๑. วางผังโดยใช้พรึงที่ประกอบแล้วเป็นวงรอบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นเครื่องกำหนดมุมฉากกว้างยาวของบ้านมาวางเป็นผัง
๒. ปัก ”ฉะ นบ” โดยรอบตามจุด ๔ มุมและตรงที่วางเสาแล้ววางหลุมโดยฉะมบ หรือเข็มหมุดเป็นจุดศูนย์กลางหลุมวัดผ่าศูนย์กลาง ๓๐ ซม. (ในกรณีที่ใช้แระ แต่ถ้าใช้วัวกับกงพัดจะต้องกว้างกว่านี้)
๓. ยกพรึงออก
๔. ขุดหลุมกว้างประมาณ ๓๐ ซม. หากขุดกว้างมากเกินไป เสาจะเอนมากทำให้ล้มได้ หลุมลึกประมาณ ๗๕ ซม. ก้นหลุมวาดแระให้ได้ระดับ(เรือนไทยสมัยโบราณน้ำหนักบรรทุกไม่มาก แต่เรือนไทยโบราณมักจะทรุดเพราะทำฐานไม่พอรับน้ำหนัก)
- . ยกเสาลงหลุมตามลำดับเอก โท ฯลฯ
- . ใส่รอดเข้าที่ทุกเสา
- . ช่างไม้จะปืนขึ้นไปทุกเสาประจำเสา เสาละคนสอดไม้คาโคนหลุมที่ดิน เพื่อกันเสาเอนไปมาและไม่ให้เสาล้ม ยังไม่กลบหลุมเสา
- . ส่งเต้าขึ้นไปให้นำเต้าเข้าสอดตามรูเต้าทั้งเต้ารุมเต้าราย เมื่อสอดเต้าเข้าที่แล้วช่างไม้จะนั่งบนเต้า คนข้างล่างจะส่งขื่อขึ้นไป
- . วางขื่อสวมลงบนหัวเทียน แต่งโคนหลุมหรือผลักเสาให้ขื่อสวมหัวเทียนให้ได้
- . ที่ใดมีฝาประจันห้องยกเสาดั้งสอดใส่รูขื่อทะลุขึ้นไปให้ง่ามเสาดั้งนั่งบนหลังรอด
- . ส่งแปหัวเสาขึ้นทั้งสองข้าง ให้บ่าแปหัวเสาวางบนหัวขื่อที่เตรียมไว้วางแปหัวเสาให้เข้าที่
- . ติดตรึงโดยรอบโย้แต่งเสาติดตรึงพออยู่ไม่ให้แน่นใส่สลักตรึงสลักพออยู่จะให้พึงแน่นเมื่อใส่ฝาแล้ว
- . แต่งระดับน้าให้หลังรอด – พรึง –แปหัวเสาได้ระดับระยะนี้สำคัญมาก
- . ปูพื้นทั้งหลังวางพื้นทับบนรอดไม่ต้องตีตะปูวางทับเฉยๆ เพื่อเป็นนั่งร้านในการทำงานด้วย
- . นำแผงหน้าจั่วสองแผ่นวางให้ปลายล่างตีนจั่ว วางอยู่แน่นทับแปหัวเสาทั้งสองจั่วหัวท้าย
- . และที่ไม่มีฝาปิดประจันห้องติดตั้งดั้งลอย และใส่จันทันทั้งสองข้างโคนจันทันสวมติดกับแปหัวเสา ปลายจันทันติดยอดใบดั้งลอย
- . วางแปเข้าที่ทั้งสองข้าง ตีตะปูแปให้แน่นกับตัวจันทันและแผงหน้าจั่ว การตีแปติดกับจันทันและจั่วคงใช้ตะปูจีน
- . วางอก ไก่สวมลงไปกับเดือยใบดั้งบนเสาดั้ง เดือยแผงจั่วหัวท้ายและเดือยใบดั้งลอยวางที่บนขื่อ ตอกลิ่มเดือยใบดั้ง ส่วนเดือยแผงจั่วเป็นเดือยไม่ทะลุอกไก่ ระยะนี้จะเป็นระยะที่สำคัญที่สุด
- . ยก แผงฝาด้านยาวทั้งสองด้าน การยกฝาเข้าที่ต้องตอกเข้าถอยเข้าไปในเสาให้สุดตัว เฉพาะตัวที่จะบรรจุฝา (เพราะถ้ามีเต้าอยู่จะใส่แผงฝาไม่ได้ถนัด) เมื่อยกฝาเข้าที่ตั้งบนพรึงและอยู่ใต้แปหัวเสาได้แล้ว จึงตอกเต้ากลับออกมาเพื่อเตรียมยึดเชิงชายดังเดิม ทำเช่นนี้ทุกแผงฝา ยังไม่ต้องตอกตะปูจีนยึดฝากับเสาให้เต้ายึดอัดฝาไม้ไว้ก่อน ระยะนี้เวลาก่อสร้างจะเห็นประโยชน์ของเสาที่เอียงสอบเพราะจะรับแผงฝาไว้ได้ น้าหน้ำกฝาถ่ายลงให้เสาละเต้าจะช่วยอัดฝาไม่ให้ล้มหลุด ไม่ต้องตีตะปูก็จะตั้งอยู่ได้แต่ไม่แน่น
- . ติดฝาอุดหน้ากลองหัวท้ายและฝาประจันห้อง (วิธีเช่นฝาด้านยาว)
- . ติดเชิงชายด้านยาวแน่นกับเต้า
- . ติดเชิงชายด้านสกัด ตรึงเชิงชายให้ติดกับเต้าใส่สลักไม้อัดเชิงชายแน่นกับเต้าทุกตัว
- . ติดปั้นลมแน่นกับแปทุกตัว วางกลอนเจาะ (ถ้ามุงจาก) หรือวางกลอนขอสลับกลอนแบนที่มีรูใส่เดือยแล้วตีระแนง (หากมุงกระเบื้อง)
- . โย้แต่งตีนเสาให้เข้าที่ แต่งตามจนฝาแนบสนิททุกแผ่น
- . ตีตะปูจีนยึดฝากับเสาให้แน่น ตะปูแผ่นละ ๔ ตัว (สี่มุมฝา) ตรึงสลักยึดพรึงเสาติดแน่น
- . วางจันทันแฝงฝาเฉลียง เชิงชาย แป ปั้นลม กลอนของเฉลียง
- . กลบดินเชิงเสากระทุ้งให้แน่น
- . มุงหลังคา จะเป็นกระเบื้อง แฝก หรือจากสุดแต่ต้องการตามความจำเป็น
- . จัดทำกระเบื้องหลบ, แฝกหลบหรือจากตามลักษณะของเครื่องมุง
- . วางกระเบื้องครอบหลังคา