ที่อยู่ 68/4
หมู 8 ตำบล : บางสน อำเภอ : ปะทิว จังหวัด: ชุมพร
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : มัธยมศึกษาปีที่ 6
ประวัติ :
กลุ่มอนุรักษ์เขาดินสอ บ้านแหลมยาง หมู่ที่ 8 ตำบลบางสน
อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร
การเลี้ยงผึ้ง เป็นอาชีพใหม่ของเกษตรกร โดยยึดเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม ที่สามารถเพิ่มรายได้ให้กับผู้เลี้ยง ซึ่งเกษตรกรควรรู้จักขั้นตอนและวิธีการเลี้ยง เพื่อนำไปใช้ปฏิบัติในการเลี้ยงผึ้ง การเลี้ยงผึ้งให้ประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้
1. พันธุ์ผึ้ง
2. อาหาร
และสิ่งที่สำคัญยิ่ง ก็คือ ความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงผึ้งที่ถูกวิธี ข้าพเจ้า และคณะเรียบเรียงจากประสบการณ์ โดยประยุกต์ระหว่างการเลี้ยงผึ้งในอดีตกับสภาวะในปัจจุบันจัดทำเป็นเอกสาร เพื่อถ่ายทอดความรู้และพัฒนาอาชีพของเกษตรกร หมู่ที่ 8 ตำบลบางสน อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งและ ผู้ที่สนใจเลี้ยงผึ้งพอสมควร เพื่อใช้ในการศึกษาควบคู่กับการปฏิบัติการเลี้ยงผึ้งให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป หากมีข้อเสนอแนะประการใดได้โปรดแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบด้วย เพื่อนำไปปรับปรุงเอกสาร การเลี้ยงผึ้งนี้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในโอกาสต่อไป
กลุ่มอนุรักษ์เขาดินสอ บ้านแหลมยาง หมู่ที่ 8 ตำบลบางสน
อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร
การเลี้ยงผึ้ง เป็นอาชีพใหม่ของเกษตรกร โดยยึดเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม ที่สามารถเพิ่มรายได้ให้กับผู้เลี้ยง ซึ่งเกษตรกรควรรู้จักขั้นตอนและวิธีการเลี้ยง เพื่อนำไปใช้ปฏิบัติในการเลี้ยงผึ้ง การเลี้ยงผึ้งให้ประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้
1. พันธุ์ผึ้ง
2. อาหาร
และสิ่งที่สำคัญยิ่ง ก็คือ ความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงผึ้งที่ถูกวิธี ข้าพเจ้า และคณะเรียบเรียงจากประสบการณ์ โดยประยุกต์ระหว่างการเลี้ยงผึ้งในอดีตกับสภาวะในปัจจุบันจัดทำเป็นเอกสาร เพื่อถ่ายทอดความรู้และพัฒนาอาชีพของเกษตรกร หมู่ที่ 8 ตำบลบางสน อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งและ ผู้ที่สนใจเลี้ยงผึ้งพอสมควร เพื่อใช้ในการศึกษาควบคู่กับการปฏิบัติการเลี้ยงผึ้งให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป หากมีข้อเสนอแนะประการใดได้โปรดแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบด้วย เพื่อนำไปปรับปรุงเอกสาร การเลี้ยงผึ้งนี้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในโอกาสต่อไป
การล่อผึ้งควบคู่กับการเลี้ยง
