ที่อยู่ 20
หมู 3 ตำบล : ท่ายาง อำเภอ : เมืองชุมพร จังหวัด: ชุมพร
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : ประถมศึกษาปีที่ 4
ประวัติ :
บ้านปากมหาด เป็นหมู่บ้านอยู่ติดริมทะเล ชาวบ้านมีอาชีพประมง กุ้ง หอย ปู ปลา และมี“เคย” เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง รูปร่างคล้ายกุ้ง บางทีก็เรียกว่า “กุ้งเคย” ซึ่งตัวเคยนี้จะดำรงชีวิตอยู่ใกล้ผิวทะเลโดยไม่จมลงไป อาจจะอยู่ในน้ำลึกประมาณหน้าแข้งถึงระดับหน้าอก ตัวเคยมีขนาดยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร มีเปลือกบางและนิ่ม อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงตามชายทะเลและลำคลองบริเวณป่าชายเลน สำหรับคนไทยแล้ว ตัวเคยเป็นสัตว์เศรษฐกิจซึ่งหาได้จากธรรมชาติ ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์โดยใช้ตัวเคยมาทำกะปิหรือกุ้งแห้ง
หมู่บ้านมีชื่อเสียง ของผลิตภัณฑ์ กะปิ ปลาเค็ม ทำให้ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
บ้านปากมหาด เป็นหมู่บ้านอยู่ติดริมทะเล ชาวบ้านมีอาชีพประมง กุ้ง หอย ปู ปลา และมี“เคย” เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง รูปร่างคล้ายกุ้ง บางทีก็เรียกว่า “กุ้งเคย” ซึ่งตัวเคยนี้จะดำรงชีวิตอยู่ใกล้ผิวทะเลโดยไม่จมลงไป อาจจะอยู่ในน้ำลึกประมาณหน้าแข้งถึงระดับหน้าอก ตัวเคยมีขนาดยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร มีเปลือกบางและนิ่ม อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงตามชายทะเลและลำคลองบริเวณป่าชายเลน สำหรับคนไทยแล้ว ตัวเคยเป็นสัตว์เศรษฐกิจซึ่งหาได้จากธรรมชาติ ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์โดยใช้ตัวเคยมาทำกะปิหรือกุ้งแห้ง
กะปิก็ต้องหาซื้อวัตถุดิบเอาเพราะหาเองไม่ได้ตามธรรมชาติแล้ว.... วัตถุดิบหลักในการทำทำกะปิที่ว่านี้ก็คือกุ้งฝอย..ซึ่งเป็นลูกกุ้งที่อาศัยอยู่ ในน้ำจืด..ตามกอสาหร่ายโดยเฉพาะสาหร่ายหางกะรอก...ในสมัยก่อนแค่เอาสวิง ช้อนใต้กอสาหร่ายก็จะได้กุ้งฝอยเยอะมาก...แต่มาปัจจุบันแทบจะไม่มีกุ้งฝอยใน คลองหลงเหลืออยู่เลย... .....นอกจากจะใช้กุ้งฝอยในการทำกะปิแล้วบางพื้นที่ของประเทศไทยก็ใช้กุ้งเคย เป็นวัตถุดิบหลักในทำกะปิ......ซึ่งถ้าเทียบดูแล้วกะปิที่วางขายตามท้องตลาดส่วน มากจะทำมาจากกุ้งเคย......แต่ไม่รู้ว่ารสชาติจะเหมือนกันไหม...เพราะเคยกินแต่ กะปิที่ทำมาจากกุ้งฝอยเท่านั้น.... มาดูวิธีทำกะปิกันดีกว่า... 1.หาซื้อกุ้งฝอยมาแล้วนำมาล้างคัดเอาพวกเศษหินหรือสิ่งแปลกปลอมออกให้ หมด ล้างสัก3-4 น้ำ
2.ตวงกุ้งในอัตราส่วน กุ้ง8ส่วน เกลือ 1ส่วน เกลือที่ใช้ก็เป็นเกลือเม็ด (ปกติก็ใช้ ถ้วยใบเล็กๆตวงเอา)
3.หลังจากตวงเสร็จแล้วก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน ...หาครกมา1ใบแล้วลงมือโครกตำ ให้กุ้งกับเกลือละเอียดและเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน(ตำไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็หยุดพัก ไม่ต้องกะว่าจะตำจนละเอียดน่ะเพราะเดียวต้องมาบดอีกทีโดยใช้เครื่องปั่นพริก ทั่วไป) ครกใบนี้อายุไม่ต่ำกว่า20ปี
4.หลังจากตำจนกุ้งกับเกลือรวมกันเป็นเนื้อเดียวกันแล้วก็ตักใส่กะละมังหรือถาดก็ ได้ แล้วนำไปตากแดดสัก5วัน ที่ตากแดดก็เพื่อให้แห้งและเป็นการหมักไปในตัว
5.หลังจากนั้น5วันกะปิจะเริ่มส่งกลิ่นหอม เนื้อกะปิจะออกสีม่วง และเนื้อกะปิจะ แห้งซึ่งผิดกับวันแรกที่เนื้อกะปิจะค่อนข้างแฉะ หลังจากนี้ก็นำกะปิมาปั่นให้ ละเอียดโดยใช้เครื่องปั่นพริกทั่วไป ถ้าไม่มีเครื่องปั่นก็ใช้ครกนั่นแหละตำอีกรอบ จนเนื้อกะปิละเอียด
6.นำไปตากอีก 5 วัน เพื่อให้แห้งอาจะใช้ทัพพีตักเนื้อกะปิพลิกไปมาเพื่อให้แห้ง ทั่วถึงหลังจากเนื้อกะปิแห้งแล้วก็ตักใส่ภาชนะที่แห้งและมีฝาปิดมิดชิด ถ้าเป็น สมัยก่อนจะใช้โอ่งดินใบเล็กๆแล้วใช้ถุงพลาสติกรัดปิดปาก มาปัจจุบันก็ใช้ขวด แก้วกาแฟที่กินหมดแล้วนำมาล้างแล้วเช็ดให้แห้งใส่กะปิเก็บไว้กินได้1ปีโดยไม่ ต้องแช่ตู้เย็น แต่ถ้าจะให้ดีก็หาขวดใบเล็กมาตักแบ่งจากขวดใหญ่อีกทีเพื่อจะได้ ไม่ต้องเปิดขวดใหญ่บ่อยๆ..
ทีนี้ก็ได้กะปิที่ไร้สารเจือปนและปลอดภัย100% |
หมู่บ้านมีชื่อเสียง ของผลิตภัณฑ์ กะปิ ปลาเค็ม ทำให้ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
ทำอาชีพนี้มานานเกินกว่า 10 ปี