กลับไปหน้าค้นหา

นายคำรณ หนูเดช

  • Facebook ID: -
  • Line ID: -
  • Email: -

ที่อยู่ 4/1 หมู 5 ตำบล : ควนธานี อำเภอ : กันตัง จังหวัด: ตรัง
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : ปวส.
ประวัติ :

กบ  เลี้ยงง่าย  รายได้ดี  ประหยัดไม่สิ้นเปลืองพื้นที่ในการเลี้ยงหากเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจเลี้ยงไว้  เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์  อีกทั้งสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง



                   จากการได้ไปเห็นการเลี้ยงกบของน้าเขยที่อำเภอย่านตาขาว เห็นว่าเลี้ยงง่าย ไม่ค่อยมีโรค ทำให้คิดที่จะทำ เพราะอย่างน้อยจะได้มีอาหารและสามารถเป็นรายได้เสริมจากอาชีพหลักได้อีกด้วย


ความสำเร็จ :

ทำด้วยใจรักและอดทน



ความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะทำ



ศึกษาวิธีการ กระบวนการการดูแลรักษา



แลกเปลี่ยนเรียนรู้อยู่เสมอ


ความชำนาญ : เลี้ยงกบ


ข้อมูลปราชญ์ชาวบ้าน

  • กบ  เลี้ยงง่าย  รายได้ดี  ประหยัดไม่สิ้นเปลืองพื้นที่ในการเลี้ยงหากเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจเลี้ยงไว้  เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์  อีกทั้งสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง



                       จากการได้ไปเห็นการเลี้ยงกบของน้าเขยที่อำเภอย่านตาขาว เห็นว่าเลี้ยงง่าย ไม่ค่อยมีโรค ทำให้คิดที่จะทำ เพราะอย่างน้อยจะได้มีอาหารและสามารถเป็นรายได้เสริมจากอาชีพหลักได้อีกด้วย

  • 1. การเลี้ยงกบนั้นควรเลี้ยงในที่สูง   ถ้าเลี้ยงใส่ในท่อก็ควรรองก้นท่อขึ้นให้ห่างจากพื้นประมาณ  20  เซนติเมตรและเอียงท่อข้างใดข้างหนึ่งพื่อเป็นการระบายน้ำ



    2. ซื้อท่อ ซีเมนต์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 - 1.20 เมตร (เทพื้นเจาะรูน้ำทิ้ง)



    3. พันธุ์กบควรเลือกพันธุ์กบนา   เราะแข็งแรงทดต่อโรค และควรซื้อตอนเป็นลูกอ๊อดเพราะจะได้ปริมาณลูกกบเยอะกว่าซื้อที่มีขาครบ  4  ขาแล้ว



    4. ปริมาณกบในแต่ละท่อไม่ควรเกินท่อละ  50 - 80  ตัว  เพื่อที่จะดูแลได้สะดวกและลดการแออัด



    5. ใช้ตาข่ายปิดข้างบนปากท่อป้องกันกบกระโดดและสัตว์อื่นเข้าไปกินกบ



    การดูแลระหว่างเลี้ยงกบตัวเต็มวัย



        การให้อาหาร   หลังแรกเกิด 5 วัน - 30  วัน  ให้ไข่แดงหรืออาหารเม็ดสำหรับลูกอ๊อด   วันละประมาณ  3 - 4  ช้อนโต๊ะ    หลังจากนั้นเดือนที่ 2 ให้อาหารเม็ดกบเล็กวันละประมาณ  300  กรัม ต่อ 1 ท่อ เช้าหรือเย็น ส่วนเดือนที่  3  ให้อาหารกบใหญ่  วันละ  ประมาณ  300  กรัมต่อ  1  ท่อ   ครบ 3 เดือน  ก็จับมาทำเป็นอาหารหรือขายได้

  • ทำด้วยใจรักและอดทน



    ความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะทำ



    ศึกษาวิธีการ กระบวนการการดูแลรักษา



    แลกเปลี่ยนเรียนรู้อยู่เสมอ

  • ๑.ผู้ที่เพิ่มเริ่มเลี้ยง แนะนำให้ซื้อลูกพันธุ์กบที่มีตัวโตๆไปทดลองเลี้ยงก่อน เพราะโอกาสรอดจะสูง และแข็งแรงกว่าลูกกบเล็ก

    ๒. ถ้าจะเลี้ยงจริงจัง ในปริมาณมาก แนะนำให้เลี้ยงในบ่อดิน หรือในบ่อปูน หรือในกระชัง จะสะดวกที่สุด

    ๓. ช่วงต้นฤดูฝนใหม่ๆ กบจะเป็นโรคต่างๆได้ง่าย เช่น โรคตาขาว โรคกระแตเวียน โรคปากแดง โรคเป็นแผลพุพอง จึงต้องระวังในการเลี้ยงเป็นพิเศษ และให้ยาตามความเหมาะสม

  • -

  • ประสบการณ์๔ ปี 

ไฟล์แนบอื่นๆ