กลับไปหน้าค้นหา

นายวิน เติมพูล

  • Facebook ID: -
  • Line ID: -
  • Email: -

ที่อยู่ 1 หมู 6 ตำบล : ห้วยท่าช้าง อำเภอ : เขาย้อย จังหวัด: เพชรบุรี
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : อื่นๆ
ประวัติ :

อาชีพทำเกษตรเป็นอาชีพที่พ่อ แม่ ยึดมาตั้งแต่โบราณ หลังจากจบการศึกษา ป.6 นายวิน เติมพูล จึงได้ช่วยเหลือพ่อแม่ในการทำการเกษตรมาโดยตลอด จนได้แยกครอบครัวจึงยังดำเนินตามวิถีชีวิตที่พ่อแม่ถ่ายทอดมาด้วยการเป็นเกษตรกร เริ่มต้นจากการทำนาเพียงอย่างเดียว และระยะหลังราคาข้าวเริ่มตกต่ำ และได้ผลผลิตจากการทำนาน้อยลงเป็นบางช่วง จึงได้ศึกษาวิธีการปลูกข้าวที่ลดต้นทุนการผลิตและให้ผลผลิตจำนวนมากขึ้น จนได้ค้นพบวิธีการทำนาที่ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อมและได้ผลผลิตที่ค่อนข้างเยอะ


ความสำเร็จ :

มีการศึกษาหาความรู้ ดูงาน การลองผิดลองถูก และการจดบันทึกกระบวนการวิธีต่างๆ ในการดูแลบำรุงรักษาต้นข้าวที่ปลูกให้ได้ผลผลิตที่ดี



 


ความชำนาญ : การทำนา


ข้อมูลปราชญ์ชาวบ้าน

  • อาชีพทำเกษตรเป็นอาชีพที่พ่อ แม่ ยึดมาตั้งแต่โบราณ หลังจากจบการศึกษา ป.6 นายวิน เติมพูล จึงได้ช่วยเหลือพ่อแม่ในการทำการเกษตรมาโดยตลอด จนได้แยกครอบครัวจึงยังดำเนินตามวิถีชีวิตที่พ่อแม่ถ่ายทอดมาด้วยการเป็นเกษตรกร เริ่มต้นจากการทำนาเพียงอย่างเดียว และระยะหลังราคาข้าวเริ่มตกต่ำ และได้ผลผลิตจากการทำนาน้อยลงเป็นบางช่วง จึงได้ศึกษาวิธีการปลูกข้าวที่ลดต้นทุนการผลิตและให้ผลผลิตจำนวนมากขึ้น จนได้ค้นพบวิธีการทำนาที่ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อมและได้ผลผลิตที่ค่อนข้างเยอะ


    •  




    1. การไถดะ และไถแปร  



    การไถดะคือ การไถพลิกหน้าดินครั้งแรกเพื่อกำจัดวัชพืช และตากดินให้แห้ง    



    การไถแปร คือการไถครั้งที่สองโดยไถขวางแนวไถดะ เพื่อย่อยดินและคลุกเคล้าให้ฟาง วัชพืช ฯลฯ ลงไปในดิน การไถ ไถด้วยแรงงานสัตว์ เช่น วัว ควาย รถไถเดินตาม รถแทรกเตอร์



    2. 1




    1. การเตรียมต้นกล้าให้ได้ต้นที่แข็งแรง เมื่อนำไปปักดำก็จะได้ข้าวที่เจริญเติบโตได้รวดเร็ว และมีโอกาสให้ผลผลิตสูง ต้นกล้าที่แข็งแรงดีต้องมีการเจริญเติบโตและความสูงสม่ำเสมอทั้งแปลง มีกาบใบสั้น มีรากมากและรากขนาดใหญ่ ไม่มีโรคและแมลงทำลาย



