ที่อยู่ 9
หมู 6 ตำบล : ห้วยท่าช้าง อำเภอ : เขาย้อย จังหวัด: เพชรบุรี
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : อื่นๆ
ประวัติ :
อาชีพทำเกษตรเป็นอาชีพที่พ่อ แม่ ยึดมาตั้งแต่โบราณ หลังจากจบการศึกษา ป.6 นายนัด วงศ์เวช จึงได้ช่วยเหลือพ่อแม่ในการทำการเกษตรมาโดยตลอด จนได้แยกครอบครัวจึงยังดำเนินตามวิถีชีวิตที่พ่อแม่ถ่ายทอดมาด้วยการเป็นเกษตรกร เริ่มต้นจากการทำนาเพียงอย่างเดียว และระยะหลังราคาข้าวเริ่มตกต่ำ และได้ผลผลิตจากการทำนาน้อยลงเป็นบางช่วง จึงได้ศึกษาวิธีการปลูกข้าวที่ลดต้นทุนการผลิตและให้ผลผลิตจำนวนมากขึ้น จนได้ค้นพบวิธีการทำนาที่ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อมและได้ผลผลิตที่ค่อนข้างเยอะ
มีการศึกษาหาความรู้ ดูงาน การลองผิดลองถูก และการจดบันทึกกระบวนการวิธีต่างๆ ในการดูแลบำรุงรักษาต้นข้าวที่ปลูกให้ได้ผลผลิตที่ดี
อาชีพทำเกษตรเป็นอาชีพที่พ่อ แม่ ยึดมาตั้งแต่โบราณ หลังจากจบการศึกษา ป.6 นายนัด วงศ์เวช จึงได้ช่วยเหลือพ่อแม่ในการทำการเกษตรมาโดยตลอด จนได้แยกครอบครัวจึงยังดำเนินตามวิถีชีวิตที่พ่อแม่ถ่ายทอดมาด้วยการเป็นเกษตรกร เริ่มต้นจากการทำนาเพียงอย่างเดียว และระยะหลังราคาข้าวเริ่มตกต่ำ และได้ผลผลิตจากการทำนาน้อยลงเป็นบางช่วง จึงได้ศึกษาวิธีการปลูกข้าวที่ลดต้นทุนการผลิตและให้ผลผลิตจำนวนมากขึ้น จนได้ค้นพบวิธีการทำนาที่ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อมและได้ผลผลิตที่ค่อนข้างเยอะ
การไถดะคือ การไถพลิกหน้าดินครั้งแรกเพื่อกำจัดวัชพืช และตากดินให้แห้ง
การไถแปร คือการไถครั้งที่สองโดยไถขวางแนวไถดะ เพื่อย่อยดินและคลุกเคล้าให้ฟาง วัชพืช ฯลฯ ลงไปในดิน การไถ ไถด้วยแรงงานสัตว์ เช่น วัว ควาย รถไถเดินตาม รถแทรกเตอร์
2. 1
- (80
- 12-24 30-48 “” (
ในการหุ้มเมล็ดพันธุ์นั้น ควรวางเมล็ดพันธุ์ไว้ในที่ร่ม ไม่ถูกแสงแดดโดยตรง และขนาดของกองเมล็ดพันธุ์ต้องไม่โตมากเกินไป หรือบรรจุถุงขนาดใหญ่เกินไป เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนสูงในกองหรือถุงข้าว เพราะถ้าอุณหภูมิสูงเกินไปเมล็ดพันธุ์ข้าวจะตาย ถ้าอุณหภูมิพอเหมาะข้าวจะงอกเร็ว และสม่ำเสมอกันตลอดทั้งกอง
- การตกกล้า การตกกล้ามีหลายวิธีการ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและวัตถุประสงค์ เช่น การตกกล้าบนดินเปียก (ทำเทือก) การตกกล้าบนดินแห้ง และการตกกล้าใช้กับเครื่องปักดำข้าว การตกกล้าในสภาพเปียก หรือการตกกล้าเทือก เป็นวิธีที่ชาวนาคุ้นเคยกันดี การตกกล้าแบบนี้จะต้องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่เสมอ การดูแลรักษาไม่ยุ่งยากและความสูญเสียจากการทำลายของศัตรูข้าวมีน้อย มีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้
-
- 50-60 80-90 15-20
-
- 3-5 3-5 5-10
- 16-20-0) 25-40 7
-
1) 80-90
2) (
3) 1 12-15
4)
- 1 1 2 1 20x20 20x25
- 123 105 15 6 60 25x25
- 3-5 3-5
อายุกล้า การใช้กล้าอายุที่เหมาะสม จะทำให้ข้าวตั้งตัวเร็ว แตกกอได้มาก และให้ผลผลิตสูง อายุกล้าที่เหมาะสมสำหรับปักดำ ขึ้นอยู่กับชนิดและพันธุ์ข้าวดังนี้
- 1 1 2 20-25
- 123 105 15 6 60 25-30
ระดับน้ำในการปักดำ ควรมีระดับน้ำในนาน้อยที่สุด เพียงแค่คลุมผิวดิน เพื่อป้องกันวัชพืชและประคองต้นข้าวไว้ไม่ให้ล้ม การควบคุมระดับน้ำหลังปักดำก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะระดับน้ำลึกจะทำให้ต้นข้าวแตกกอน้อย ซึ่งจะทำให้ผลผลิตต่ำ ควรควบคุมให้อยู่ในระดับลึกประมาณ 1 ฝ่ามือ (10 เซนติเมตร)
มีการศึกษาหาความรู้ ดูงาน การลองผิดลองถูก และการจดบันทึกกระบวนการวิธีต่างๆ ในการดูแลบำรุงรักษาต้นข้าวที่ปลูกให้ได้ผลผลิตที่ดี
ควรปล่อยให้ดินนามีโอกาสแห้งสนิท เป็นระยะเวลานานพอสมควร และถ้าสามารถไถพลิกดินล่างขึ้นมาตากให้แห้งได้ก็จะดียิ่งขึ้น ถ้าดินเปียกน้ำติดต่อกันโดยไม่มีโอกาสแห้ง จะเกิดการสะสมของสารพิษ เช่นแก๊สไข่เน่า (ไฮโดรเจนซัลไฟด์) และกรดอินทรีย์ เป็นต้น ซึ่งถ้าสารเหล่านี้มีปริมาณมากก็จะเป็นอันตรายต่อรากข้าวได้
3. ดินกรดจัดหรือดินเปรี้ยวจัด มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างต่ำ (pH ต่ำกว่า4.0) ควรขังน้ำไว้อย่างน้อย 1 เดือน ก่อนปักดำข้าว เพื่อให้ปฏิกิริยาต่างๆ ตลอดจนความเป็นกรดของดินลดลงสู่สภาวะปกติ และค่อนข้างเป็นกลางเสียก่อน ดินกลุ่มนี้ถ้ามีการขังน้ำตลอดปี หรือมีการทำนาปีละ 2 ครั้ง ก็จะเป็นการลดสภาวะความเป็นกรดของดิน และการเกิดสารพิษลงได้ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตของข้าวสูงขึ้น
-ทำนา 35 ปี