ค้นหาองค์ความรู้

ขนมจีน เป็นอาหารคาวอย่างหนึ่งของไทย ประกอบด้วยเส้นเรียกว่า เส้นขนมจีน และน้ำยาหรือน้ำยาขนมจีน เป็นที่นิยมทุกท้องถิ่นของไทย แต่มีการปรุงน้ำยาแตกต่างกัน แม้ว่า ขนมจีน จะมีคำว่า “ขนม” แต่ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับขนมใด ๆ ขณะเดียวกัน แม้จะมีคำว่า “จีน” แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาหารจี ภาษาเหนือเรียก ขนมเส้น ภาษาอีสาน เรียก ข้าวปุ้น จะมีขนมจีนชนิดหนึ่งซึ่งใกล้เคียวกับขนม คือ ขนมจีนซาวน้ำ เพราะมีรสหวาน นายวิสูตรเรืองเดช มีความชำนาญในการทำขนมจีน และน้ำยาต่าง ๆ เป็นอาชีพในการเลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด ขนมจีนของ นายวิสูตร เรือเดช เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับ ในหมู่บ้านหนองปลาไหล และหมู่บ้านข้างเคียง

     1. นำแป้งข้าวจ้าวมานวดกับน้ำให้เหนียวนุ่มโดยการเหยาะน้ำลงไปทีละนิด แล้วปั้นเป็นก้อน

               2. นำแป้งทีนวดจนได้ที่และปั้นเป็นก้อนแล้วนำไปต้มหรือนึ่งให้สุกจากด้านนอกเข้าไปแค่ประมาณ 2 เซนติเมตร

               3. นำแป้งที่ต้มหรือนึ่งแล้วนำไปบี้แล้วตำทั้งร้อน ๆ เลข จะใช้ครกหรือเครื่องนวดก็ได้

               4. พอตำหรือนวดจนแป้งได้ที่ เหนียวหนืดห้ามเหลวเป็นอันขาด โดยการใช้ช้อนตักแล้วไม่หยด ออกไปทางหนืดเป็นอันใช้ได้ จากนั้นนำไปบีบโดยเครื่องบีบเส้น อาจดัดแปลงใช้กระป๋องเจาะรูแทนก็ได้ บีบให้เส้นขนมจีนเป็นเส้นลงไปในหม้อน้ำที่ต้นเดือดไว้รอแล้ว

               5. พอเส้นลอยขึ้นมา นำกระชอนตักเส้นขึ้นมา แช่น้ำเย็นทันที แล้วจับเป็นหัวให้สวยงามน่ากิจ เป็นอันเสร็จพิธีการทำเส้นขนมจีนแป้งสด

     1. ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่ หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ กระชาย และเนื้อปลาช่อนลงไปต้ม จนสุก เนื้อหอมแดง กระเทียมและกระชายเริ่มอ่อน

               2. จากนั้นแยก หอมแดง กระเทียม กระชาย ข่า ตะไคร้ และเนื้อปลาช่อน มาโขกรวมกันให้ละเอียด

               3. จากนั้นนำลงไปในหม้อต้มสุกอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นปรุงรสด้วย กะปิ เกลือ และเติมลูกชิ้นปลาลงไปต้มด้วย

                1.  ต้องมีใจรัก มีความเอาใจใส่

                2.  พิถีพิถันในกระบวนการผลิต รักษาความสะอาด

                3.  ศึกษาหาสูตรน้ำยาใหม่ ๆ เพื่อไว้รับประทานกับขนมจีน

ต้องมีความใส่ใจ คัดเลือกวัตถุดิบที่สด ใหม่ การผลิตต้องมีความสะอาด