         - (80



         - 12-24 30-48 “” (



    ในการหุ้มเมล็ดพันธุ์นั้น ควรวางเมล็ดพันธุ์ไว้ในที่ร่ม ไม่ถูกแสงแดดโดยตรง และขนาดของกองเมล็ดพันธุ์ต้องไม่โตมากเกินไป หรือบรรจุถุงขนาดใหญ่เกินไป เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนสูงในกองหรือถุงข้าว เพราะถ้าอุณหภูมิสูงเกินไปเมล็ดพันธุ์ข้าวจะตาย ถ้าอุณหภูมิพอเหมาะข้าวจะงอกเร็ว และสม่ำเสมอกันตลอดทั้งกอง

         - การตกกล้า การตกกล้ามีหลายวิธีการ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและวัตถุประสงค์ เช่น การตกกล้าบนดินเปียก (ทำเทือก) การตกกล้าบนดินแห้ง และการตกกล้าใช้กับเครื่องปักดำข้าว การตกกล้าในสภาพเปียก หรือการตกกล้าเทือก เป็นวิธีที่ชาวนาคุ้นเคยกันดี การตกกล้าแบบนี้จะต้องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่เสมอ การดูแลรักษาไม่ยุ่งยากและความสูญเสียจากการทำลายของศัตรูข้าวมีน้อย มีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้



    -



    - 50-60 80-90 15-20



    -



    - 3-5 3-5 5-10



    - 16-20-0) 25-40 7



    -



    การตกกล้าในสภาพดินแห้ง การตกกล้าโดยวิธีนี้ ควรกระทำเมื่อฝนไม่ตกตามปกติ และไม่มีน้ำเพียงพอที่จะทำเทือกเพื่อตกกล้าได้ แต่มีน้ำพอที่จะใช้รดแปลงกล้าได้ มีวิธีการปฏิบัติดังนี้

         - การเตรียมดิน เลือกแปลงที่ดอนน้ำไม่ท่วม มีการระบายน้ำดี อยู่ใกล้แหล่งน้ำที่จะนำมารดแปลง ทำการไถดะตากดินให้แห้ง แล้วไถแปร คราดดินให้แตกละเอียด เก็บวัชพืชออก ปรับระดับดินให้ราบเรียบ

  • มีการศึกษาหาความรู้ ดูงาน การลองผิดลองถูก และการจดบันทึกกระบวนการวิธีต่างๆ ในการดูแลบำรุงรักษาต้นข้าวที่ปลูกให้ได้ผลผลิตที่ดี



     

  • ควรปล่อยให้ดินนามีโอกาสแห้งสนิท เป็นระยะเวลานานพอสมควร และถ้าสามารถไถพลิกดินล่างขึ้นมาตากให้แห้งได้ก็จะดียิ่งขึ้น ถ้าดินเปียกน้ำติดต่อกันโดยไม่มีโอกาสแห้ง จะเกิดการสะสมของสารพิษ เช่นแก๊สไข่เน่า (ไฮโดรเจนซัลไฟด์) และกรดอินทรีย์ เป็นต้น ซึ่งถ้าสารเหล่านี้มีปริมาณมากก็จะเป็นอันตรายต่อรากข้าวได้     




    1. ควรมีการหมักฟาง หญ้ารวมทั้งอินทรียวัตถุเพื่อให้สลายตัวสมบูรณ์ ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังการไถเตรียมดิน เพื่อให้ ดินปรับตัวอยู่ในสภาพที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของข้าว และสามารถปลดปล่อยธาตุอาหารที่จำเป็นออกมาให้แก่ต้นข้าว

    2. ดินกรดจัดหรือดินเปรี้ยวจัด มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างต่ำ (pH ต่ำกว่า4.0) ควรขังน้ำไว้อย่างน้อย 1 เดือน ก่อนปักดำข้าว เพื่อให้ปฏิกิริยาต่างๆ ตลอดจนความเป็นกรดของดินลดลงสู่สภาวะปกติ และค่อนข้างเป็นกลางเสียก่อน ดินกลุ่มนี้ถ้ามีการขังน้ำตลอดปี หรือมีการทำนาปีละ 2 ครั้ง ก็จะเป็นการลดสภาวะความเป็นกรดของดิน และการเกิดสารพิษลงได้ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตของข้าวสูงขึ้น

  • -
  • -