กลับไปหน้าค้นหา

นายทวี สุวรรณโณ

  • Facebook ID: -
  • Line ID: -
  • Email: -

ที่อยู่ 59 หมู 5 ตำบล : บางงอน อำเภอ : พุนพิน จังหวัด: สุราษฎร์ธานี
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : ปวส.
ประวัติ :

ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ ตัวเองไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรือต้องการอะไรเป็นสำคัญ จนมาอยู่บ้านสวน จึงได้รู้ว่าชอบอะไร รักอะไร และสภาพในขณะปฏิบัติงานประจำ(กรีดยาง) ก็ชอบที่จะเดินดูต้นไม้ทุกชนิดที่ปลูก เช่น กล้วย ทุเรียน ลองกองฯ



 


ความสำเร็จ :

ความสำเร็จที่เกิดขึ้น เพราะ การเอาใจใส่ หรือบริหารจัดการที่ดี มีความรักในอาชีพของตน เมื่อเจอปัญหาให้ปฏิบัติเพื่อแก้ไขโดยทันที ห้ามละเลย เมินเฉย เพราะคิดว่าเป็นแผลนิดเดียว ไว้ค่อยทำพรุ่งนี้โดยเด็ดขาด



 


ความชำนาญ : ปลูกทุเรียน


ข้อมูลปราชญ์ชาวบ้าน

  • ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ ตัวเองไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรือต้องการอะไรเป็นสำคัญ จนมาอยู่บ้านสวน จึงได้รู้ว่าชอบอะไร รักอะไร และสภาพในขณะปฏิบัติงานประจำ(กรีดยาง) ก็ชอบที่จะเดินดูต้นไม้ทุกชนิดที่ปลูก เช่น กล้วย ทุเรียน ลองกองฯ



     

  • วิธีการปลูก ทุเรียนที่จะมาปลูกต้องเป็นทุเรียนทีได้ชำไว้เรียบร้อยแล้ว มีอายุ 1 ปี ตอนปลูกควรนำดินที่ชำหรือที่ติดมากับรากออกสักครึ่งหนึ่ง จัดรากให้แผ่ออกไปรอบๆ ต้น ให้เหยียดตรงเมื่อทุเรียนโตขึ้นจะได้มีรากสมดุลกัน คือ แผ่รากไปรอบๆ ต้นป้องกันการโค่นล้ม วางกิ่งทุเรียนลงในกลางพูนดินให้ลำต้นตั้งตรง ใช้ไม้ไผ่ปักขนาบไว้ใช้ดินกลบโคน กิ่งตอนกลบพอมิดกาบมะพร้าวกิ่งทาบกลบพอเสมอดินเดิมหรือราว 1 นิ้ว ถ้าเป็นกิ่งเสียบยอดก็เช่นเดี่ยวกันไม่จำเป็นต้องปลูกลึกโค่นทุเรียนจม ถ้าเป็นฤดูฝนปลูกเสร็จแล้วควรให้โคนต้นทุเรียนสูงกว่าระดับดินธรรมดาเล็ก น้อยเพื่อกันน้ำแช่โคน ถ้าเป็นฤดูแล้งควรยกขอบรอบๆ การวางแนวปลูกทุเรียนต้องปลูกให้เป็นแถวตรงเป็นระเบียบ ควรปลูกร่องแรกกับร่องสองให้สลับกัน เพื่อความสวยงามและสะดวกเวลาปฏิบัติดูแลรักษา การปลูกไม่เป็นระเบียบทำให้ยากแก่การดูแล ทุเรียนไม่ชอบที่โล่งแจ้ง ควรปลูกกล้วยเป็นไม้บังร่มให้แก่ทุเรียนบ้างโดยเฉพาะทุเรียนในปีแรกที่ยังเล็กอยู่ กล้วยที่แนะนำให้ปลูกคือกล้วยไข่ กล้วยหอม  หรือไม่ก็เป็นการป้องกันกำจัดวัชพืช เพราะเมื่อมีกล้วยขึ้นปกคลุมแล้ว พวกวัชพืชก็จะขึ้นน้อยลง ทุเรียนที่ปลูก กิ่งพันธุ์อาจเป็นกิ่งตอน กิ่งเสียบยอด หรือ กิ่งทาบ ควรชำไว้ก่อนสักระยะหนึ่งก่อนมาปลูกที่สำคัญ อายุไม่ควรเกิน 1 ปี ให้ใบอ่อนแก่ก่อนหรือ เพฉลาด จึงนำมาปลูก ถ้ากิ่งพันธุ์ซึ่งปกติกิ่งพันธุ์ทุเรียนนิยมชำเอาไว้นาน หากดินมีลักษณะจับตัวกันแน่นรากของทุเรียนอาจขดอยู่ ฉะนั้นหลังจากเอาออกมาจากภาชนะปลูกแล้วใช้มือจับแยกดินเบาๆ เพื่อให้ดินแตกและรากที่ขดอยู่แยกออก



