ค้นหาองค์ความรู้

เดิมประกอบอาชีพรับจ้างเป็นลูกจ้างของบริษัทแห่งหนึ่ง เห็นถึงความไม่ยั่งยืนในการประกอบอาชีพ ค่าใช้จ่ายในการครองชีพสูง ปี 2554 จึงได้ตัดสินใจลาออกและหันกลับมาทำสวนที่บ้าน เนื่องจากมีที่ดินทำกินอยู่แล้ว และได้เรียนรู้วิธีการปลูกแก้วมังกรจากญาติพี่น้อง เพราะเห็นว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่ดี ประกอบกับความอุดมสมบูรณ์ของดินและน้ำ ทำให้แก้วมังกรของบ้านแพ้วมีรสชาติหวานอร่อย เป็นที่ต้องการของตลาด สร้างรายได้ที่ดีให้กับครอบครัว คุณภาพชีวิตก็ดีขึ้น ปัจจุบันได้เช่าที่ดินทำสวนแก้วมังกรเพิ่มเติมรวม 20 ไร่

1. กำหนดระยะเวลาปลูก (ควรปลูกฤดูฝนช่วงเดือนพฤษภาคม) และคัดเลือกต้นพันธุ์ที่ดี ตัดเป็นท่อนยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ปักชำไว้ 2 เดือนก่อนปลูก

2. ขุดหลุมฝังเสา ผยาว 2 เมตร) ลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ด้านบนเสาใช้เหล็ก 3 หุน เสียบเป็นรูปกากบาท วางทับด้วยยางรถยนต์เก่าเพื่อทำเป็นร้านให้แก้วมังกรยึดเกาะ

3. ใช้ท่อนพันธุ์แก้วมังกรที่ปักชำไว้ปลูกข้างเสา ๆ ละ 3 ต้น

4. สัปดาห์แรก ลดน้ำ 3 วันต่อครั้ง สัปดาห์ที่ 2-3 รดน้ำ 7 วันต่อครั้ง หลังปลูก 1 เดือน โรยด้วยมุลสัตว์ หรือปุ๋ยอินทรีย์ หลุมละ 1 กิโลกรัม อายุ 3 เดือน ใส่มูลสัตว์หรือปุ๋ยอินทรีย์ หลุมละ 3 กิโลกรัม อายุ 8 เดือนแก้วมังกรติดดอกรุ่นแรก บำรุงด้วยปุ๋ยประมาณกำมือต่อต้น หลังติดลูก 20-30 วัน ใส่ปุ๋ยประมาณกำมือต่อต้น เมื่อแก้วมังกรเริ่มออกดอกไม่ต้องให้น้ำ

1. ความขยันหมั่นเพียร การค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม

2. การทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ผสมปุ๋ยใช้เองตามสูตรที่แก้วมังกรต้องการ

3. ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ดินดี น้ำดี