กลับไปหน้าค้นหา

นางจิราพร กรดกล้า

  • Facebook ID: -
  • Line ID: -
  • Email: -

ที่อยู่ 17 หมู 1 ตำบล : บางไทร อำเภอ : ตะกั่วป่า จังหวัด: พังงา
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : มัธยมศึกษาปีที่ 6
ประวัติ :

ข้าวเกรียบกุ้ง เป็นอาหารว่างชนิดหนึ่งที่ทำจากแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก และข้าวเกรียบอาจมีส่วนประกอบของผัก หรือผลไม้  ข้าวเกรียบกุ้งเป็นอาหารว่างที่สามารถทำเองได้ และยังสามารถสร้างรายได้เสริมได้ ดังนั้นถ้าหากเรามีเวลาว่างเราก็สามารถทำข้าวเกรียบกุ้ง หรือข้าวเกรียบอื่นๆได้อีก


ความสำเร็จ :

1.ให้สมาชิกกลุ่มแม่บ้านใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์



2.สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวและหมู่บ้านได้



3.ส่งเสริมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พอกิน พอใช้ มีเหตุมีผล มีความคุ้มค่า



4. เพื่อนำไปเผยแผ่เป็นอาชีพให้คนในชุมชน 


ความชำนาญ : ทำข้าวเกรียบกุ้ง/ปลา


ข้อมูลปราชญ์ชาวบ้าน

  • ข้าวเกรียบกุ้ง เป็นอาหารว่างชนิดหนึ่งที่ทำจากแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก และข้าวเกรียบอาจมีส่วนประกอบของผัก หรือผลไม้  ข้าวเกรียบกุ้งเป็นอาหารว่างที่สามารถทำเองได้ และยังสามารถสร้างรายได้เสริมได้ ดังนั้นถ้าหากเรามีเวลาว่างเราก็สามารถทำข้าวเกรียบกุ้ง หรือข้าวเกรียบอื่นๆได้อีก

  •  ส่วนผสม 



    – กุ้งสด 1/2 ครึ่งกิโลฯ

    – แป้งมัน (หรือแป้งสิงคโปร์) 1/2 ครึ่งกิโลฯ

    – แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย

    – กระเทียม 15 กลีบ

    – พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ

    – เกลือป่น 1 1/2 หนึ่งช้อนโต๊ะครึ่ง

    – น้ำมันพืช (สำหรับทอด)



    วิธีทำ



    1. นำกุ้งไปล้างน้ำ ปอกเปลือก ผ่าหลังชักไส้ดำออก แล้วใส่ตะแกรงผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ



    2. กระเทียม พริกไทย ใส่ครกลงโขลกให้ละเอียด จากนั้นนำกุ้งใส่แล้วโขลกต่อไปจนเหนียว เติมเกลือป่านลงไปพอเค็ม แล้วโขลกต่อสักครู่ ตักขึ้นพักไว้



    3. นำแป้งมัน (หรือแป้งสิงคโปร์) และ แป้งข้าวเจ้าผสมรวมกัน ใส่แร่งกรองให้หมดผง นำแป้งใส่ลงในชามกุ้งที่โขลกไว้ทีล่ะน้อย เติมน้ำลงไปนวดจนแป้งเหนียว และทำขั้นตอนนี้ต่อจนกว่าแป้งจะหมด



    4. เมื่อได้แป้งครบแล้ว ให้ลองปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ลวกในน้ำร้อนให้สุกแล้วชิมรสดู ถ้ายังอ่อนเค็ม ให้เติมเกลือแล้วนวดใหม่จนได้รสที่ต้องการ



    5. ปั้นแป้งเป็นท่อนกลมๆ คลึงออกให้เป็นแท่งยาวๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว (แต่ไม่ต้องยาวมากนัก เพราะจะใส่รังถึงนึ่งไม่สะดวก)



    6. จัดเรียงท่อนแป้งใส่รังถึง แล้วยกขึ้นตั้งไฟนึ่ง ประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อสุกดีแล้ว หยิบขึ้นแผ่ทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นหั่นให้เป็นแว่นบางๆ และนำไปตากแดดให้แห้ง อีก 1 วัน



    7. เวลารับประทาน ใส่น้ำมันตั้งไฟ นำลงทอดจนเป็นสีเหลืองทอง ยกขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน รับประทานคู่กับน้ำพริกเผา

  • 1.ให้สมาชิกกลุ่มแม่บ้านใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์



    2.สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวและหมู่บ้านได้



    3.ส่งเสริมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พอกิน พอใช้ มีเหตุมีผล มีความคุ้มค่า



    4. เพื่อนำไปเผยแผ่เป็นอาชีพให้คนในชุมชน 

  • -
  • -
  • -