ที่มา : ศูนย์เกษตรกรรมบางไทร
ตารางที่ 2 อายุการเก็บเกี่ยวของผักชนิดต่างๆ
กลุ่มผัก | ผักในกลุ่ม | อายุเก็บเกี่ยว นับจากวันเพาะเมล็ด(วัน) | อายุเก็บเกี่ยว นับจากย้ายลงแปลงปลูก(วัน) |
ผัดสลัด | กรีนโอ๊ค บัตเตอร์เฮด กรีนคอส | 35-40 | 28-30 |
เรดโอ๊ค เรดคอรัล | 35-45 | 30-35 | |
มิซูน่า | 27-30 | 20-25 | |
ผักคะน้า | คะน้าฮ่องกง คะน้าเห็ดหอม | 32-35 | 25-30 |
ผักกาดขาว | ผักกาดขาวไดโตเกียว | 30 | 22-25 |
ผักกวางตุ้ง | กวางตุ้ง ฮ่องเต้ | 30-35 | 22-25 |
ทาห์ไช่ (ทาห์ซอยส์) | 32-35 | 25 | |
ผักโขม | โขมขาว โขมแดง | 24-25 | 17-18 |
ผักบุ้ง | ผักบุ้งจีน | 20-21 | 14-15 |
เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย