กลับไปหน้าค้นหา

นางศศิพร ทองศรีสุพรรณ

  • Facebook ID: -
  • Line ID: -
  • Email: -

ที่อยู่ 63 หมู 2 ตำบล : กรูด อำเภอ : พุนพิน จังหวัด: สุราษฎร์ธานี
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : ประถมศึกษาปีที่ 6
ประวัติ :

เนื่องจากได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP  ทำให้มีโอกาสได้เจอกับ “โกเซี้ยง” ผู้ผลิตแค็ปหมูจาก อ.กาญจนดิษฐ์  จึงได้ประสาน ขอเรียนรู้สูตรการทำแค็ปหมู จากโกเซี้ยง และได้ทดลองทำจนสามารถนำออกจำหน่ายได้  ในปัจจุบันได้จำหน่ายในตลาดอำเภอพุนพิน  กม.18  อ.บ้านนาเดิม  อ.บ้านนาสาร ทำให้มีรายได้เสริมในครอบครัว นอกเหนือจากทำอาชีพทำสวน และปลูกผัก


ความสำเร็จ :

- มีความขยัน  อดทน  เปิดใจที่จะเรียนรู้ และรับคำติชม เพื่อนำมาพัฒนาให้ดีขึ้น



          -วัตถุดิบที่เลือกใช้ต้องมีคุณภาพ



          -กระบวนการผลิตต้องสะอาด ปลอดภัยจากสิ่งปลอมปน



          -รสชาติต้องอร่อย และคงที่  


ความชำนาญ : ทำแคปหมู


ข้อมูลปราชญ์ชาวบ้าน

  • เนื่องจากได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP  ทำให้มีโอกาสได้เจอกับ “โกเซี้ยง” ผู้ผลิตแค็ปหมูจาก อ.กาญจนดิษฐ์  จึงได้ประสาน ขอเรียนรู้สูตรการทำแค็ปหมู จากโกเซี้ยง และได้ทดลองทำจนสามารถนำออกจำหน่ายได้  ในปัจจุบันได้จำหน่ายในตลาดอำเภอพุนพิน  กม.18  อ.บ้านนาเดิม  อ.บ้านนาสาร ทำให้มีรายได้เสริมในครอบครัว นอกเหนือจากทำอาชีพทำสวน และปลูกผัก

  • วิธีการทำแคบหมู,การเตรียมส่วนผสม,การทอดแคบหมู,เทคนิคในการทอด,การบรรจุและการเก็บรักษาแคบหมู



    วิธีการทำแคบหมู



    1. แคบหมู นิยมทำจากหนังหมู เนื่องจาก หนังหมูมีราคาถูก หาง่าย



    2. การทำแคบหมู เป็นวีธีการแปรรูปหนังหมู ให้เป็นอาหาร ที่เก็บไว้ได้นาน มีรสชาติอร่อย ทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าของหนังหมู ให้มีราคาสูงขึ้นด้วย



    การเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำแคบหมู  ประกอบด้วย



              1. กระทะสำหรับทอด                         1     ใบ



              2. กะละมังขนาดกลาง                         2     ใบ



              3. อั้งโล่ หรือเตาไฟขนาดใหญ่                1     ใบ



              4. ฟืนหรือถ่านตามสมควร



              5. ปี๊บหรือหม้อเคลือบมีฝาปิด                  2     ใบ



              6. ตะหลิวมีด้ามยาว                             1     อัน



              7. กระชอนตักแคบหมูจากกระทะ            1     อัน



              8. ตะกร้าไม้ไผ่สำหรับพักน้ำมัน                1     ใบ



              9. ตราชั่งสำหรับชั่งหนังหมูและแคบหมู



              10.ถุงพลาสติกขนาดต่าง ๆ และยางรัดของ



              11.กระดาษซับน้ำมัน



    การเตรียมส่วนผสม



    ส่วนผสมในการทำแคบหมู ประกอบด้วย



    1. เกลือ เป็นเครื่องปรุงที่เพิ่มรสชาติแคบหมูให้มีรสเค็ม กลมกล่อม



    2. ผงชูรส เป็นเครื่องปรุงเสริมแต่งให้แคบหมูรสชาติดียิ่งขึ้น ควรเลือกซื้อผงชูรสที่มีคุณภาพดีพอสมควร



    3.ซีอิ๊วขาว ใช้สำหรับแต่งสี และปรุงให้แคบหมูมีสีเข้ม มีรสและกลิ่นน่ารับประทาน



    4.น้ำมัน ใช้สำหรับทอดและต้มแคบหมู ควรเป็นน้ำมันใหม่ สะอาด ไม่เหม็นหืน และไม่มีสีดำคล้ำ



    ส่วนผสม(ทำจำหน่าย)



    1. หนังหมู   10  กิโลกรัม  (นำมาต้มก่อน)



    2.เกลือ  1 1/4  ถุง ถุงละ  100  กรัม



    3.ผงชูรส   4  ช้อนโต๊ะ



    4.ซีอิ๊วขาวหรือดำ  1 ช้อนโต๊ะ



    ส่วนผสม (สำหรับรับประทานในครอบครัว)



    1. หนังหมู   2  กิโลกรัม



    2. เกลือ  1  ช้อนโต๊ะ



    3. ผงชูรส/ผงปรุงรส



    4. ซีอิ๊วขาวหรือดำ ½ หรือ 1 ช้อนชา



    หมายเหตุ  หากใช้ซีอิ๊วดำให้ลดปริมาณลงครึ่งหนึ่งของซีอิ๊วขาว



    ข้อแนะนำ



    1. ส่วนผสมสำหรับทำขายและส่วนผสมสำหรับทำรับประทานในครอบครัว หากประสงค์จะทำแคบหมูจำนวนมากหรือน้อยกว่านี้ ก็ให้เพิ่มหรือลดส่วนผสม ลงตามต้องการ หากจะทำสำหรับบริโภคในครอบครัว ควรจะใช้หนังหมูไม่น้อยกว่า  2 กิโลกรัม  มิเช่นนั้นจะได้แคบหมูที่ไม่พองเท่าที่ควร



    2. ถ้าใส่ส่วนผสม ซีอิ๊วมากเกินไป จะมีผลทำให้แคบหมูไม่พ่อง



    3. ถ้าใช้หนังหมูที่ติดมันมากเกิน 1 นิ้ว จะทำให้แคบหมูพองนิ้ว



    4. ตามเกณฑ์ปกติ แคบหมูที่ได้รับจากการทอดหนังหมูจะได้น้ำหนัก  1 ใน 3  ของน้ำหนักหนังหมู  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนมันที่ติดกับหนังหมูที่ใช้ในการทำแคบหมู  หากมีมันมากก็จะได้แคบหมูจำนวนน้อย แต่ได้น้ำมันมากตามส่วน



    ขั้นตอนการทำแคบหมู



    1. นำหนังหมูสดที่ซื้อมาทำความสะอาด  หมักกับเครื่องปรุง  เกลือ ผงชูรส/ผงปรุงรส ซีอิ๊วขาว ไว้ประมาณ 10-30 นาที (ถ้าต้องการให้รสชาติเข้มข้นก็หมัก 30 นาที)



        การทำความสะอาดหนังหมู    การทำความสะอาดหนังหมู มีขั้นตอนการทำดังนี้

             1.1. นำหนังหมูที่เลือกอย่างดีแล้วมาทำความสะอาด โดยการใช้ใบมีดโกน ชนิดมีด้าม ขูดสิ่งสกปรก ที่ติดมากับหนังหมูออก พร้อมขูดขนหมู หรือถอนขนหมู ออกให้หมด แล้วจึงล้างน้ำสะอาด เทใส่ตะกร้าพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

             1.2. ในกรณีที่หนังหมูมีกลิ่นไม่สะอาดเพราะเก็บไว้นาน มีวิธีทำความสะอาด และขจัดกลิ่น นอกจากทำการขูดสิ่งสกปรกและขนออกแล้ว ให้นำไปล้างน้ำ ผสมสารส้ม อย่างเจือจาง แล้วจึงนำไปล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากหั่นหมู เป็นชิ้นแล้ว











     



    2.นำหนังหมูที่หมักกับเครื่องปรุง แล้วมาต้มกับน้ำมันให้สุก (ใช้น้ำมันปาล์มในการต้ม) เพื่อไล่น้ำมันออกจากหนังหมู โดยต้มประมาณ 5 นาที เมื่อหนังหมูเย็น ให้นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ



             2.1การต้มหนังหมูด้วยน้ำมันให้สุก

                   นำหนังหมูที่หมักเครื่องปรุงแล้ว ใส่ลงในกระทะที่เตรียมไว้สำหรับต้มหนังหมู  ที่มีความกว้างและลึกให้ได้ส่วนกับจำนวน หนังหมูที่จะต้มโดยใส่น้ำมันท่วมหนังหมู  และให้มีที่ว่างพอสมควร เพื่อสะดวก ในการคนมิให้หนังหมู และน้ำมันล้นออกมานอกกระทะ ในขณะที่ต้ม



                   สำหรับเชื้อเพลิงที่ใช้ในการต้มนี้ ส่วนมากถ้าทำในเชิงธุรกิจ นิยมใช้ฟืน หรือถ่าน อุณหภูมิประมาณ 110 องศาเซลเซียส แล้วคนคลุกเคล้าไปเรื่อย ๆ เพื่อมิให้หนังหมู ติดก้นกระทะ และไหม้ได้ ให้คนกลับไปกลับมา พลิกข้างล่างขึ้นมาข้างบน และเกลี่ยขอบกระทะไปในตัวโดยคนด้วยตะหลิวด้ามยาวหรือไม้พาย



               2.2. นำหนังหมูที่ต้มสุกแล้วมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ



              การหั่นหนังหมูก็มีบทบาทสำคัญในอันที่จะทำให้หนังหมู ที่ทอดเป็นแคบหมู แล้ว มีลักษณะพองมาก หรือน้อย และเป็นเส้นตรง หรือขดงอเป็นก้อนกลม ชวนรับประทาน ไม่น้อยไปกว่าขนาดที่ตัด ฉะนั้น ในการหั่นหนังหมู จะต้องคำนึงถึง ลักษณะของหนังหมู และขนาดที่ตัดไปพร้อมกันด้วย จึงจะได้ แคบหมู ที่มีลักษณะ พอง และขดงอเป็นก้อนกลมน่ารับประทาน แบ่งการหั่นได้ 2 ขั้นตอน ดังนี้ 

              ขั้นตอนที่ 1

                       หั่นหนังหมูตามความยาวของลำตัวหมูตลอดชิ้น โดยกำหนด ชิ้นส่วนของ หนังหมู ที่ต้องการหั่นให้ได้ขนาด 1 - 1.5 x 3 นิ้ว โดยหั่นหนังหมูตามยาว 3 นิ้ว

              ขั้นตอนที่ 2 

                       จากการหั่นหนังหมูได้ความยาวตามลำตัวหมูกว้าง 3 นิ้วแล้ว จึงนำหนังหมู ที่หั่นได้มาหั่นเป็นชิ้นเล็กให้มีขนาด 1 - 1.5 นิ้ว ก็จะได้ชิ้นส่วนของ หนังหมู ที่หั่นเสร็จขนาด 1 - 1.5 x 3 นิ้ว หากจะหั่น ขนาดโต กว่านี้ ก็ใช้หลักในการหั่น ทำนองเดียวกัน ต่อจากนั้นนำหนังหมูที่หั่นได้ไปล้างน้ำสะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ



    3.นำหมูที่หั่นเป็นชิ้นแล้วมาต้มไล่น้ำมัน  (วิธีนี้ ไม่ต้องนำหนังหมูไปตากแดด)



               โดยนำกระทะ ตั้งไฟใช้ความร้อนประมาณ100-110 องศา  ใส่น้ำมันลงในกระทะ ความร้อนได้ที่ให้นำหนังหมูที่หั่นแล้วใส่ลงไปเพื่อไล่น้ำมัน  ให้สังเกตว่า จะมี น้ำมันลอยออกมาบ้างแล้ว หากหนังหมูมีมันติดมาก ก็ไม่ต้องเติม น้ำมัน ที่สะอาด และบริสุทธิ์ลงไป แต่ถ้าหนังหมูมีมันติดน้อย หรือไร้มันก็ให้เติมหนังหมู ลงไป พอสมควร เพื่อป้องกัน มิให้หนังหมูติดก้นกระทะและจับเป็นก้อน ให้หนังหมู ถูกความร้อนโดยทั่วกัน ในขณะเดียวกัน ก็คอยแยกหนังหมูมิให้ติดกัน



               เมื่อหนังหมูที่ต้มหดตัวและมีน้ำมันออกมามากพอสมควรแล้ว จะสังเกต เห็นว่าหนังหมูลอยตัวและไม่ติดก้นกระทะ ให้เพิ่มความร้อน ของเชื้อเพลิงขึ้นเป็น 130 องศาเซลเซียส (น้ำมันจะเดือดพล่าน) การต้มนี้เป็นขั้นตอน เพื่อให้หนังหมูสุก เหลืองและเกือบจะกรอบ โดยผ่านขั้นตอนสุกเปื่อย และหนังหมูจะเกาะกัน เป็นก้อน แล้ว ในขณะเดียวกันก็ต้องคนไปเรื่อย ๆ แต่อาจจะคนน้อยลง กว่า ตอนแรก เพื่อมิให้หนังหมูไหม้ และให้โดนความร้อนโดยทั่วถึงกัน ต้มต่อไป ประมาณ 1 ชั่วโมง ขั้นตอนนี้จะสังเกตได้ว่า หนังหมูจะแตกเสียงดัง มีน้ำมันกระเด็น ออกมา ในขณะเดียวกัน น้ำมันก็จะออกมามากจนท่วมหนังหมูและเดือดพล่าน



                   ในที่สุดหนังหมูจะค่อย ๆ ลอยตัวจากน้ำมัน มีสีเหลืองเข้มขึ้น และมีเสียงแตก ดังเปาะแปะ จะสังเกตเห็นว่ามีจุดพองเป็นตุ่ม ๆ เกิดขึ้นรอบ ๆ หนังหมู ขั้นตอนนี้ อาจจะต้องลดความร้อนลงบ้าง เพื่อมิให้ไหม้ คนต่อไปอีกสักครู่ ลองเอามือ จับหนังหมูดู ถ้าเห็นว่ามีลักษณะแข็งตัวพอสมควร และมีจุดพอง เกิดขึ้นโดยรอบ ก็เป็นอันว่าใช้ได้ ให้รีบถอนไฟออกทันที (ดับไฟจนหมดเตา) ขั้นตอนนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง รวมใช้เวลาต้มประมาณ 2 ชั่วโมง (ในกรณีทำ แคบหมู เชิงธุรกิจ)



                   เมื่อต้มหนังหมูจนได้ที่แล้ว มีขั้นตอนการทำ ที่สำคัญอันจะมีผลให้หนังหมูพอง เป็นแคบหมูลักษณะที่ดีหรือไม้ ซึ่งแยกปฏิบัติได้ 3 วิธี ดังนี้



