ค้นหาองค์ความรู้

ประชาชนในหมู่บ้านภูหลวงส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหลักในการทำเกษตรกรรม - ทำไร่สับปะรด  เมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตจะต้องอาศัยพ่อค้าคนกลางมารับซื้อ  เพื่อนำส่งเข้าโรงงานแปรรูป  ในบางครั้งผลผลิตที่ได้ที่ปริมาณมาก  ทำให้ราคาตกต่ำ  บางครั้งประสบปัญหาภัยแล้งและเกิดโรคระบาด  ทำให้ผลผลิตน้อยไม่คุ้มค่าการลงทุน  จึงได้ปรับเปลี่ยนแนวคิดการประกอบอาชีพ  โดยอาศัยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  แบ่งพื้นที่ปลูกพืชแบบผสมผสาน  ได้แก่  สวนกล้วย  พืชผักสวนครัว  ไร่ไผ่  และเลี้ยงปลา  เพื่อให้มีผลผลิตที่สามารถเก็บขายและสร้างรายได้ให้ครัวเรือนเป็นประจำทุกเดือน

ขั้นตอนการปลูกกล้วย

1. เตรียมแปลงให้มีระยะห่าง  6  เมตร  โดยการขุดหลุมขนาดกว้าง  0.50 x ยาว 0.50 x ลึก 0.50  เมตร

2. รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยมูลสัตว์ , ปุ๋ยหมัก

3. นำหน่อพันธุ์กล้วยน้ำหว้าใส่ลงในหลุมที่เตรียมไว้  กลบดินให้เต็มหลุม  และนำฟางคลุมหน้าดินเพื่อรักษาความชื้น

4. วางระบบให้น้ำ  โดยต่อท่อประปาเข้ากับสปริงเกอร์  เพื่อความสะดวกในการรดน้ำได้เหมาะสม

5. กำจัดวัชพืช  ตัดใบและให้ปุ๋ยบำรุงต้นเป็นระยะ  ควรตกแต่งกอกล้วยให้อยู่หลุมละประมาณ  3-4  ต้น  เพื่อให้ได้ผลผลิตที่สมบูรณ์    

กล้วยเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่  การบำรุงดูแลไม่ยุ่งยาก  ไม่ค่อยมีศัตรูพืช  ผลผลิตสามารถขายได้ตลอดทั้งปี  สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน

1. กล้วย , หัวปลี  ใช้รับประทาน  แปรรูปเป็นอาหาร 

2. ใบ  ใช้ห่ออาหาร  งานประดิษฐ์

3. ลำต้น  ใช้เป็นอาหารสัตว์  ขยายพันธุ์  งานประดิษฐ์

1. การปลูกกล้วยมีระยะเวลา  1  ปี  ก่อนให้ผลผลิต  เกษตรกรจึงควรหมั่นดูแลตกแต่งกอกล้วย  ด้วยการตัดใบ  แยกหน่อที่ขึ้นใหม่  กำจัดวัชพืช  และใส่ปุ๋ยบำรุงต้นเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง

2. ในบางช่วงผลผลิตที่ได้มีมากเกินไป  เกษตรกรสามารถแก้ไขปัญหาด้วยการแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างการตลาดให้มากขึ้น  ได้แก่  กล้วยทอด  กล้วยตาก  กล้วยฉาบ  กล้วยกวน