ค้นหาองค์ความรู้

การเลี้ยงโคขุนเป็นอาชีพที่กำลังเป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไป  เพราะสามารถทำกำไรให้แก่ผู้เลี้ยงมากพอสมควร  แต่เนื่องจากการเลี้ยงโคขุนเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่สำหรับผู้เลี้ยงและผู้บริโภคในประเทศไทย  ระบบต่าง ๆ  ยังไม่เข้ารูปเข้ารอยดีนัก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดโคมาขุนและการหาตลาด  ผู้เลี้ยงบางรายที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้ก็จะมีโอกาสขาดทุนได้

1.  การคัดเลือกโคมาเลี้ยงขุนและการจัดการโรงเรือน

                     ซื้อโคอายุประมาณ  1  ปี  อีกที่มีโครงสร้างลักษณะดี  ไม่แคระแกรน  โดยเน้นโคเพศผู้เป็นหลัก  เพราะจะโตเร็วและอัตราการแลกเนื้อสูง  อีกทั้งใช้ระยะเวลาในการขุนให้อ้วนท้วนสมบูรณ์สั้นกว่าเพศเมีย  โดยคุณสว่างจะซื้อมาครั้งละประมาณ  4-5  ตัว  ที่ตลาดนัดโค-กระบือ  จากนั้นนำมาเลี้ยงในคอกที่เตรียมไว้  ซึ่งคอกที่เลี้ยงจะเป็นพื้นดินมุงด้วยจาก  ตีไม้กั้นทำเป็นก้อนล็อก  ๆ  มีรางน้ำอยู่ข้างหลัง  และรางอาหารอยู่ข้างหน้า

2.  การให้อาหาร

                     การให้อาหาร  โคที่เลี้ยงขุนจะให้อาหารวันละ  2  ครั้ง  เช้า-เย็น  โดยจะให้ฟางข้าวที่ราดด้วย  Em  เจือ  จาง  (Em  เจือจาง  Em  2-3  ช้อนโต๊ะ/น้ำ  10  ลิตร  ผสมให้เข้ากันจากนั้นสามารถนำไปใช้ได้ทันที)  และอาหารโคขุนที่ทำเอง  โดยให้กินหลังจากโคกินอาหารที่ให้ก่อนหน้านั้นได้ทันทีที่อาหารหมด

           อาหารโคขุน

1.  ฟางแห้ง  หญ้าสด  รำอ่อนผสมรำแก่  กากน้ำตาล  กากมันสำปะหลัง  หัวอาหาร  เกลือแร่

3.  ระยะเวลาการดูแล

           การเลี้ยงขุนส่วนใหญ่  ใช้เวลาประมาณ  4  เดือน  ในช่วงสัปดาห์แรก  ให้กินหญ้าสดเป็นอาหารหลัก  เพื่อให้กระเพาะของโคปรับดสภาพ  พอเข้าสัปดาห์ที่  2  จึงเริ่มให้อาหารข้นตัวละ  1  กิโลกรัมต่อวัน  และลดปริมาณหญ้าสดลง  หากสังเกตว่าโคไม่มีอาการท้องเสีย  ก็ค่อย ๆ  เพิ่มอาหารข้นอีกสัปดาห์ละ  1  กิโลกรัมต่อตัวต่อวัน  จนกระทั่งเช้าช่วงเดือนที่  3-4  ปรับให้อาหารข้น  85  เปอร์เซ็นต์  ควบคู่กับอาหารหยาบ  15  เปอร์เซ็นต์  เพื่อเพิ่มน้ำหนักตัวให้มากขึ้น  วิธีนี้จะช่วยลดการป่วย  และตายของโคในช่วงแรกของการขุนและการต่อมาคือการจำหน่ายเราสามารถนำไปขายที่ตลาดนัดโค  กระบือได้  หรือติดต่อให้กับโรงฆ่าสัตว์ก็ได้แล้วแต่จะสะดวก

การเลี้ยงโคขุนจะสำเร็จได้ต้องประกอบด้วยปัจจัยหลัก  ๆ  ดังนี้คือ

-พันธ์ุดี

-อาหารดี

-เอาใจใส่ดูแลดี

-มีตลาดราคายุติธรรมและมั่นคง

             ถ้าท่านขาดข้อหนึ่งข้อใดก็ไม่ควรเลี้ยงโคขุนตามสมัยนิยม  แต่ท่านควรจะเลี้ยงแม่พันธ์ุเพื่อผลิลูกขายให้กับผู้เลี้ยงโคขุนจะดีกว่า

               การที่เราทำอาชีพนี้  เราต้องรักอาชีพของเราเองเราจึงจะสามารถดูแลโคได้ดีและมีความขยันที่ทำงานนี้  ดูแลอย่างดีเราจะได้ผลตอบแทนที่ดีและคุ้มค่าแก่การลงทมุน  อาชีพนี้สามารถทำให้เราอยู่รอดได้ในสังคมที่จะเข้าสู่้อาเซียน

-

-