ที่อยู่ 7
หมู 11 ตำบล : ซับน้อย อำเภอ : วิเชียรบุรี จังหวัด: เพชรบูรณ์
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : ปริญญาตรี
ประวัติ :
เมื่อปี พ.ศ. 2544 เป็นปีที่เศรษฐกิจย่ำแย่ ข้าพเจ้าเป็นพนักงานในบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่นำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่าย เมื่อเศรษฐกิจแย่บริษัทได้คัดพนักงานออกเพื่อลดค่าใช้จ่าย ผมไม่ได้ถูกคัดออก แต่ก็พบกับปัญหาหลายอย่างกับการทำงาน จึงตัดสินใจลาออกกลับมาอยู่บ้าน ทำไร่แต่ไปไม่ไหว ปี 2548 จึงเลิกทำไร่ มาซื้อโรงสีข้าวขนาดครอบครัว 1 เครื่อง เพื่อรับสีข้าวในชุมชน ในขณะเดียวกันก็เลี้ยงหมู เลี้ยงเป็ดไข่ และเลี้ยงไก่พื้นเมืองไปด้วย ในฤดูทำนา เพื่อจะได้ข้าวเปลือกมาสีเป็นข้าวสารขาย ส่วนรำกับข้าวปลายมาเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ในบริเวณพื้นที่ทำกินของผมนั้น มีหลายอย่างทำแบบผสมผสานกันเลี้ยงสัตว์และปลุกพืชที่กินได้ไว้ประกอบอาหารในทุกๆวัน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของเรา
ผลสำเร็จต่างๆที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะอาชีพอะไร เขาต้องมีใจรัก และเอาใจใส่ต่อในทุกเรื่อง อย่ามองข้ามว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ ถ้าเรารักสิ่งไหนแล้วเราจะทำได้ดี และไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเบื่อ ยิ่งเมื่อเขาได้รับผลประโยชน์จากสิ่งที่เราทำ ยิ่งมีความสุข
การที่เราจะทำอะไรย่อมมีอุปสรรคและปัยบหาต่างๆ แต่อย่าท้อและถอย ต้องศึกษาเก็บเป็นความรู้ ตั้งสติและดูว่าปัญหาเกิดจากอะไร แล้วหาทางออก ถ้าเราทำไม่ได้ ให้ถามผู้รู้ เพื่อหาทางออก แล้วเก็บปัญหานั้นไว้เป็นบทเรียนต่อไป
เมื่อปี พ.ศ. 2544 เป็นปีที่เศรษฐกิจย่ำแย่ ข้าพเจ้าเป็นพนักงานในบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่นำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่าย เมื่อเศรษฐกิจแย่บริษัทได้คัดพนักงานออกเพื่อลดค่าใช้จ่าย ผมไม่ได้ถูกคัดออก แต่ก็พบกับปัญหาหลายอย่างกับการทำงาน จึงตัดสินใจลาออกกลับมาอยู่บ้าน ทำไร่แต่ไปไม่ไหว ปี 2548 จึงเลิกทำไร่ มาซื้อโรงสีข้าวขนาดครอบครัว 1 เครื่อง เพื่อรับสีข้าวในชุมชน ในขณะเดียวกันก็เลี้ยงหมู เลี้ยงเป็ดไข่ และเลี้ยงไก่พื้นเมืองไปด้วย ในฤดูทำนา เพื่อจะได้ข้าวเปลือกมาสีเป็นข้าวสารขาย ส่วนรำกับข้าวปลายมาเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ในบริเวณพื้นที่ทำกินของผมนั้น มีหลายอย่างทำแบบผสมผสานกันเลี้ยงสัตว์และปลุกพืชที่กินได้ไว้ประกอบอาหารในทุกๆวัน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของเรา
ในการทำงานแต่ละวันใช้แรงงานคนในครัวเรือนเพียง 3 คน คือ พ่อ แม่ และลูกชาย เช้ามาลูกชายจะรับหน้าที่สีข้าว ส่วนผมกับภรรยาก็ดูแลทั่วไปเกี่ยวกับหมู เป็ด ไก่ และในนาข้าว
ในการดำรงชีวิตในแต่ละวัน นอกจากอาหารหมุแล้วเราก็จะไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย เพราะเราจะกินของที่เรามี และนำเศษผักและต้มกล้วยที่เราปลูกไว้มาสับเป็นอาหารเป็ดเพื่อลดค่าอาหารหมู อาหารเป็ด
ก่อนที่เราจะทำอะไรหรือเลี้ยงหมูก็ตามเราต้องวางแผนให้ดี และศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เราจะทำให้ดี เช่น ทุน แรงงาน ตลาด เป็นต้น
ถ้าเราไม่แน่ใจว่าจะทำได้ ควรทำหรือเริ่มต้นทีละน้อยแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อหาประสบการณ์ก่อน เพื่อลดความเสี่ยง
ในการเลี้ยงหมุของผม จะทำแบบครบวงจรตั้งแต่เลี้ยงแม่หมุ จับขุนส่งตลาด เพราะลดต้นทุนในการซื้อลูกหมุเข้าขุน และไม่เสี่ยงกับโรคระบาดของหมู เพราะเขาทำวัคซีนตามขั้นตอนตลอด
ในตอนเช้าก่อนล้างคอกควรเก็บมูลหมูออกตากแดดให้แห้งรวบรวมใส่ถุงขายเพื่อเป้นรายได้อีกทาง
ส่วนของผมทำแบบผสมผสานพึ่งพากัน เริ่มตั้งแต่โรงสีข้าว เลี้ยงหมุ เป็ด ไก่ ปละปลา ผมขุดสระเก็บน้ำไว้ล้างหมู ในสระก็เลี้ยงปลา ขอบสระก็ปลูกกล้วย ผัก ข่า ตะไคร้ สิ่งเหล่านี้คือ ตู้กับข้าวของเรา
ผลสำเร็จต่างๆที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะอาชีพอะไร เขาต้องมีใจรัก และเอาใจใส่ต่อในทุกเรื่อง อย่ามองข้ามว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ ถ้าเรารักสิ่งไหนแล้วเราจะทำได้ดี และไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเบื่อ ยิ่งเมื่อเขาได้รับผลประโยชน์จากสิ่งที่เราทำ ยิ่งมีความสุข
การที่เราจะทำอะไรย่อมมีอุปสรรคและปัยบหาต่างๆ แต่อย่าท้อและถอย ต้องศึกษาเก็บเป็นความรู้ ตั้งสติและดูว่าปัญหาเกิดจากอะไร แล้วหาทางออก ถ้าเราทำไม่ได้ ให้ถามผู้รู้ เพื่อหาทางออก แล้วเก็บปัญหานั้นไว้เป็นบทเรียนต่อไป
อย่าตาโตใจร้อน เพราะทุกอย่างไม่ลงล๊อคเหมือนที่เราคิดไว้ ควรทำไปตามกำลังและทุนขอวเรา เพื่อก้าวไปอย่างมั่นคง