     



     



              ก่อนที่จะปลุกทุเรียน ควรที่จะปลูกไม้กันลมโดยรอบคันล้อม และปลูกไม้เพื่อเป็นร่มทุเรียนให้สูงขึ้นอย่างน้อย 3 เมตร เสียก่อน เมื่อเห็นว่าสวนร่มครึ้มดีแล้วจึงค่อยลงมือปลูกทุเรียนได้ ในการปลุกไม้กันลมควรเป็นไม้ที่มีระบบรากลึกแข็งแรง รากไม่แผ่ออกไปกว้าง เพราะจะไปรบกวนทุเรียนแถวริมสุด เป็นไม้ที่ปลูกง่ายไม่ผลัดใบในฤดูแล้ง เจริญเติบโตเร็ว กิ่งไม่เปราะ มีลำต้นเหนียวและโอนอ่อนไปตามกระแสลมได้ มีใบพุ่มหนาตลอดลำต้น ใบไม่ใหญ่โตนัก ไม้กันลมที่ควรใช้ปลูก เช่น แคบ้าน สะเดา ขี้เหล็ก จามจุรี ไม้ไผ่เป็นต้น หลังจากปลูกเสร็จแล้วต้องรดน้ำให้ทันที ในระยะแรกปลูกควรใช้แครงรดทุกวัน การรดน้ำทุเรียนในระยะแรกปลูกไม่ต้องรดมา เนื่องจากรากยังไม่เจริญไปห่างต้น รดเพียงโคนก็พอ การใช้ขนาดหรือเครื่องรดน้ำไม่ควรทำเพราะจะทำให้โคกพังเร็วขึ้น ยังทำให้ดินบริเวณนั้นจับกันแน่น รากเดินไม่สะดวกปี เมื่อทุเรียนจะเริ่มตั้งตัวได้ ถ้าเป็นกิ่งทาบหรือต้นเสียบยอดประมาณ 1 เดือน ก็จะเริ่มแตกใบอ่อนถ้าเป็นกิ่งตอนอาจแตกใบอ่อนช้ากว่าเล็กน้อย บางทีอาจ 2 เดือนก็มี



    วิธีการดูแลรักษา



          การดูแลสวนเป็นสิ่ง สำคัญที่จะทำให้ทุเรียนเจริญเติบโต และให้ ผลผลิตที่ดีและต้นทุเรียนมีอายุยืนยาว ให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำสวนก็คือทุเรียนให้ผลผลิตที่ดีมี คุณภาพและขายได้ราคาดี และในระหว่างรอทุเรียนให้ผลผลิต ในช่วงแรกควรปลูกพืชแซมเพื่อเสริมรายได้ โดยเลือกพืชให้ตรงกับความต้องการของตลาด เช่น กล้วยหอม หรือมังคุด การปฏิบัติดูแลสวนทุเรียนในช่วงให้ผลผลิตแล้วเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ ทุเรียนออกดอกติดผลมาก และให้ผลผลิต คุณภาพดี การเตรียมให้ต้นทุเรียนมีความสมบูรณ์ มีอาหารสะสมเพียงพอ เมื่อทุเรียนมีใบแก่ทั้งต้น และสภาพแวดล้อมเหมาะสม ฝนแล้ง ดิน มีความชื้นต่ำ อากาศเย็นลงเล็กน้อยทุเรียนก็จะออกดอก ขั้นตอนต่าง ๆ จะต้องรีบดำเนินการภายหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิต ดังนี้ ระยะที่ 1 ฟื้นฟูต้นหลังเก็บเกี่ยวทุเรียน ช่วงเดือน กรกฎาคม-กันยายน