    วิธีที่ 1 

          เมื่อต้มหนังหมูด้วยน้ำมันได้ที่แล้ว ให้ดับไฟในเตา และแช่หนังหมูทิ้งไว้ ในน้ำมัน ประมาณ 2 ชั่วโมง จะสังเกตเห็นว่า ขณะที่น้ำมันเย็นลงเรื่อย ๆ หนังหมู ก็จะดูดซึมน้ำมันจนอิ่มตัวและค่อย ๆ จมลงก้นกระทะ คงเหลือแต่น้ำมันลอยท่วมอยู่ เมื่อเห็นว่าน้ำมันเย็นพอสมควรแล้ว จึงตักหนังหมูออกจากกระทะเพื่อให้สะเด็ดน้ำ แล้วจึงนำไปผึ่งลมให้คลายร้อน ต่อจากนั้นก็เตรียมเชื้อเพลิงสำหรับทอด เพื่อทำการทอดหนังหมูต่อไป



     



     



     



    วิธีที่

          ตักหนังหมูที่ต้มน้ำมันได้ที่แล้ว ใช้ทัพพีโปร่งตักหนังหมูขึ้นจากน้ำมัน พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน ขั้นต่อไปให้พักทิ้งไว้ให้เย็น ขั้นตอนนี้ หากจะให้หนังหมู คลายความร้อนเร็วขึ้น อาจจะใช้ พัดลมเป่า (เพื่อความรวดเร็ว ในการผลิต ให้ทันจำหน่าย) เมื่อเห็นว่าหนังหมูเย็นพอสมควร (อุ่น) ก็เตรียมเชื้อเพลิง สำหรับทอด เพื่อทำการทอดต่อไป

    ข้อควรคำนึง อย่าใช้พัดลมเป่าหนังหมูนานเกินไปจนเย็น เมื่อนำไปทอด เป็นแคบหมู จะไม่ พองเท่าที่ควร



    วิธีที่

        หลังจากแช่หนังหมูต้มในน้ำมันตามวิธีที่ 1 แล้ว หากมีความจำเป็น ไม่สามารถ นำมาทอดเป็นแคบหมู ในวันเดียวกันได้ ก็อาจจะแช่หนังหมูต้มในน้ำมันไว้ โดย แช่น้ำมันให้ท่วมแล้วปิดฝาให้มิดชิด มิให้สิ่งสกปรกตกลงไปได้ หากจะทอดเมื่อใด ก็นำหนังหมูที่พักไว้นั้นมาต้มน้ำมันต่อ ให้ หนังหมูคลายตัว คือมีลักษณะอ่อนตัว และนิ่ม จึงตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำ เตรียมทอดเป็นแคบหมูเหมือนวิธีที่ 2 ต่อไป




    3.การทอดแคบหมู



              นำหนังหมูที่ต้มไล่น้ำมันเรียบร้อยแล้ว มาทอด โดยเตรียมเชื้อเพลิงให้ร้อนพอสมควร (100 องศา)  ให้น้ำมันที่ ใช้ทอดหนังหมูร้อนจัดแล้ว สังเกตได้จากมีควันสีเขียวเกิดขึ้น ทดลอง โดยเอาหนังหมูที่เตรียมไว้หย่อนลงไปในกระทะ  1- 2 ชิ้น ก่อน  ถ้าหนังหมูจม และลอยตัวขึ้นมาช้า ๆ แสดงว่าน้ำมันยังไม่ร้อนพอ ให้รอสักครู่ หนึ่งแล้วจึงทดลองใหม่ จนเห็นว่าหนังหมูลอยตัวขึ้นมาทันที ก็เป็นอันว่าน้ำมันร้อนได้ที่แล้ว พร้อมที่จะทำการทอดแคบหมูต่อไป



               ในการทอดหนังหมูต้ม ให้เป็นแคบหมูนี้ ให้ใส่พอประมาณ ดูว่ามีเนื้อที่เหลือพอที่จะให้หนังหมูพองตัวแล้วไม่เบียดกันจนเกินไป



