ที่อยู่ 48/2
หมู 3 ตำบล : มดแดง อำเภอ : ศรีประจันต์ จังหวัด: สุพรรณบุรี
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : มัธยมศึกษาปีที่ 6
ประวัติ :
ข้าพเจ้า ประกอบอาชีพทำการเกษตร เช่น การทำนา เป็นอาชีพหลัก มีทั้งข้าวหอมปทุม , กข ๑๑, และข้าวไรท์เบอรี่ ผลผลิตที่ได้ส่งจำหน่ายและบริโภคเอง จึงหันมาใช้สารชีวภาพ คือ บิวเวอร์เรีย มาสลับกับการใช้สารเคมี ซึ่งลดปริมาณการใช้สารเคมีเกินครึ่ง ทำให้ต้นทุนในการผลิตต่ำ ลดค่าใช้จ่าย ต้นกล้าแข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สารชีวภาพ (เชื้อบิวเวอร์เรีย) ใช้ควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ใช้ได้ผลดีระยะตัวอ่อน เพลี้ยไฟในกล้วยไม้ ไรแดง และแมลงบั่ว เป็นการลดรายจ่าย และต้นทุนในการผลิต ทำให้ต้นกล้าแข็งแรงต้นต่อโรค ถ้าใช้ตามระยะเวลาที่กำหนด สารเคมีไม่ต้องใช้ในนาข้าวได้เลย ปัจจุบันปลูกข้าวไว้บริโภคเอง เพราะปลอดภัยไร้สารเคมี
ข้าพเจ้า ประกอบอาชีพทำการเกษตร เช่น การทำนา เป็นอาชีพหลัก มีทั้งข้าวหอมปทุม , กข ๑๑, และข้าวไรท์เบอรี่ ผลผลิตที่ได้ส่งจำหน่ายและบริโภคเอง จึงหันมาใช้สารชีวภาพ คือ บิวเวอร์เรีย มาสลับกับการใช้สารเคมี ซึ่งลดปริมาณการใช้สารเคมีเกินครึ่ง ทำให้ต้นทุนในการผลิตต่ำ ลดค่าใช้จ่าย ต้นกล้าแข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เชื้อราบิวเวอเรีย ( Beauveria ) เป็นเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคกับแมลงได้หลายชนิด โดยเฉพาะเพลี้ย
กระโดดสีน้ำตาลและหนอนศัตรูพืช โดยเชื้อราจะสร้างเส้นใยและสปอร์สีขาว
¶ การผลิตขยายเชื้อราบิวเวอเรีย¶
วัสดุอุปกรณ์
1. เมล็ดข้าวโพด
2. หม้อนึ่งความดัน หรือหม้อนึ่งลูกทุ่ง
3. ถุงพลาสติกก้นจีบชนิดทนความร้อน
4. คอขวดพลาสติก
5. สำลี
6. หัวเชื้อราบิวเวอเรียบริสุทธิ์
7. ตู้ปลอดเชื้อ
8. อลูมิเนียมฟอยด์ / กระดาษใช้แล้ว
9. ยางวง
10. ตะเกียงแอลกอฮอล์
11. แอลกอฮอล์ 95 % และ 70 %
12. เข็มเขี่ยเชื้อ
ขั้นตอนการผลิต
1. แช่เมล็ดข้าวโพดในน้ำ ประมาณ 12 ชั่วโมง
2. นำเมล็ดข้าวโพดมาผึ่งแดด พอหมาด ๆ
3. กรอกเมล็ดข้าวโพด ใส่ถุงพลาสติกก้นจีบชนิดทนร้อน ประมาณ 0.5 กิโลกรัม ใส่คอขวด
จุกด้วยสำลีให้แน่น ปิดทับด้วยอลูมิเนียมฟอยด์ หรือกระดาษรัดด้วย ยางวง
4. นำไปนึ่งในหม้อนึ่งความดันที่อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียส ความดัน 15 ปอนด์ต่อ
ตารางนิ้ว นาน 25-30 นาที ถ้าเป็นหม้อนึ่งลูกทุ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ดับไฟปล่อยไว้ให้เย็นอีกประมาณ 30 นาที จึงเปิดฝาหม้อนึ่งออก
5. นำข้าวโพดออกจากหม้อนึ่งวางไว้ให้อุ่น ๆ เพื่อนำไปเขี่ยเชื้อ
6. ก่อนการเขี่ยเชื้อควรทำความสะอาดร่างกาย ล้างมือและแขนให้สะอาด แล้วเช็ดด้วย
แอลกอฮอล์ 95 %
7. ทำความสะอาดตู้เขี่ยเชื้อโดยเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ 95 % เปิดแสงอุลตราไวโอเลต
(แสงยูวี) ฆ่าเชื้อนาน 15 นาที
8. นำถุงเมล็ดข้าวโพด พร้อมอุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน เช่น ตะเกียง เข็มเขี่ยเชื้อ ไฟแช็ค
แก้วบรรจุแอลกอฮอล์ ใส่ตู้เขี่ยเชื้อ เปิดแสงอุลตร้าไวโอเลต (ยูวี) ฆ่าเชื้อนาน 15 นาที
9. ปิดแสงยูวี เปิดไฟปกติเพื่อเตรียมเขี่ยเชื้อ
¶ วงจรการเข้าทำลายแมลงของเชื้อราบิวเวอเรีย ¶
¶ การใช้เชื้อราบิวเวอเรียควบคุมศัตรูพืช¶
1. เชื้อราบิวเวอเรีย 1–2 กิโลกรัม / น้ำ 20 ลิตร โดยแบ่งน้ำออกเป็น 2 ส่วน
2. นำน้ำส่วนที่ 1 จำนวน 5 ลิตร ผสมกับเชื้อราบิวเวอเรียจำนวน 1–2 กิโลกรัม ทำให้สปอร์เชื้อราหลุดจากเม็ดข้าวโพดแล้วกรองด้วยผ้าบาง ๆ
3. นำน้ำส่วนที่ 2 จำนวน 15 ลิตร ผสมกับสารจับใบคนให้เข้ากัน
4. นำน้ำที่ได้จากข้อ 2 และข้อ 3 มาผสมกันและคนให้เข้ากัน
5. นำไปฉีดพ่นในแปลงที่พบเพลี้ยหรือหนอน โดยให้ฉีดพ่นในช่วงที่มีความชื้นสูง (ช่วงเวลาเย็นที่มีแสงแดดอ่อน ๆ หรือตอนเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น)
6. ควรปรับหัวฉีดให้พ่นฝอยละเอียดจะฉีดได้ผลดีและได้พื้นที่เพิ่มขึ้น
7. สามารถตรวจสอบผลการควบคุมศัตรูพืชได้หลังจากใช้เชื้อราบิวเวอเรียไปแล้ว 1–3 วัน
สารชีวภาพ (เชื้อบิวเวอร์เรีย) ใช้ควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ใช้ได้ผลดีระยะตัวอ่อน เพลี้ยไฟในกล้วยไม้ ไรแดง และแมลงบั่ว เป็นการลดรายจ่าย และต้นทุนในการผลิต ทำให้ต้นกล้าแข็งแรงต้นต่อโรค ถ้าใช้ตามระยะเวลาที่กำหนด สารเคมีไม่ต้องใช้ในนาข้าวได้เลย ปัจจุบันปลูกข้าวไว้บริโภคเอง เพราะปลอดภัยไร้สารเคมี