              ระยะที่ 1 ฟื้นฟูต้นหลังเก็บเกี่ยวทุเรียน ช่วงเดือน กรกฎาคม-กันยายน 1.การตัดแต่งกิ่ง หลังเก็บเกี่ยวให้รีบตัดแต่งกิ่งแห้ง กิ่งเป็นโรค กิ่งแขนง ด้านในทรงพุ่มออกโดยเร็ว ทารอยแผลที่ตัดด้วยสารเคมีป้องกันกำจัด เชื้อรา หรือปูนแดงกินกับหมาก 2.กำจัดวัชพืชเก็บทำความสะอาดท้องร่อง สาดเลน เพื่อเป็นปุ๋ยทางธรรมชาติให้แก่ทุเรียน 3. เมื่อขี้เลนแห้งสนิทแล้วควรใส่ปุ๋ยทันที - ปุ๋ยคอก 15-50 กิโลกรัมต่อต้น (ประมาณ 3-10 ปีบ) ทุเรียนต้นที่ขาดความสมบูรณ์ต้องการปุ๋ยมากกว่าทุเรียนต้น ที่มีความสมบูรณ์อยู่แล้ว ทุเรียนต้นที่ให้ผลผลิตไปมาก ต้องการปุ๋ย มากกว่าทุเรียนที่ให้ผลผลิตน้อย 4.การกำจัดวัชพืชการป้องกันวัชพืชในสวนนับว่าเป็นสิ่งสำคัญและเป็นปัญหาใหญ่ ในการทำสวน โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งมีรากหาอาหารอยู่ในระดับผิวดิน ถ้าปล่อยให้หญ้าขึ้นรกรุงรังนอกจากจะแย่งอาหารและน้ำจากต้นทุเรียนแล้ว ยังเป็นที่อยู่อาศัยของแมลงศัตรูทุเรียนได้ด้วย ในกรณีที่ไม่สามารถรักษาสวนทุเรียนให้ปราศจากวัชพืชต่างๆ ได้ ซึ่งต้องทำการตัดหรือถากถางออกเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะในแปลงที่เป็นที่ดอนอย่างน้อยต้องทำการเก็บวัชพืชปีละไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง คือ กลางฤดูฝนขณะฝนทิ้งช่วงซึ่งจะอยู่ประมาณเดือนกรกฎาคม และปลายฤดูฝน หลังจากหมดฤดูฝนแล้วประมาณเดือนพฤศจิกายน หรือต้นเดือนธันวาคม ซึ่งวัชพืชที่ถากถางออกนี้เมื่อแห้งตายก็จะกวาดเข้าคลุมต้นทุเรียนที่ปลูก ได้อีก การป้องกันกำจัดวัชพืชอีกวิธีหนึ่งคือ การปลูกพืชคลุมหรือพืชแซม เช่น กล้วย หรือพืชคลุมชนิดต่างๆ พืชเหล่านี้จะช่วยคลุมไม่ให้วัชพืชเจริญงอกงามได้เร็ว โดยเฉพาะพืชคลุมจะคลุมจนวัชพืชตายหมด พืชคลุมเหล่านี้จะขึ้นคลุมปิดบังแสงแดดไม่ให้ส่องถึงผิวดินทำให้ดินไม่ร้อน จัดและชุ่มชื้นอยู่เสมอ การสูญเสียหน้าดินจากน้ำฝนน้อยลง 5. ป้องกันกำจัดโรคแมลง เช่น โรครากเน่าโคนเน่า เพลี้ยไก่แจ้ ไรแดงและเพลี้ยไฟ หนอนกินเปลือกต้นทุเรียน เริ่มระบาดในฤดูฝนควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

