ที่อยู่ 24
หมู 1 ตำบล : โพไร่หวาน อำเภอ : เมืองเพชรบุรี จังหวัด: เพชรบุรี
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : ประถมศึกษาปีที่ 6
ประวัติ :
นางสุมิตตา ฤทธิ์อ่อน เป็นปราชญ์ชุมชนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการทำกาละแมกะทิสดน้ำตาลโตนด ทำขายเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้ครอบครัวและชุมชน
ขยัน ซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ใช้วัตถุดิบสดใหม่ มีคุณภาพ ดำเนินชีวิตแบบพอเพียง หมั่นขยันศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองหรือจากหน่วยงานราชการต่างๆ เข้ามาส่งเสริม
นางสุมิตตา ฤทธิ์อ่อน เป็นปราชญ์ชุมชนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการทำกาละแมกะทิสดน้ำตาลโตนด ทำขายเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้ครอบครัวและชุมชน
1) กะทิสด หัวกะทิมะพร้าวช่วยให้เนื้อขนมเนียนเนื้อมันนุ่มและช่วยให้ไม่ติดกระทะ
2) น้ำตาลปิ๊บ ที่ได้มาจากน้ำตาลโตนด
3) แป้งข้าวเหนียวทำมาจากข้าวเหนียวโม่หรือบดเป็นแป้งแห้งป่นละเอียด บรรจุในถุงพลาสติก
4) แป้งท้าวยายม่อม
5) น้ำอ้อยดำป่นเพิ่มความมัน และกลิ่นหอม
6) แบะแซทำขนม (แป้งที่นำมาผ่านกระบวนการหมักจนกลายเป็นน้ำตาลกลูโคส ลักษณะใส เหนียวและมีรสหวาน)
ส่วนปริมาณของส่วนผสมในการทำกาละแมสูตรโบราณต่อ 1 ครั้งโดยประมาณจะใช้ กะทิสด 4 กิโลกรัม น้ำตาลปิ๊บ 1 กิโลกรัม แป้งข้าวเหนียว 500 กรัม แป้งท้าว 500 กรัม น้ำอ้อย 500 กรัม แบะแซทำขนม 1 กิโลกรัม ถั่วลิสง และ งา
1. นำเอากระทะตั้งบนเตาก่อนแล้วนำเอาแป้งข้าวเหนียวและน้ำตาลปี๊บใส่ลงไปในกระทะ
2. กรองกะทิสดลงไปในกระทะเพื่อผสมกับแป้วท้าวและน้ำสะอาดลงไปในกระทะที่เตรียมไว้
3. เทน้ำอ้อยป่นดำที่ละลายน้ำแล้วกรองลงไปในกระทะเพื่อให้ส่วนผสมที่เทลงไปไม่มีสิ่งเจือปนอยู่ในขนมกวน แล้วคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนได้ที่
4. เปิดเตาแก๊สแล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน
5. ใส่แบะแซแล้วคนไปเรื่อยๆ มีระยะเวลาในการกวนก่อนที่กาละแมจะเหนียวประมาณ 1 ชั่วโมง จนขนมกวนมีความเหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน
6. เมื่อขนมงวดได้ที่แล้ว เริ่มลดแก๊สลงให้เหลือเพียงแค่ขีดเดียวจากตอนแรกที่เปิดสองขีด และตักที่ไหม้ติดกระทะออก ตักที่เหลือขึ้นมาใส่ถาดที่รองด้วยแผ่นพลาสติกและพักไว้เพื่อให้กาละแมเย็นตัวลง แล้วจึงนำไปตัดเป็นชิ้นๆเล็กๆ ขนาดพอดีคำและโรยหน้าด้วยงาและถั่วลิสง หลังจากโรยหน้าเสร็จก็นำไปห่อบรรจุภัณฑ์นำส่งและขายให้กับลูกค้า
ขยัน ซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ใช้วัตถุดิบสดใหม่ มีคุณภาพ ดำเนินชีวิตแบบพอเพียง หมั่นขยันศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองหรือจากหน่วยงานราชการต่างๆ เข้ามาส่งเสริม