กลับไปหน้าค้นหา

นางจรรยา โหวบุตร

  • Facebook ID: -
  • Line ID: -
  • Email: -

ที่อยู่ 20 หมู 3 ตำบล : ท่ายาง อำเภอ : เมืองชุมพร จังหวัด: ชุมพร
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : ประถมศึกษาปีที่ 4
ประวัติ :

บ้านปากมหาด เป็นหมู่บ้านอยู่ติดริมทะเล ชาวบ้านมีอาชีพประมง กุ้ง หอย ปู ปลา  และมี“เคย” เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง รูปร่างคล้ายกุ้ง บางทีก็เรียกว่า “กุ้งเคย” ซึ่งตัวเคยนี้จะดำรงชีวิตอยู่ใกล้ผิวทะเลโดยไม่จมลงไป อาจจะอยู่ในน้ำลึกประมาณหน้าแข้งถึงระดับหน้าอก ตัวเคยมีขนาดยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร มีเปลือกบางและนิ่ม อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงตามชายทะเลและลำคลองบริเวณป่าชายเลน สำหรับคนไทยแล้ว ตัวเคยเป็นสัตว์เศรษฐกิจซึ่งหาได้จากธรรมชาติ ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์โดยใช้ตัวเคยมาทำกะปิหรือกุ้งแห้ง


ความสำเร็จ :

หมู่บ้านมีชื่อเสียง ของผลิตภัณฑ์ กะปิ ปลาเค็ม ทำให้ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป


ความชำนาญ : การทำกะปิ


ข้อมูลปราชญ์ชาวบ้าน

  • บ้านปากมหาด เป็นหมู่บ้านอยู่ติดริมทะเล ชาวบ้านมีอาชีพประมง กุ้ง หอย ปู ปลา  และมี“เคย” เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง รูปร่างคล้ายกุ้ง บางทีก็เรียกว่า “กุ้งเคย” ซึ่งตัวเคยนี้จะดำรงชีวิตอยู่ใกล้ผิวทะเลโดยไม่จมลงไป อาจจะอยู่ในน้ำลึกประมาณหน้าแข้งถึงระดับหน้าอก ตัวเคยมีขนาดยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร มีเปลือกบางและนิ่ม อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงตามชายทะเลและลำคลองบริเวณป่าชายเลน สำหรับคนไทยแล้ว ตัวเคยเป็นสัตว์เศรษฐกิจซึ่งหาได้จากธรรมชาติ ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์โดยใช้ตัวเคยมาทำกะปิหรือกุ้งแห้ง








  • กะปิก็ต้องหาซื้อวัตถุดิบเอาเพราะหาเองไม่ได้ตามธรรมชาติแล้ว....



    วัตถุดิบหลักในการทำทำกะปิที่ว่านี้ก็คือกุ้งฝอย..ซึ่งเป็นลูกกุ้งที่อาศัยอยู่



    ในน้ำจืด..ตามกอสาหร่ายโดยเฉพาะสาหร่ายหางกะรอก...ในสมัยก่อนแค่เอาสวิง



    ช้อนใต้กอสาหร่ายก็จะได้กุ้งฝอยเยอะมาก...แต่มาปัจจุบันแทบจะไม่มีกุ้งฝอยใน



    คลองหลงเหลืออยู่เลย...



    .....นอกจากจะใช้กุ้งฝอยในการทำกะปิแล้วบางพื้นที่ของประเทศไทยก็ใช้กุ้งเคย



    เป็นวัตถุดิบหลักในทำกะปิ......ซึ่งถ้าเทียบดูแล้วกะปิที่วางขายตามท้องตลาดส่วน



    มากจะทำมาจากกุ้งเคย......แต่ไม่รู้ว่ารสชาติจะเหมือนกันไหม...เพราะเคยกินแต่



    กะปิที่ทำมาจากกุ้งฝอยเท่านั้น....



    มาดูวิธีทำกะปิกันดีกว่า...



    1.หาซื้อกุ้งฝอยมาแล้วนำมาล้างคัดเอาพวกเศษหินหรือสิ่งแปลกปลอมออกให้



    หมด ล้างสัก3-4 น้ำ



     



    2.ตวงกุ้งในอัตราส่วน กุ้ง8ส่วน เกลือ 1ส่วน เกลือที่ใช้ก็เป็นเกลือเม็ด (ปกติก็ใช้



    ถ้วยใบเล็กๆตวงเอา)



     



    3.หลังจากตวงเสร็จแล้วก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน ...หาครกมา1ใบแล้วลงมือโครกตำ



    ให้กุ้งกับเกลือละเอียดและเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน(ตำไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็หยุดพัก



    ไม่ต้องกะว่าจะตำจนละเอียดน่ะเพราะเดียวต้องมาบดอีกทีโดยใช้เครื่องปั่นพริก



    ทั่วไป)



     ครกใบนี้อายุไม่ต่ำกว่า20ปี



     



    4.หลังจากตำจนกุ้งกับเกลือรวมกันเป็นเนื้อเดียวกันแล้วก็ตักใส่กะละมังหรือถาดก็



    ได้ แล้วนำไปตากแดดสัก5วัน ที่ตากแดดก็เพื่อให้แห้งและเป็นการหมักไปในตัว



     



    5.หลังจากนั้น5วันกะปิจะเริ่มส่งกลิ่นหอม เนื้อกะปิจะออกสีม่วง และเนื้อกะปิจะ



    แห้งซึ่งผิดกับวันแรกที่เนื้อกะปิจะค่อนข้างแฉะ หลังจากนี้ก็นำกะปิมาปั่นให้



    ละเอียดโดยใช้เครื่องปั่นพริกทั่วไป ถ้าไม่มีเครื่องปั่นก็ใช้ครกนั่นแหละตำอีกรอบ



    จนเนื้อกะปิละเอียด



     



    6.นำไปตากอีก 5 วัน เพื่อให้แห้งอาจะใช้ทัพพีตักเนื้อกะปิพลิกไปมาเพื่อให้แห้ง



    ทั่วถึงหลังจากเนื้อกะปิแห้งแล้วก็ตักใส่ภาชนะที่แห้งและมีฝาปิดมิดชิด ถ้าเป็น



    สมัยก่อนจะใช้โอ่งดินใบเล็กๆแล้วใช้ถุงพลาสติกรัดปิดปาก มาปัจจุบันก็ใช้ขวด



    แก้วกาแฟที่กินหมดแล้วนำมาล้างแล้วเช็ดให้แห้งใส่กะปิเก็บไว้กินได้1ปีโดยไม่



    ต้องแช่ตู้เย็น แต่ถ้าจะให้ดีก็หาขวดใบเล็กมาตักแบ่งจากขวดใหญ่อีกทีเพื่อจะได้



    ไม่ต้องเปิดขวดใหญ่บ่อยๆ..



     



    ทีนี้ก็ได้กะปิที่ไร้สารเจือปนและปลอดภัย100%


  • หมู่บ้านมีชื่อเสียง ของผลิตภัณฑ์ กะปิ ปลาเค็ม ทำให้ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

  • -
  • -
  • ทำอาชีพนี้มานานเกินกว่า 10 ปี