ที่อยู่ 110
- ตำบล : หนองหญ้าไซ อำเภอ : หนองหญ้าไซ จังหวัด: สุพรรณบุรี
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : ประถมศึกษาปีที่ 6
ประวัติ :
ปกติมีอาชีพทำนา ทำไร่ เมื่อช่วงว่างงานก็มีการทำบายศรี ทำขนมไทยต่าง ๆ เช่น ขนมชั้น ขนมเปียกปูน ขนมสาลี่ เพื่อขายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ขนมชั้น เป็นขนมไทยโบราณที่มีลักษณะเป็นก้อนสีเหลี่ยม และเรียงเป็นชั้นๆด้วยสีที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจมีมากกว่า 9 ชั้น และปัจจุบัน มีการพัฒนารูปแบบการทำให้มีความโดดเด่นมากขึ้น อาทิ ทำเป็นก้อนกลม ก้อนรูปหัวใจ และใช้สีผสมอาหารแทนสีจากธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ขนมชั้นมีสีสันน่ารับประทานมากขึ้น
1. แป้งมันสำปะหลัง ช่วยทำให้เนื้อขนมมีความเนียน และดูใสเป็นมันวาว ส่วนเนื้อสัมผัสจะช่วยให้นุ่ม และเหนียว หนืด
2. แป้งถั่วเขียว ช่วยทำให้เนื้อขนมมีความเหนียว และนุ่มคงตัว ไม่เหนียวมากหรือเหลวเกินไป
3. แป้งท้าวยายม่อม ช่วยทำให้เนื้อขนมมีความเนียน แต่ค่อนข้างใสน้อยกว่าแป้งมันสำปะหลัง เนื้อสัมผัสมีความเหนียว และแข็งขึ้น
4. แป้งข้าวเจ้า ช่วยทำให้เนื้อขนมแข็งขึ้น จับตัวกันได้ดี
ปกติมีอาชีพทำนา ทำไร่ เมื่อช่วงว่างงานก็มีการทำบายศรี ทำขนมไทยต่าง ๆ เช่น ขนมชั้น ขนมเปียกปูน ขนมสาลี่ เพื่อขายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ขนมชั้น เป็นขนมไทยโบราณที่มีลักษณะเป็นก้อนสีเหลี่ยม และเรียงเป็นชั้นๆด้วยสีที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจมีมากกว่า 9 ชั้น และปัจจุบัน มีการพัฒนารูปแบบการทำให้มีความโดดเด่นมากขึ้น อาทิ ทำเป็นก้อนกลม ก้อนรูปหัวใจ และใช้สีผสมอาหารแทนสีจากธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ขนมชั้นมีสีสันน่ารับประทานมากขึ้น
ส่วนผสมของขนมชั้น
1. หัวกะทิ 4 ถ้วย
2. น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
3. น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย
4. แป้งถั่วเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
5. แป้งท้าวยายม่อม 1 ถ้วย
6. แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
7. แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วย
8. น้ำคั้นใบเตย หรือน้ำสีผสมอาหาร 2 ถ้วย
วิธีทำขนมชั้น
1. เตรียมน้ำเชื่อม โดยละลายน้ำตาลทราย 3 ถ้วย กับน้ำ 1 ถ้วย
2. เทแป้งถั่วเขียว แป้งท้าวยายม่อม แป้งข้าวเจ้า และแป้งมันสำปะหลัง ลงคลุกผสมในชามให้เข้ากัน
3. เทน้ำกะทิทีละน้อย พร้อมกวนผสมให้เข้ากัน 3-5 นาที
4. เทน้ำเชื่อมลงผสมทีละน้อย และกวนแป้ง 3-5 นาที ให้เข้ากันหรือพอให้น้ำแป้งเริ่มติดหลังมือแล้ว ซึ่งจะได้น้ำแป้งที่หนืดข้น
5. แบ่งแป้งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกนำไปนวดผสมกับน้ำคั้นสีจากพืชหรือสีผสมอาหาร ส่วนอีกครึ่ง นำน้ำลอยดอกมะลิเทลงผสม และกวนให้เข้ากัน
6. ทาน้ำมันพืชบางๆที่ถาด ก่อนนำแป้งอีกส่วนที่ยังไม่ได้ผสมสีมาใส่ถาด และนำไปนึ่ง 3-5 นาที ทั้งนี้ อาจใช้น้ำแป้งส่วนที่ผสมสีแล้วเทเป็นชั้นแรกก็ได้ตามความต้องการ
7. นำถาดขนมชั้นที่นึ่งสุกชั้นแรกออกมา และเทน้ำแป้งที่ผสมสีลงบางๆ กลายเป็นชั้นที่ 2 แล้วนำไปนึ่งให้สุก
8. ทำตามขั้นตอนที่ 6 และ 7 ซ้ำๆ ตามจำนวนชั้นที่ต้องการ แต่การนึ่งครั้งสุดท้าย ให้ใช้เวลานึ่งนานกว่าทุกครั้งที่ 10-15 นาที หากต้องการชั้นสุดท้ายที่มีสีเข้มให้คั้นน้ำจากพืชอย่างเข้มข้นลงผสมกับน้ำแป้งชุดสุดท้ายที่เหลือในชาม
9. เมื่อครบทุกชั้น และนึ่งชั้นสุดท้ายจนสุกแล้ว จึงยกลงตั้งทิ้งให้เย็น ก่อนตัดเป็นชิ้นพอคำรับประทานหรือจำหน่าย
1. แป้งมันสำปะหลัง ช่วยทำให้เนื้อขนมมีความเนียน และดูใสเป็นมันวาว ส่วนเนื้อสัมผัสจะช่วยให้นุ่ม และเหนียว หนืด
2. แป้งถั่วเขียว ช่วยทำให้เนื้อขนมมีความเหนียว และนุ่มคงตัว ไม่เหนียวมากหรือเหลวเกินไป
3. แป้งท้าวยายม่อม ช่วยทำให้เนื้อขนมมีความเนียน แต่ค่อนข้างใสน้อยกว่าแป้งมันสำปะหลัง เนื้อสัมผัสมีความเหนียว และแข็งขึ้น
4. แป้งข้าวเจ้า ช่วยทำให้เนื้อขนมแข็งขึ้น จับตัวกันได้ดี