การเลี้ยงผึ้งโพรง ปัญหาที่สำคัญ คือ ผึ้งหนีรัง ผู้เลี้ยงไม่สามารถเพิ่มปริมาณผึ้ง ได้ตามความต้องการ และไม่สามารถคงสภาพผึ้งที่มีอยู่ให้เท่าเดิมได้ ผึ้งอพยพไปตามแหล่งอาหาร แต่ละฤดูกาล ทางกลุ่มงานวิจัยผึ้งฯ ได้ทำการทดลองที่ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร โดยการล่อผึ้งควบคู่กับการเลี้ยงผึ้ง พบว่า ผึ้งที่หนีรัง แยกรัง และผึ้งป่าตามธรรมชาติจะอพยพหนีรัง แยกรัง และหารัง จะไปเข้ารังล่อ ปริมาณ 100 กว่ารัง จากเดิมซื้อผึ้งมาเพียง 10 รัง ผึ้งที่ซื้อมาเลี้ยงไม่มีประสบการณ์มาก่อน ผึ้งที่นำมาเลี้ยงหนีรังทั้งหมด ต้องซื้อผึ้งมาใหม่อีก 5 รัง ผึ้งที่ซื้อมาครั้งหลังได้มีการเลี้ยงควบคู่กับการล่อ หลังจากนั้นทางกลุ่มงานฯ สามารถเพิ่มจำนวนผึ้งมากขึ้นทุกปี และสามารถแบ่งผึ้งจากศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพรไปทดลองตามท้องที่ต่างๆ ประมาณ 100 กว่ารัง ฉะนั้น การเลี้ยงผึ้งโพรง ควรมีการล่อควบคู่กันไปด้วย
8. การเสริมคอนที่เป็นแผ่นรังเทียม
ปัจจัยที่ช่วยเพิ่มผลผลิตของผึ้งโพรง คือ การเสริมคอนที่เป็นแผ่นรังเทียม ผึ้งจะมีความต้องการที่จะเพิ่มคอน เมื่อประชากรหนาแน่น และมีแนวโน้มว่าต้องการคอน โดยการสร้างรังผึ้งบนหลังคอน หรือการก่อเป็นรวงเล็กๆ ตรงด้านใต้ของฝาปิด จากการตรวจเช็คแผ่นรังเทียมที่ใช้ให้ผึ้งยอมรับแล้ว ปรากฏว่า 80 % ของแผ่นรังเทียม จะเป็นน้ำผึ้งประมาณ 20 % และจะเป็นเกสรและตัวอ่อนผึ้งผู้ สำหรับรวงผึ้งที่ผึ้งสร้างเองตามธรรมชาติ จะมีน้ำผึ้งประมาณ 30 % และมี ตัวอ่อน 70 %
วิธีการดำเนินการใส่แผ่นรังเทียม
1. ตัดแผ่นรังเทียมให้เท่ากับจำนวนคอน
2. กรีดแผ่นรังเทียมกับขดลวดลงไป 0.5 นิ้ว
3. ใช้ไฟฟ้าทำให้เส้นลวดร้อน
4. นำแผ่นรังเทียมที่ทำแล้วเข้าไปเสริมตรงกลางของรัง รังละ 1 คอน
5. รังผึ้งที่ใช้แผ่นรังเทียม ควรเป็นผึ้งที่สมบูรณ์มากเท่านั้น และควรให้อาหารเสริมช่วย
ผึ้งเป็นสัตว์สังคมที่มีพฤติกรรมที่น่าสนใจ มีระบบการทำงานที่ดี มีประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นสัตว์ที่มีความเสียสละและความดุร้ายพอๆ กัน เพื่อป้องกันรังและรักษาชีวิตให้อยู่รอด มนุษย์เราจึงนำการดำรงชีวิตของผึ้งมาปรับใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต การทำงานของผึ้งเกิดจาก ระบบการควบคุมสารฟีโรโมนของผึ้งนางพญาและผึ้งงานวัยต่างๆ การทำงานของผึ้งพอสรุปได้ว่า ผึ้งทำงานตั้งแต่ลืมตาดูโลกจนหมดอายุขัย แม้การตายของผึ้งก็ไม่เป็นภาระแก่ผึ้งตัวอื่นๆ โดยพฤติกรรมการตายของผึ้งจะบินไปตายนอกรัง พฤติกรรมต่างๆ ของผึ้งที่ควรศึกษา มีดังนี้
1. การอยู่รอด ผู้เลี้ยงผึ้งโพรงพบว่า ผึ้งโพรงมีการทิ้งรังและแยกรังสูง ซึ่งเป็นพฤติกรรมการอยู่รอดของผึ้งโพรง จากการศึกษาการให้อาหารเสริมแก่ผึ้งในช่วงขาดแคลนและไม่ให้อาหารเสริม พบว่า
- ผึ้งที่ได้รับอาหารเสริมหนีรังไป ประมาณ 25 %
- ผึ้งที่ไม่ได้รับอาหารเสริมหนีรังไป ประมาณ 75 %
การหนีรังของผึ้งโพรง คือ พฤติกรรมการอยู่รอด เมื่อแหล่งอาหารขาดแคลน หรือถูกศัตรูรบกวน ผึ้งมีจะอพยพไปอยู่ที่แหล่งอื่นๆ การแยกรังของผึ้งโพรง จากการศึกษาพบว่า ผึ้งสามารถแยกรังได้ 6 ครั้ง / รัง / ปี ซึ่งการแยกรังจะพบได้ตลอดทั้งปี แต่ที่พบมากที่สุด คือ ช่วงเดือนสิงหาคม – กุมภาพันธ์ ผึ้งที่แยกรังหรือหนีรัง ส่วนใหญ่จะอพยพไปหาแหล่งอาหารที่สมบูรณ์กว่า
