กลับไปหน้าค้นหา

นายเจษฎา สาระยิ่ง

  • Facebook ID: -
  • Line ID: -
  • Email: -

ที่อยู่ 152 หมู 2 ตำบล : ดอนปรู อำเภอ : ศรีประจันต์ จังหวัด: สุพรรณบุรี
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : ปริญญาตรี
ประวัติ :

เมื่อก่อนข้าพเจ้าทำเกษตรเชิงเดี่ยว คือ ทำนา  แต่เกิดปัญหาหลายๆ อย่างคือ

                   1) รายได้ไม่แน่นอน

                   2) ใช้เงินลงทุนมาก ต้นทุนสูง

                   3) คุณภาพดิน

                   ดังนั้นจึงหันมาสนใจกับแนวคิดการทำไร่นาผสมผสาน ที่สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทำกิน



ขนาดเล็ก เพื่อลดความเสี่ยงจากการผลิต ลดการพึ่งพิงเงินทุน สามารถทำให้ได้ผลผลิตและรายได้เพิ่มขึ้น



เพื่อการเกษตรในที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง จึงเริ่มเข้าร่วมอบรมและเรียนรู้



ด้วยตนเอง และเริ่มการเปลี่ยนไร่นาเป็นการปลูกตะไคร้ 40 ไร่ และปลูกมะละกอแซมหัว/ท้ายร่อง และปลูกไม้ประดับรอบๆ ไร่ตะไคร้ เป็นต้น สิ่งที่แตกต่างจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยว คือ



                   1) ทำให้มีรายได้สม่ำเสมอ



                   2) ประหยัดค่าใช้จ่าย เงินลงทุนน้อย

                   3) ลดการว่างงาน มีงานทำทั้งปี 


ความสำเร็จ :

1) ต้องทำการศึกษาว่าเราควรปลูกอะไร ช่วงเวลาไหน ที่สามารถขายได้ราคาดี



2) มีแหล่งรับซื้อผลผลิตที่แน่นอน



3) คุณภาพดินเป็นสิ่งสำคัญ ต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์เข้าช่วย


ความชำนาญ : การเกษตรผสมผสาน


ข้อมูลปราชญ์ชาวบ้าน

  • เมื่อก่อนข้าพเจ้าทำเกษตรเชิงเดี่ยว คือ ทำนา  แต่เกิดปัญหาหลายๆ อย่างคือ

                       1) รายได้ไม่แน่นอน

                       2) ใช้เงินลงทุนมาก ต้นทุนสูง

                       3) คุณภาพดิน

                       ดังนั้นจึงหันมาสนใจกับแนวคิดการทำไร่นาผสมผสาน ที่สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทำกิน



    ขนาดเล็ก เพื่อลดความเสี่ยงจากการผลิต ลดการพึ่งพิงเงินทุน สามารถทำให้ได้ผลผลิตและรายได้เพิ่มขึ้น



    เพื่อการเกษตรในที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง จึงเริ่มเข้าร่วมอบรมและเรียนรู้



    ด้วยตนเอง และเริ่มการเปลี่ยนไร่นาเป็นการปลูกตะไคร้ 40 ไร่ และปลูกมะละกอแซมหัว/ท้ายร่อง และปลูกไม้ประดับรอบๆ ไร่ตะไคร้ เป็นต้น สิ่งที่แตกต่างจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยว คือ



                       1) ทำให้มีรายได้สม่ำเสมอ



                       2) ประหยัดค่าใช้จ่าย เงินลงทุนน้อย

                       3) ลดการว่างงาน มีงานทำทั้งปี 

  • 2.1.  การเตรียม/แบ่งพื้นที่



                                 จะทำการแบ่งพื้นที่ในการทำเกษตรผสมผสาน ได้แก่



                                 1) ปลูกตะไคร้ ประมาณ 40 ไร่



                                 2) ปลูกพืชตระกูลไม้พุ่ม ประมาณ 6 ไร่ เช่น ไผ่



                                 3) ปลูกไม้ล้อม ไม้ประดับ จำนวน 1 ไร่ เช่น ต้นชมพูพานทิพย์



                                 4) ปลูกผลไม้ ประมาณ 2 งาน เช่น มะละกอ



     



     



     



                       2.2.  การคัดเลือกต้นกล้า/พันธุ์ไม้



                                 การทำการเกษตรผสมผสานแปลงนี้ จะเลือกปลูกพืช ผลไม้ และต้นไม้ที่มีอายุการเพาะปลูก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ตั้งแต่ 6 เดือน แต่ไม่เกิน 12 เดือน สามารถทำให้มีรายได้สม่ำเสมอ และจะทำการเลือกปลูกพืชผักที่มีราคาค่อนข้างที่จะไม่ลงมาก อยู่ระดับกลางๆ   



    2.3.  การดูแลรักษา



                                 1) การใส่ปุ๋ย  จะใช้ทั้งปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ ควบคู่กันไป แต่ปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีค่อนข้างจะน้อยกว่าการทำนา ทำให้ใช้เงินลงทุนต่ำ คุณภาพดินก็ไม่เสื่อมไว เพราะใช้ปุ๋ยอินทรีย์จากมูลสัตว์ช่วยปรับสภาพดินควบคู่กันไป



                                 2) การให้น้ำ  เป็นสิ่งสำคัญ เพราะตะไคร้เป็นพืชที่ชอบน้ำ แต่อย่าให้น้ำขัง



                       2.4  การเก็บเกี่ยว



                                 1) ตะไคร้ และมะละกอ สามารถเก็บเกี่ยวได้ หลังจากการปลูก 6-8 เดือน



                                 2) ไผ่ลืมแล้ง  สามารถเก็บเกี่ยวได้ หลังจากการปลูก 12 เดือน



                                 3) ต้นชมพูพานทิพย์ สามารถเก็บเกี่ยวได้ หลังจากการปลูก 8-12 เดือน

  • 1) ต้องทำการศึกษาว่าเราควรปลูกอะไร ช่วงเวลาไหน ที่สามารถขายได้ราคาดี



    2) มีแหล่งรับซื้อผลผลิตที่แน่นอน



    3) คุณภาพดินเป็นสิ่งสำคัญ ต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์เข้าช่วย

  • -
  • -
  • โครงการ/หลักสูตร       วิทยากรหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง