กลับไปหน้าค้นหา

นายเข็มพร ชินนอก

  • Facebook ID: -
  • Line ID: -
  • Email: -

ที่อยู่ 7 หมู 11 ตำบล : ซับน้อย อำเภอ : วิเชียรบุรี จังหวัด: เพชรบูรณ์
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : ปริญญาตรี
ประวัติ :

เมื่อปี พ.ศ. 2544 เป็นปีที่เศรษฐกิจย่ำแย่  ข้าพเจ้าเป็นพนักงานในบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่นำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่าย  เมื่อเศรษฐกิจแย่บริษัทได้คัดพนักงานออกเพื่อลดค่าใช้จ่าย ผมไม่ได้ถูกคัดออก แต่ก็พบกับปัญหาหลายอย่างกับการทำงาน  จึงตัดสินใจลาออกกลับมาอยู่บ้าน  ทำไร่แต่ไปไม่ไหว ปี 2548 จึงเลิกทำไร่ มาซื้อโรงสีข้าวขนาดครอบครัว 1 เครื่อง เพื่อรับสีข้าวในชุมชน ในขณะเดียวกันก็เลี้ยงหมู  เลี้ยงเป็ดไข่ และเลี้ยงไก่พื้นเมืองไปด้วย ในฤดูทำนา เพื่อจะได้ข้าวเปลือกมาสีเป็นข้าวสารขาย ส่วนรำกับข้าวปลายมาเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ในบริเวณพื้นที่ทำกินของผมนั้น มีหลายอย่างทำแบบผสมผสานกันเลี้ยงสัตว์และปลุกพืชที่กินได้ไว้ประกอบอาหารในทุกๆวัน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของเรา


ความสำเร็จ :

ผลสำเร็จต่างๆที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะอาชีพอะไร เขาต้องมีใจรัก และเอาใจใส่ต่อในทุกเรื่อง อย่ามองข้ามว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ ถ้าเรารักสิ่งไหนแล้วเราจะทำได้ดี และไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเบื่อ ยิ่งเมื่อเขาได้รับผลประโยชน์จากสิ่งที่เราทำ ยิ่งมีความสุข 



การที่เราจะทำอะไรย่อมมีอุปสรรคและปัยบหาต่างๆ แต่อย่าท้อและถอย  ต้องศึกษาเก็บเป็นความรู้ ตั้งสติและดูว่าปัญหาเกิดจากอะไร แล้วหาทางออก ถ้าเราทำไม่ได้ ให้ถามผู้รู้ เพื่อหาทางออก  แล้วเก็บปัญหานั้นไว้เป็นบทเรียนต่อไป



 


ความชำนาญ : ทำนา เลี้ยงหมู


ข้อมูลปราชญ์ชาวบ้าน

  • เมื่อปี พ.ศ. 2544 เป็นปีที่เศรษฐกิจย่ำแย่  ข้าพเจ้าเป็นพนักงานในบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่นำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่าย  เมื่อเศรษฐกิจแย่บริษัทได้คัดพนักงานออกเพื่อลดค่าใช้จ่าย ผมไม่ได้ถูกคัดออก แต่ก็พบกับปัญหาหลายอย่างกับการทำงาน  จึงตัดสินใจลาออกกลับมาอยู่บ้าน  ทำไร่แต่ไปไม่ไหว ปี 2548 จึงเลิกทำไร่ มาซื้อโรงสีข้าวขนาดครอบครัว 1 เครื่อง เพื่อรับสีข้าวในชุมชน ในขณะเดียวกันก็เลี้ยงหมู  เลี้ยงเป็ดไข่ และเลี้ยงไก่พื้นเมืองไปด้วย ในฤดูทำนา เพื่อจะได้ข้าวเปลือกมาสีเป็นข้าวสารขาย ส่วนรำกับข้าวปลายมาเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ในบริเวณพื้นที่ทำกินของผมนั้น มีหลายอย่างทำแบบผสมผสานกันเลี้ยงสัตว์และปลุกพืชที่กินได้ไว้ประกอบอาหารในทุกๆวัน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของเรา

  • ในการทำงานแต่ละวันใช้แรงงานคนในครัวเรือนเพียง 3 คน  คือ พ่อ แม่ และลูกชาย เช้ามาลูกชายจะรับหน้าที่สีข้าว  ส่วนผมกับภรรยาก็ดูแลทั่วไปเกี่ยวกับหมู เป็ด ไก่ และในนาข้าว



    ในการดำรงชีวิตในแต่ละวัน นอกจากอาหารหมุแล้วเราก็จะไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย เพราะเราจะกินของที่เรามี และนำเศษผักและต้มกล้วยที่เราปลูกไว้มาสับเป็นอาหารเป็ดเพื่อลดค่าอาหารหมู อาหารเป็ด



    ก่อนที่เราจะทำอะไรหรือเลี้ยงหมูก็ตามเราต้องวางแผนให้ดี และศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เราจะทำให้ดี เช่น ทุน แรงงาน ตลาด เป็นต้น



    ถ้าเราไม่แน่ใจว่าจะทำได้ ควรทำหรือเริ่มต้นทีละน้อยแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อหาประสบการณ์ก่อน เพื่อลดความเสี่ยง



    ในการเลี้ยงหมุของผม จะทำแบบครบวงจรตั้งแต่เลี้ยงแม่หมุ  จับขุนส่งตลาด เพราะลดต้นทุนในการซื้อลูกหมุเข้าขุน และไม่เสี่ยงกับโรคระบาดของหมู เพราะเขาทำวัคซีนตามขั้นตอนตลอด



    ในตอนเช้าก่อนล้างคอกควรเก็บมูลหมูออกตากแดดให้แห้งรวบรวมใส่ถุงขายเพื่อเป้นรายได้อีกทาง



    ส่วนของผมทำแบบผสมผสานพึ่งพากัน เริ่มตั้งแต่โรงสีข้าว เลี้ยงหมุ เป็ด ไก่ ปละปลา ผมขุดสระเก็บน้ำไว้ล้างหมู  ในสระก็เลี้ยงปลา ขอบสระก็ปลูกกล้วย ผัก ข่า ตะไคร้ สิ่งเหล่านี้คือ ตู้กับข้าวของเรา

  • ผลสำเร็จต่างๆที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะอาชีพอะไร เขาต้องมีใจรัก และเอาใจใส่ต่อในทุกเรื่อง อย่ามองข้ามว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ ถ้าเรารักสิ่งไหนแล้วเราจะทำได้ดี และไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเบื่อ ยิ่งเมื่อเขาได้รับผลประโยชน์จากสิ่งที่เราทำ ยิ่งมีความสุข 



    การที่เราจะทำอะไรย่อมมีอุปสรรคและปัยบหาต่างๆ แต่อย่าท้อและถอย  ต้องศึกษาเก็บเป็นความรู้ ตั้งสติและดูว่าปัญหาเกิดจากอะไร แล้วหาทางออก ถ้าเราทำไม่ได้ ให้ถามผู้รู้ เพื่อหาทางออก  แล้วเก็บปัญหานั้นไว้เป็นบทเรียนต่อไป



     

  • อย่าตาโตใจร้อน  เพราะทุกอย่างไม่ลงล๊อคเหมือนที่เราคิดไว้ ควรทำไปตามกำลังและทุนขอวเรา เพื่อก้าวไปอย่างมั่นคง

  • -
  • -