    เทคนิคในการทอด



         เมื่อใส่หนังหมูต้มลงไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัดแล้วให้ใช้ตะหลิวโปร่งคอยกด หนังหมู ที่ลอยขึ้นมา จมลงไปในน้ำมันให้มากที่สุด ในขณะเดียวกันก็พยายามคนพลิกกลับข้างล่าง และแกว่งตะหลิวโปร่งไปมาสลับกัน เพื่อให้หนังหมูขยายตัวและได้รับความร้อนจากน้ำมันโดยทั่วกัน ทอดต่อไปจนเห็นว่าแคบหมูพองตลอด ทั้งก้อนและมีสีเหลืองกรอบได้ที่แล้ว จึงตักแคบหมูขึ้นสะเด็ดน้ำมัน หรือใช้กระดาษซับน้ำมัน ทำการซับน้ำมันอีกครั้งหนึ่งก็ได้ พักทิ้งไว้ให้เย็น เตรียมบรรจุต่อไป

  • - มีความขยัน  อดทน  เปิดใจที่จะเรียนรู้ และรับคำติชม เพื่อนำมาพัฒนาให้ดีขึ้น



              -วัตถุดิบที่เลือกใช้ต้องมีคุณภาพ



              -กระบวนการผลิตต้องสะอาด ปลอดภัยจากสิ่งปลอมปน



              -รสชาติต้องอร่อย และคงที่  

  • -การเลือกหนังหมู   หนังหมูเป็นวัตถุดิบหลักและเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการทำแคบหมู แคบหมู จะอร่อย มี ลักษณะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับหนังหมู ฉะนั้นจึงมีความจำเป็น อย่างิยิ่งที่จะต้องเลือกหนังหม ูที่เหมาะสมในการทำแคบหมูมากที่สุดและดีที่สุด

    การเลือกหนังหมู ควรเป็นหนังหมูที่ได้จากข้างลำตัว และหนังสะโพก เป็นหนังหมู ใหม่ ไม่มีกลิ่นเหม็น สะอาด มีสีขาวอมชมพูจาง ๆ ไม่มีสีซีดคล้ำ ไม่มี ขนติด และต้องไม่เป็นหนังที่ได้จากหมู ที่มีอายุน้อย เกินไป ควรจะมีอายุระหว่าง 3 - 6 เดือน



              -การบรรจุและการเก็บรักษาแคบหมู



              แคบหมูเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากหนังหมูทอด มีลักษณะกรอบ ฉะนั้นในการเก็บรักษา ต้องคำนึงถึงการรักษาคุณค่าทางอาหาร และรสชาติของแคบหมู ให้มีลักษณะกรอบ ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน



              ดังนั้น ในการเก็บรักษาจะต้องมิให้ถูกความชื้น โดยการเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท และห่อหุ้มแคบหมูด้วยถุงพลาสติก รัดยางยึดให้แน่น ไม่ให้อากาศเข้าได้ ถ้าจำนวนไม่มาก อาจจะใส่ถุงพลาสติก รักปากถุงให้แน่น ด้วยยางรัดของ แล้วนำเก็บเข้าตู้เย็น จึงจะสามารถเก็บรักษาไว้หลายวัน โดยคงรสชาติเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ควรเก็บไว้นานเกินไป (ไม่ควรเกิน 5 วัน)



                สำหรับการบรรจุถุงเพื่อจำหน่ายนั้น ก็ใช้วิธีบรรจุตามที่กล่าวข้างต้น เพียงแต่บรรจุตามราคาจำหน่ายปลีกและส่ง ตามความ เหมาะสมของแต่ละท้องถิ่น และความพอใจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย สำหรับราคาจำหน่ายโดยทั่วไป ราคากิโลกรัมละ 120-150 บาท

  • -
  • -