              ระยะที่ 2 ในช่วงปลายฤดูฝน ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เมื่อฝนทิ้งช่วงเกษตรกรต้องให้ความสนใจในการเข้าดูแลสวนอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมในการให้ทุเรียนออกดอก ฤดูฝนผ่านไปทุเรียนมีความสมบูรณ์เต็มทีพร้อมที่จะออกดอกให้ผลผลิตแก่เกษตรกร ชาวสวน การเริ่มต้นฤดูก็เกิดขึ้นสิ่งที่จะต้องทำดังนี้ 1.ให้กำจัดวัชพืชใต้ทรงพุ่ม กวาดเศษหญ้า และใบทุเรียน ออกจากโคนต้น เพื่อให้ดินแห้งเร็วขึ้น 2.ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ต้นละ 15-30 กิโลกรัมต่อต้น เพื่อช่วยกระตุ้นในการออกดอก 3.กักน้ำในท้องร่องสวนให้น้อย อยู่ในระดับต่ำและงดการรดน้ำ10-14วันเมื่อสังเกตเห็นใบทุเรียนเริ่ม สลดลงต้องเริ่มรดน้ำทีละน้อยเพื่อกระตุ้นให้ตาดอกเจริญ อย่าปล่อยให้ขาดน้ำนานจนใบเหลืองใบตกเพราะตาดอกจะไม่เจริญ และระวัง อย่ารดน้ำมากเกินไป เพราะช่อดอกอาจเปลี่ยนเป็นใบได้ วิธีการรดน้ำที่เหมาะสม คือ รดน้ำแบบโชย ๆ แล้วเว้นระยะ สังเกต อาการของใบและดอก เมื่อเห็นดอกระยะไข่ปลามากพอแล้ว ก็เพิ่ม ปริมาณให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนสู่สภาวะปกติ   

             
    ระยะที่ 3 การดูแลในช่วงออกดอก ช่วงเดือน มกราคม-กุมภาพันธุ์ 1. การควบคุมการรดน้ำ เมื่อทุเรียนออกดอกในระยะไข่ปลามีปริมาณมากพอแล้ว ก็เริ่มรดน้ำมากขึ้นจนสู่สภาพปกติ ในระยะก่อนดอกบาน 7-10 วัน(ระยะหัวกำไล) ไป จนถึงดอกบานช่วงดอกบานควรงดการรดและระยะปิ่นให้ลดการรดน้ำลง 2 ใน 3 ของปกติและเริ่มรดน้ำมากขึ้นในระดับปกติได้หลังจากผสมเกสรแล้ว 3 สัปดาห์ 2. การตัดแต่งดอก เพื่อให้เหลือดอกทุเรียนไว้ในปริมาณและตำแหน่งที่เหมาะสม ตัดดอกที่อยู่ตามกิ่งเล็ก ๆ หรือปลายกิ่งทิ้ง ควรตัดแต่งเมื่อดอกทุเรียนอยู่ในระหว่างระยะมะเขือพวง ถึงระยะหัวกำไล ถ้ามีดอกรุ่นเดียวกันปริมาณมาก ตัดแต่งให้เหลือปริมาณ ดอกพอเหมาะอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ ถ้ามีดอก 2 รุ่น ปริมาณต่างกัน ให้ตัดรุ่นที่มีปริมาณ ดอกน้อยออก แต่ถ้าปริมาณดอกมีน้อย จำเป็นต้องไว้ดอกต่างรุ่นควรไว้ดอกรุ่นเดียวกัน บนกิ่งเดียวกัน 3. ป้องกันกำจัดโรคแมลง เช่น เพลี้ยไฟ ไรแดง หนอน กัดกินก้านดอก โรคดอกเน่าและโรคดอกแห้ง



