ค้นหาองค์ความรู้

นายไพศาล  แสวงการ  ถือได้ว่าเป็นบุคคลต้นแบบของบ้านบางเจริญ  ได้ยึดหลัก  เศรษบกิจพอเพียงมีการปลูกพืชผักหมุนเวียนตามฤดูกาล  แต่ผักหลัก  ๆ  ที่ปลูก  ได้แก่  ผักบุ้ง  แตงกวา  ถั่วฝักยาว  ข้าวโพด  เห็ดฟาง  มะนาวนอกฤดู  พืชผักที่ปลูกเน้นผักปลอดสารพิษ  ปราศจากสารเคมี  มีการวางแผนปลูกพืชผักแบบหมุนเวียนให้ตรงกับความต้องการของตลาดและฤดูกาล  นอกจากนั้นได้มีการผลิตปุ๋ย  หมักน้ำ  และปุ๋ยหมักแห้งใช้เองทั้งในสวนผักและสวนยางพารา  จนประสบความสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต  และสามารถลดต้นทุนการผลิต  อีกทั้งการเลี้ยงสัตว์  ทั้งการเลี้ยงไก่ไข่และบ่อปลาดุก  ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเกษตรแบบผสมผสาน  ที่สามารถนำเอาไปเป็นแบบอย่างได้  และได้รับการคัดเลือกเป็นบ้านตัวอย่างมาตั้งแต่  ปี  2542  อีก

               การจัดการปัจจัยการผลิต  การจัดการปลูกพืชผัก  จไม่ปลูกพืชผักที่ซ้ำซ้อนกันในพื้นที่เดียวกัน  เพื่อลดปัญหาเรื่องโรคและแมลง  ศัตรูพืช  และมีข้อสังเกตุในช่วงฤดูแล้ง  ช่วงใบยางพาราร่วงจะไม่ปลูกพืชกินใบ  เนื่องจขากจะมีแมลงรบกวนมากทำให้  พืชผักกินใยเสียหาย  พืชผักที่ปลูกเป็นหลักตลอดปี  คือ  แตงกวา  ผักบุ้ง  ผักกวางตุ้ง  มะละกอ  กล้วย  มะนาว  และพืชผักอื่น ๆ  สลับกันไปตลอดปี  ซึ่

งตนเองมีความชำนาญสามารถถ่ายทอดให้แก่เกษตรกรรายอืื่น ๆ  ได้

     ปัจจัยที่ส่งผลให้นายไพศาล  แสวงการ  ประสบความสำเร็จ  คือ  ได้นำความรู้ไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  อีกทั้งยังได้นำความรู้ตามแนวคิดและหลักปรัชญาของเศรษบกิจพอเพียงไปดำเนินงานในพื้นที่ของตนเอง  การเรียนรู้จากรประสบการณ์รวมถึงการปลูกพืชผัก  ต้องรู้เรื่องดินต้องศึกษาและสังเกตว่าพืชผักชนิดใดเหมาะสมกับดินชนิดใด  อีกทั้งช่วงหน้าฝนไม่เหมาะสมกับพืชผักกินใบ  ควรปลูกพืชตระกูลแตง  ถั่ว  บวบ  มะเขือ  ผักกินใบเหมาะที่จะ  ปลูกในช่วงเดือน  ธันวาคม -มกราคม  อีกด้วย  และยังเปผ้นแกนนำในหมู่บ้านในการพัฒนาต่าง ๆ  ที่เป็นสาะารณะประดยชน์  อันจะก่อให้เกิดประดยชน์แก่หมู่บ้านมากที่สุด

-

บ้านตัวอย่าง  ประจำปี  2552  ออกโดย  กรมการปกครอง  กรทรวงมหาดไทย

ไม่เคยเป็นวิทยากร  แต่หากมีการสั่งสอนและการทำให้ดูเป็นตัวอย่างแก่คนในชุชนเพื่อต้องการปลูกฝังองค์ความรู้ให้เกิดขึ้น