กลับไปหน้าค้นหา

นายสุรพจน์ แขวงเสวียด

  • Facebook ID: -
  • Line ID: -
  • Email: -

ที่อยู่ 188 หมู 5 ตำบล : บางมะเดื่อ อำเภอ : พุนพิน จังหวัด: สุราษฎร์ธานี
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : มัธยมศึกษาปีที่ 3
ประวัติ :

นายสุรพจน์ แขวงเสวียด ได้ทำอาชีพเกษตรกรสวนยางพารา สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ แต่ด้วยความที่เป็นคนขยัน มีความอดทน ใฝ่รู้ จึงได้ลองทำการเกษตรอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย แต่จะให้ความสำคัญกับการเลี้ยงสุกรเนื้อเพื่อจำหน่าย เนื่องจากได้สร้างรายได้ให้กับครัวเรือนได้เป็นที่น่าพอใจ เหตุผลในการเลี้ยงสุกร ดังนี้



-   สุกรสามารถเลี้ยงได้ในจำนวนน้อย เป็นฟาร์มเล็ก ๆ



-   ในการเลี้ยงสุกรต้องการพื้นที่เพียงเล็กน้อย



-   การเลี้ยงสุกรใช้แรงงานน้อย เลี้ยงง่าย



-   ใช้เศษอาหารและของเหลือต่าง ๆ เป็นอาหารสุกรได้



-   มูลสุกรใช้เป็นปุ๋ยอย่างดี และใช้กับบ่อเลี้ยงปลา เพื่อเพิ่มผลผลิตของการเลี้ยงปลา



-   สุกรให้ลูกดก ขยายพันธุ์ได้เร็ว



-   การเลี้ยงสุกรเป็นกิจการที่ให้ผลกำไรดี สามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 6 เดือน


ความสำเร็จ :

- เลือกเลี้ยงสุกรพันธุ์ดี  อาหารดี  โรงเรือนดี  การจัดการเลี้ยงดูดี  การป้องกันโรคดี



- ก่อนผู้ที่สนใจหรือเกษตรกรคนไหน มีการตัดสินใจที่จะเลี้ยงสุกร หรือ เลี้ยงหมู จึงจำเป็นที่ควรจะต้องศึกษาข้อมูล รายละเอียด และมีการวางแผนในระบบต่างๆ ก่อนที่จะเลี้ยงให้แน่ชัด เพื่อที่เมื่อเกษตรกรทำการเลี้ยงสุกรไปแล้วนั้นจะได้ มีผลผลิตและกำไรอย่างที่ตั้งใจไว้


ความชำนาญ : การเลี้ยงสุกร


ข้อมูลปราชญ์ชาวบ้าน

  • นายสุรพจน์ แขวงเสวียด ได้ทำอาชีพเกษตรกรสวนยางพารา สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ แต่ด้วยความที่เป็นคนขยัน มีความอดทน ใฝ่รู้ จึงได้ลองทำการเกษตรอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย แต่จะให้ความสำคัญกับการเลี้ยงสุกรเนื้อเพื่อจำหน่าย เนื่องจากได้สร้างรายได้ให้กับครัวเรือนได้เป็นที่น่าพอใจ เหตุผลในการเลี้ยงสุกร ดังนี้



    -   สุกรสามารถเลี้ยงได้ในจำนวนน้อย เป็นฟาร์มเล็ก ๆ



    -   ในการเลี้ยงสุกรต้องการพื้นที่เพียงเล็กน้อย



    -   การเลี้ยงสุกรใช้แรงงานน้อย เลี้ยงง่าย



    -   ใช้เศษอาหารและของเหลือต่าง ๆ เป็นอาหารสุกรได้



    -   มูลสุกรใช้เป็นปุ๋ยอย่างดี และใช้กับบ่อเลี้ยงปลา เพื่อเพิ่มผลผลิตของการเลี้ยงปลา



    -   สุกรให้ลูกดก ขยายพันธุ์ได้เร็ว



    -   การเลี้ยงสุกรเป็นกิจการที่ให้ผลกำไรดี สามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 6 เดือน

  • - สถานที่การเลี้ยงควรจะสร้างโรงเรือนให้อยู่ห่างจากชุมชนสักหน่อยถ้าเป็นไปได้ เพราะการเลี้ยงสุกรอาจจะทำให้มีกลิ่นที่แรงและอาจจะไม่เป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมของชุมชนในย่านนั้น หรือไม่ก็ต้องมีการจัดการกับระบบมูลสุกรหรือของเสียที่อาจจะส่งกลิ่นออกมาให้ดี แหละถ้าให้ดีควรอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบอาหารที่สามารถหาซื้อได้โดยไม่แพงมากจนเกินไป หรือ อาจจะใกล้แหล่งที่สามารถหาอาหารเหลือใช้จากครัวเรือน หรือระบบไร่นาเพื่อใช้เป็นอาหารเลี้ยงสุกรได้อย่างเพียงพอ



    -  การตลาด ควรศึกษาหาแหล่งตลาดที่รับซื้อสุกร ขายสุกร ทั้งที่สุกรยังมีชีวิต และตลาดที่รับสุกรชำแหละแล้วไว้ด้วย โดยพันธุ์สุกรที่เกษตรกรหรือผู้คนทั่วไปที่เลี้ยงสุกร จะนิยมนำมาขุน ส่วนมากจะนิยมใช้ผสม 2, 3, หรือ 4 สายพันธุ์ ซึ่งจะมีลักษณะการให้ผลผลิต การเติบโต และ ความแข็งแรง ที่ดีกว่าการได้จากพ่อและแม่พันธุ์ที่ให้กำเนิดพันธุ์เดียวกัน พันธุ์ที่ส่วนมากใช้ในการผสมข้ามสายพันธุ์มีหลายพันธุ์ อย่าเช่น พันธุ์ลาร์จไวน์ พันธุ์แลนด์เรช และพันธุ์ดูร็อคเจอร์ซี่ เป็นตัน



    - ฟาร์มหรือโรงเรือนที่ใช้เลี้ยงสุกร ควรตั้งอยู่ในที่น้ำไม่ท่วม สามารถระบายน้ำได้ดี ห่างไกลจากชุมชน หรือ ตลาด ต่างๆ โรงเรือนที่ใช้เลี้ยงสุกรต้องสามารถป้องกันแดด กันฝน และ กันลม ยิ่งถ้าช่วงในฤดูร้อนควรจะต้องดูแลเป็นพิเศษ



    - พื้นในคอกของสถานที่เลี้ยงควรเป็นพื้นคอนกรีต เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด โดยขนาดของคอกควรมีประมาณ 4 x 35 เมตร จึงจะสามารถเลี้ยงสุกรขุน ที่มีขนาด 60 – 100 กิโลกรัม ประมาณ 8 – 10 ตัว

    ส่วนความยาวของคอกนั้นให้ขึ้นอยู่กับว่า จำนวนสุกรที่เกษตรกรเลี้ยงมีจำนวนมากเท่าไหร่



    - การให้อาหารสุกร โดยสุกรนั้นเป็นสัตว์กระเพาะเดียว ไม่สามารถย่อยอาหารที่มีเยื่อมากๆ ได้ดีเหมือนสัตว์กระเพาะรวมชนิดอื่นๆ ดังนั้นอาหารที่ใช้เลี้ยงสุกร จึงควรจะต้องมีโภชนาการที่ครบถ้วน อาหารสำหรับสุกรขุนส่วนใหญ่จะนิยมใช้อาหารแบบสำเร็จรูป หรือ ผู้เพาะเลี้ยง เกษตรกรบางรายอาจผสมอาหารเพื่อใช้เลี้ยงสุกรเอง ซึ่งจะช่วยให้ลดต้นทุนการผลิต โดยใช้หัวอาหารผสมรวมกับรำ, ปลายข้าว หรือวัสดุอื่น ๆ ตามสัดส่วนที่เกษตรกรเป็นคนกำหนด และการให้อาหารสุกรแต่ละช่วงนั้นจะต้องมีความสอดคล้องกับความต้องการบริโภคของสุกร ในแต่ละช่วงอายุของตัวสุกร



    - โดยการจัดการเลี้ยงดูแลสุกร ควรเริ่มเลี้ยงสุกรขุน ตั้งแต่ระยะที่สุกรนั้นหย่านม โดยมีน้ำหนักที่ประมาณ 20 กิโลกรัม โดยใช้อาหารที่มีโปรตีนประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ และให้สุกรกินเต็มที่ประมาณวันละ 1 – 2 กิโลกรัม จากนั้นเมื่อสุกรขุนมีน้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม ก็จะเปลี่ยนอาหารโดยใช้อาหารที่มีโปรตีน 16 เปอร์เซ็นต์แทน และให้สุกรกินอาหารวันละ 2.5 – 3.5 กิโลกรัม จนถึงระยะที่จะส่งตลาดเมื่อสุกรมีน้ำหนัก ประมาณ 100 กิโลกรัม โดยตลอดระยะเวลาการเลี้ยงสุกรนั้น จะต้องมีน้ำสะอาดให้สุกรกินตลอดทั้งวัน



    - ด้านความสะอาดของสถานที่เลี้ยงหรือคอก ควรทำความสะอาดพื้นคอกสุกรอยู่เป็นประจำ เพื่อลดการหมักหมมของเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจจะนำโรคมาสู้ตัวสุกรได้ และอีกทั้งยังป้องกันกลิ่นจากมูลสุกรไปรบกวนชุมชนสถานที่ใกล้เคียงอีกด้วยอีกด้วย และสุกรทุกตัวต้องมีการถ่ายพยาธิ และ จัดฉีดวัคซีนตามกำหนด ที่เราได้ตั้งไว้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สุกรมีสุขภาพที่ดี

  • - เลือกเลี้ยงสุกรพันธุ์ดี  อาหารดี  โรงเรือนดี  การจัดการเลี้ยงดูดี  การป้องกันโรคดี



    - ก่อนผู้ที่สนใจหรือเกษตรกรคนไหน มีการตัดสินใจที่จะเลี้ยงสุกร หรือ เลี้ยงหมู จึงจำเป็นที่ควรจะต้องศึกษาข้อมูล รายละเอียด และมีการวางแผนในระบบต่างๆ ก่อนที่จะเลี้ยงให้แน่ชัด เพื่อที่เมื่อเกษตรกรทำการเลี้ยงสุกรไปแล้วนั้นจะได้ มีผลผลิตและกำไรอย่างที่ตั้งใจไว้

  • -
  • -
  • -