การอพยพของผึ้งมีความสัมพันธ์กับแหล่งอาหารผึ้งส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ใน สวนมะพร้าว ประมาณเดือนมีนาคม – เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่จั่นมะพร้าวออกมากกว่าช่วงอื่นๆ จะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นผึ้งก็จะอพยพไปอยู่ป่าชายเลน ไม้ผล และไม้ป่า ตามลำดับ และจะวนกลับมาสวนมะพร้าวอีกครั้งเป็นวัฏจักร
ผู้เลี้ยงผึ้งควรคำนึงถึงความอยู่รอดของผึ้ง ไม่ใช่หวังที่จะเก็บน้ำผึ้งอย่างเดียว และควรป้องกันศัตรูให้กับผึ้งด้วย
2. ความดุร้าย ช่วงผึ้งอพยพจะไม่มีความดุร้าย แต่เมื่อผึ้งสร้างรังที่มีสภาพสมบูรณ์ มีอาหารและตัวอ่อนมาก ผึ้งจะมีพฤติกรรมที่ดุร้าย เพื่อป้องกันรัง ตัวอ่อน และน้ำผึ้งหากผู้เลี้ยง มีการปฏิบัติที่นิ่มนวลผึ้งก็จะไม่แตกตื่นตกใจและแสดงความดุร้ายออกมา ในทางตรงกันข้ามผู้เลี้ยงมีการปฏิบัติที่ทำให้ผึ้งแตกตื่นตกใจ ผึ้งจะดุร้ายและต่อต้านการปฏิบัติ ช่วงปฏิบัติงานครั้งแรก ผึ้งจะยังไม่คุ้นเคยกับการปฏิบัติงานของผู้เลี้ยง จะแสดงความดุร้ายออกมา
การเลี้ยงผึ้งโพรง ผู้เลี้ยงไม่ได้เคลื่อนย้ายไปตามแหล่งอาหารเหมือนกับผึ้งพันธุ์ ส่วนใหญ่จะเลี้ยงอยู่ในสวนมะพร้าว ทำให้ผึ้งขาดแคลนอาหารในบางช่วง โดยทางศูนย์งานวิจัยผึ้ง ขอแนะนำให้เลี้ยงผึ้งโพรงในสวนมะพร้าว และการย้ายผึ้งไปเลี้ยงตามแหล่งอาหาร เช่น ในสวน เงาะ ทุเรียน ยางพารา และนุ่น นอกจากนั้นควรเลี้ยงในสวนมะพร้าวโดยการให้อาหารเสริมในช่วง ที่ผึ้งขาดแคลนอาหารเท่าที่จำเป็น
1. การตรวจเช็คผึ้งและการจัดการภายในรังผึ้ง ควรพิจารณาดังนี้
- เวลาที่ทำการตรวจเช็ค ควรเป็นช่วงเช้าหรือในตอนเย็น มีอากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่ร้อน การตรวจเช็คในช่วงที่ผึ้งไม่ดุร้าย
- ความถี่ในการตรวจเช็ค ถ้าทำการตรวจเช็คบ่อยครั้งเป็นการรบกวนผึ้ง ทำให้ผึ้งตื่นตกใจ ควรตรวจเช็คทุก 10 วัน/ครั้ง
- การเตรียมตัวในการตรวจเช็ค
ความเชื่อมั่นในตัวเอง คือ ผู้เลี้ยงไม่ต้องกลัวผึ้งต่อย พิษของผึ้ง คือ ยารักษาโรค ไขข้ออักเสบ (รูมาติซึ่ม) ถ้าผู้เลี้ยงมาการปฏิบัติงานที่เบาบางนิ่มนวล ผึ้งจะไม่ตกใจ การทำงานของผึ้งก็จะเป็นไปโดยปกติ ผู้เลี้ยงผึ้งสามารถดูพฤติกรรมการทำงานของผึ้ง เช่น สังเกตแหล่งอาหารว่าผึ้ง เก็บมาจากที่ใด สังเกตว่าผึ้งอนุบาลห้อมล้อมดูแลนางพญาในการป้อนอาหารและทำความสะอาด นางพญาป้อนอาหารตัวอ่อนและปฏิบัติงานอื่นๆ ของผึ้งภายในรังได้ การปฏิบัติงานกับผึ้งนั้น ถ้าถูกผึ้งต่อยต้องใจเย็น ค่อยๆใช้เล็บจิกเอาเหล็กในออกแล้วปฏิบัติงานต่อไป
เครื่องแต่งกายในการปฏิบัติงาน ผึ้งโพรงเป็นผึ้งที่มีความดุร้ายกว่าผึ้งพันธุ์ต่างประเทศ การแต่งกายควรเป็นชุดรัดกุม เรียกว่า ชุดกันผึ้ง ไม่มีช่องว่างให้ผึ้งเข้าต่อยได้ โดยเฉพาะบริเวณเนื้ออ่อนๆ เช่น บริเวณใบหน้า ซอกคอ บริเวณขา เป็นต้น