ที่อยู่ 4/1
หมู 5 ตำบล : ควนธานี อำเภอ : กันตัง จังหวัด: ตรัง
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : ปวส.
ประวัติ :
กบ เลี้ยงง่าย รายได้ดี ประหยัดไม่สิ้นเปลืองพื้นที่ในการเลี้ยงหากเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจเลี้ยงไว้ เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง
จากการได้ไปเห็นการเลี้ยงกบของน้าเขยที่อำเภอย่านตาขาว เห็นว่าเลี้ยงง่าย ไม่ค่อยมีโรค ทำให้คิดที่จะทำ เพราะอย่างน้อยจะได้มีอาหารและสามารถเป็นรายได้เสริมจากอาชีพหลักได้อีกด้วย
ทำด้วยใจรักและอดทน
ความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะทำ
ศึกษาวิธีการ กระบวนการการดูแลรักษา
แลกเปลี่ยนเรียนรู้อยู่เสมอ
กบ เลี้ยงง่าย รายได้ดี ประหยัดไม่สิ้นเปลืองพื้นที่ในการเลี้ยงหากเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจเลี้ยงไว้ เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง
จากการได้ไปเห็นการเลี้ยงกบของน้าเขยที่อำเภอย่านตาขาว เห็นว่าเลี้ยงง่าย ไม่ค่อยมีโรค ทำให้คิดที่จะทำ เพราะอย่างน้อยจะได้มีอาหารและสามารถเป็นรายได้เสริมจากอาชีพหลักได้อีกด้วย
1. การเลี้ยงกบนั้นควรเลี้ยงในที่สูง ถ้าเลี้ยงใส่ในท่อก็ควรรองก้นท่อขึ้นให้ห่างจากพื้นประมาณ 20 เซนติเมตรและเอียงท่อข้างใดข้างหนึ่งพื่อเป็นการระบายน้ำ
2. ซื้อท่อ ซีเมนต์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 - 1.20 เมตร (เทพื้นเจาะรูน้ำทิ้ง)
3. พันธุ์กบควรเลือกพันธุ์กบนา เราะแข็งแรงทดต่อโรค และควรซื้อตอนเป็นลูกอ๊อดเพราะจะได้ปริมาณลูกกบเยอะกว่าซื้อที่มีขาครบ 4 ขาแล้ว
4. ปริมาณกบในแต่ละท่อไม่ควรเกินท่อละ 50 - 80 ตัว เพื่อที่จะดูแลได้สะดวกและลดการแออัด
5. ใช้ตาข่ายปิดข้างบนปากท่อป้องกันกบกระโดดและสัตว์อื่นเข้าไปกินกบ
การดูแลระหว่างเลี้ยงกบตัวเต็มวัย
การให้อาหาร หลังแรกเกิด 5 วัน - 30 วัน ให้ไข่แดงหรืออาหารเม็ดสำหรับลูกอ๊อด วันละประมาณ 3 - 4 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้นเดือนที่ 2 ให้อาหารเม็ดกบเล็กวันละประมาณ 300 กรัม ต่อ 1 ท่อ เช้าหรือเย็น ส่วนเดือนที่ 3 ให้อาหารกบใหญ่ วันละ ประมาณ 300 กรัมต่อ 1 ท่อ ครบ 3 เดือน ก็จับมาทำเป็นอาหารหรือขายได้
ทำด้วยใจรักและอดทน
ความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะทำ
ศึกษาวิธีการ กระบวนการการดูแลรักษา
แลกเปลี่ยนเรียนรู้อยู่เสมอ
๑.ผู้ที่เพิ่มเริ่มเลี้ยง แนะนำให้ซื้อลูกพันธุ์กบที่มีตัวโตๆไปทดลองเลี้ยงก่อน เพราะโอกาสรอดจะสูง และแข็งแรงกว่าลูกกบเล็ก
๒. ถ้าจะเลี้ยงจริงจัง ในปริมาณมาก แนะนำให้เลี้ยงในบ่อดิน หรือในบ่อปูน หรือในกระชัง จะสะดวกที่สุด
๓. ช่วงต้นฤดูฝนใหม่ๆ กบจะเป็นโรคต่างๆได้ง่าย เช่น โรคตาขาว โรคกระแตเวียน โรคปากแดง โรคเป็นแผลพุพอง จึงต้องระวังในการเลี้ยงเป็นพิเศษ และให้ยาตามความเหมาะสม
-
ประสบการณ์๔ ปี