     



    ระยะที่ 4 การดูแลในช่วงติดผลแล้ว มีนาคม- เมษายน 1. ตัดแต่งผลครั้งที่ 1 หลังดอกบาน 3-4 สัปดาห์ ตัดแต่งผลที่มีรูปทรง บิดเบี้ยว ผลขนาดเล็กหรือผลต่างรุ่น ผลที่อยู่ใน ตำแหน่งไม่เหมาะสม เช่น ปลายกิ่ง ด้านข้างของ กิ่ง และผลที่ติดเป็นกระจุกใหญ่ ๆ ออกเหลือผล ที่ดีไว้มากกว่าที่ต้องการจริง 50 %ครั้งที่ 2 หลังดอกบาน 6-8 สัปดาห์ ตัดผลที่มีขนาดเล็กกว่า ผลอื่นในรุ่นเดียวกัน ผลบิดเบี้ยว ผลที่มีอาการ หนามแดงครั้งที่ 3 ตัดแต่งครั้งสุดท้ายตัดผลขนาดเล็ก ผลบิดเบี้ยว ผลก้นจีบออก จะเหลือผลที่มีขนาดและรูปทรง สม่ำเสมอ ในปริมาณเท่ากับที่ต้องการจริง เมื่อตัดแต่งผลครั้งสุดท้ายเสร็จ ควรโยงกิ่งหรือใช้ไม้ไผ่ค้ำ เพื่อป้องกันกิ่ง หักจากน้ำหนักผลที่มากขึ้น ป้องกันผลร่วงในพื้นที่มีลมแรง 2. การใส่ปุ๋ย หลังจากติดผลแล้ว 5-6 สัปดาห์ ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเร่งการเจริญของผล เพื่อเพิ่มคุณภาพเนื้อ ถ้าต้นทุเรียนขาดความสมบูรณ์ ใบเล็ก ใบซีด ไม่เขียวเข้ม ควรให้ปุ๋ยทางใบเสริมในช่วงสัปดาห์ที่ 5-10 หลังดอกบาน เพื่อช่วยให้ผลทุเรียนเจริญดีขึ้น 3. การควบคุมไม่ให้ทุเรียนแตกใบอ่อนถ้าทุเรียนแตกใบอ่อนในช่วงติดผล ใบอ่อนและผทุเรียน จะแย่งอาหารกันและเกิดผลเสีย ผลอ่อนร่วง รูปทรงลูกบิดเบี้ยว เนื้อคุณภาพ ด้อยเป็นเต่าเผา เนื้อแกน ถ้าพบว่าทุเรียนจะแตกใบอ่อน โดยสังเกตเห็นเยื่อหุ้มตา เริ่มเจริญหรือเรียกระยะหางปลา 4. การรดน้ำ ดูแลรดน้ำสม่ำเสมอ ตลอดช่วงที่กำลังติดผล 5. จดบันทึกวันดอกบาน ของแต่ละรุ่น แต่ละต้นไว้ พร้อมกับทำเครื่องหมายไว้โดยใช้เชือกสีที่แตกต่างกันในการค้ำกิ่งที่ติดผล แต่ละรุ่นเพื่อความสะดวกในการเก็บเกี่ยว 6. การป้องกันกำจัดโรคแมลง ตรวจสอบและป้องกันกำจัด โรคผลเน่า หนอนเจาะผล ทุเรียน ไรแดง เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง และเพลี้ยหอย 7.การป้องกันหนูหรือกระรอก เข้าทำลายกัดกินทุเรียน ถ้าสวนมีสัตว์รบกวนควรหาวิธีป้องกันดังนี้ - ทำความสะอาดเก็บ สิ่งของที่รกร้างกิ่งไม้รอบสวน เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัย ของหนูกระรอก - ตัดกิ่งไม้บริเวณรอบต้นทุเรียนของต้นไม้อื่นๆเพื่อตัดเส้นทางหนูได้ - นำสังกะสีแผ่นเรียบกว้าง 30 เซนติเมตร ยาวตามขนาดของต้นพันรอบโค่นต้นทุเรียน เป็นการป้องได้เฉพาะหนู - การป้องอีกวิธีหนึ่งคือการห่อ ให้ใช้ถุงพลาสติกใส่ขนาด 40x60 เซนติเมตร ตัดก้น ถุงและตัดข้างยาว 30 เซนติเมตร นำมาห่อทุเรียน ควรห่อให้คลุมตั้งแต่กิ่งที่ลูกทุเรียน นั้นติดอยู่ปล่อยชายถุงให้อากาศถ่ายเท่ได้สะดวก ป้องกันได้ทั้งหนู กระรอก นก

              ระยะที่ 5 การเก็บเกี่ยว พฤษภาคม มิถุนายน เลือกเก็บเกี่ยวเฉพาะผลทุเรียนแก่แล้วเท่านั้น อาจจะวิธีนับวันหรือสังเกตลักษณะตามพันธุ์ก็ได้ 1. ควรกำจัดวัชพืช เพื่อเตรียมพื้นที่ให้เก็บเกี่ยวได้สะดวก 2. เก็บเกี่ยวผลที่แก่แล้ว โดยสังเกตจากลักษณะของผลและ นับอายุ ลักษณะผลเมื่อทุเรียนแก่จะพบการเปลี่ยนแปลงดังนี้ - สีเปลือกจะเปลี่ยนจากเขียวสดเป็นสีน้ำตาลหรือเขียวแกมเทา แต่ผลที่อยู่นอกทรงพุ่มโดนแสงแดดมากจะมีสีน้ำตาลมากกว่าผลที่อยู่ ในทรงพุ่ม - ก้านผลเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาลคล้ำ สาก ตรงรอยต่อของระหว่าง ก้านผลตอนบนกับก้านผลตอนล่าง (ปลิง) จะบวมใหญ่ เห็นรอยต่อ ชัดเจน - ปลายหนามแห้งจะไหม้จากปลายหนามเข้ามามีสีน้ำตาล หนามกางออกร่องหนาค่อน ข้างห่าง - สังเกตรอยแยกบนพูจะเห็นได้ชัดเจนเป็นเส้นสีเหลือง ยกเว้นพันธุ์ก้านยาว จะเห็นไม่ชัด - ชิมปลิง ทุเรียนแก่จัด เมื่อตัดขั้วผลหรือปลิงออกจะพบ น้ำใส ๆ ไม่ข้นเหนียว เหมือนทุเรียนอ่อน ชิมดูจะมีรสหวาน - การเคาะเปลือกหรือกรีดหนาม ผลทุเรียนที่แก่จัดจะมี เสียงดังหลวม ๆ - ทั้งนี้เมื่อผลทุเรียนในต้นเริ่มแก่สุกและร่วงก็เป็นสัญญาณ เตือนว่าทุเรียนที่เหลือซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันเริ่มแก่สามารถเก็บเกี่ยวได้ แล้ว การนับอายุ โดยนับจำนวนวันหลังจากดอกบานจนถึงวันที่ผลแก่ พร้อม ที่จะเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละพันธุ์ เช่น พันธุ์ก้านยาวใช้เวลา 120-135 วันและ พันธุ์หมอนทองใช้เวลา 140-150 วัน การนับอายุนี้อาจคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อย ขึ้นกับอุณหภูมิ ของอากาศ เช่น อากาศร้อนและแห้งแล้ง ทุเรียนจะแก่เร็วขึ้น ฝน ตกชุกความชื้นสูงทุเรียนจะแก่ช้าเพื่อสะดวกในการจำและไม่ผิดพลาดในการตัด ทุเรียนอ่อน เกษตรกรควรจดบันทึกวันที่ดอกบาน และทำเครื่องหมายรุ่น ดังนี้ - จดบันทึกวันที่ดอกทุเรียนบานของแต่ละพันธุ์ และแต่ ละรุ่น - ทำเครื่องหมายรุ่นโดยในขณะที่ค้ำหรือโยงกิ่งด้วยเชือก ควรใช้สี ที่แตกต่างกันใน การค้ำหรือโยงกิ่งแต่ละรุ่น ทั้งนี้เพื่อสะดวกในการตัดทุเรียน ที่แก่มีคุณภาพดี

    วิธีการเก็บเกี่ยว

              - ตัดเหนือปลิงของก้านผล ด้วยมีดคมและสะอาดส่งลงมา ให้คนที่รอรับข้างล่าง อย่าให้ผลตกกระทบพื้น วิธีที่นิยมคือใช้เชือกโรย และใช้ตระกร้ารองรับทุเรียน - ห้ามวางผลทุเรียนบนพื้นดินในสวนโดยตรง เพื่อป้องกันเชื้อรา ที่เป็นสาเหตุของโรคผลเน่าติดไปกับผลทุเรียน -ควรวางทุเรียนในเข่งหรือภาชนะที่จัดเตรียมไว้ - ทำความสะอาด คัดคุณภาพ คัดขนาดก่อนจำหน่าย

              -เทคนิค การปลูก อยู่ที่การกลบดินโคนต้นให้เป็นหลังเต่า น้ำที่รดต้องอยู่บริเวณทรงพุ่ม น้ำที่ขังต้องอยู่รอบนอกของโคนต้น เพื่อกันโรคโคนเน่า เป็นสำคัญ

              - ข้อพึงระวัง ไม่ว่าฤดูฝนหรือฤดูแล้ง ห้ามไม่ให้โคนต้นแฉะเด็ดขาด

                *หมั่นเดินดูแปลงปลูกเป็นระยะ ๆ สังเกตลำต้น ว่ามีน้ำเยิ้มหรือไม่ ถ้าหากพบความผิดปกติ ว่ามีน้ำไหลออกมา ให้รีบรักษาโดยทันที

               - เมื่อพบว่าลำต้นมีน้ำเยิ้มออกมา ให้ใช้ของมีคม ขูดหรือถากบริเวณแผลหรือเปลือกของลำต้นออกประมาณ 30% (ความหนา) จะเห็นรอยหรือผิวด้านในของเปลือกไม้ ระหว่างเนื้อดีและร้าย ได้ชัดเจน จนหมดรอยเนื้อร้าย แล้วทาด้วยยา เมธาแลคซิน(ผสมน้ำแล้วทา)

              - ต้นใดไม่ต่อยอด จนดูเฉา ให้ใช้เมธาแลคซินผสมน้ำ ราดโคนต้น แล้วใส่ โปตัสเซี่ยม ฮิมเมท เพื่อเร่งรากใหม่

              *หรือ พบว่าทุเรียนต้นใด ไม่ต่อยอด หรือแตกใบอ่อน เหมือนต้นอื่น ๆ ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าผิดปกติหรือหมั่นฉีดยาฆ่าแมลง/ฮอร์โมนต์ หรือรักษาโรคแมลงที่ชอบกินใบอ่อน เพราะจะทำให้พืชหยุดการเจริญเติบโต

     

  • ความสำเร็จที่เกิดขึ้น เพราะ การเอาใจใส่ หรือบริหารจัดการที่ดี มีความรักในอาชีพของตน เมื่อเจอปัญหาให้ปฏิบัติเพื่อแก้ไขโดยทันที ห้ามละเลย เมินเฉย เพราะคิดว่าเป็นแผลนิดเดียว ไว้ค่อยทำพรุ่งนี้โดยเด็ดขาด



     

  • โรคแมลงที่ชอบกินใบอ่อน เพราะจะทำให้พืชหยุดการเจริญเติบโต

  • -

  • -