กลับไปหน้าค้นหา

นางวันเพ็ญ ชมชาติ

  • Facebook ID: -
  • Line ID: -
  • Email: -

ที่อยู่ 12/2 หมู 9 ตำบล : ศรีมงคล อำเภอ : บึงสามพัน จังหวัด: เพชรบูรณ์
โทรศัพท์ : -
การศึกษา : มัธยมศึกษาปีที่ 3
ประวัติ :

ปกติประกอบอาชีพเกษตรกรรม เห็นประโยชน์ของการปลูกผักปลอดสารไว้บริโภค จึงคิดที่จะศึกษาหาความรู้ก่อนที่จะลงมือทำ และเรียนผิดเรียนถูก


ความสำเร็จ :

การศึกษาหาความรู้จากแหล่งอื่นๆ และพร้อมที่จะไปศึกษาดูงานที่ประสบผลสำเร็จ


ความชำนาญ : ปลูกผักปลอดสารพิษ


ข้อมูลปราชญ์ชาวบ้าน

  • ปกติประกอบอาชีพเกษตรกรรม เห็นประโยชน์ของการปลูกผักปลอดสารไว้บริโภค จึงคิดที่จะศึกษาหาความรู้ก่อนที่จะลงมือทำ และเรียนผิดเรียนถูก

  • เตรียมดิน    ก่อนจะปลูกพืชเพื่อทำสวนอะไรก็ตาม เราควรต้องทดสอบคุณภาพของดินก่อน เพราะถ้าหากดินอุดมสมบูรณ์ มีธาตุอาหารที่สำคัญต่อพืชอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะปลูกต้นอะไรก็จะงอกงามได้อย่างสวยงาม ซึ่งก่อนอื่นก็ต้องนำตัวอย่างดินไปตรวจสอบธาตุอาหารที่มีอยู่ รวมทั้งค่า pH ของดินที่ด้วย เพื่อที่เราจะได้ทราบความอุดมสมบูรณ์ และปัญหาของดินในแปลงปลูก รวมทั้งรับคำแนะนำการแก้ไขปรับปรุงดินให้พร้อม และถ้าหากทราบผลของดินแล้ว ควรเลือกปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยชีวภาพ เพราะในปุ๋ยชีวภาพจะมีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อดินและพืช อีกทั้งยังปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยต่อสุขภาพของพืชที่จะปลูกด้วย



              ปุ๋ยหมักชีวภาพมีประโยชน์และสำคัญมากกับสวนออร์แกนิก เพราะเป็นตัวส่งเสริมให้สวนออร์แกนิกของเราเจริญเติบโตได้อย่างสวยงาม เนื่องจากมีอัตราส่วนของไนโตรเจน คาร์บอนด์ รวมทั้งจุลินทรีย์ที่เหมาะสมและปลอดภัย แถมปุ๋ยหมักยังช่วยลดเศษซากพืชที่เน่าเสีย ไม่ให้กลายเป็นขยะสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่าปุ๋ยเคมีด้วย นอกจากนี้ปุ๋ยชีวภาพยังช่วยลดวัชพืช และให้สารอาหารแก่ดินได้ค่อนข้างครบถ้วน ซึ่งเราก็สามารถทำปุ๋ยหมักชีวภาพด้วยตัวเองง่าย ๆ ดังนี้



                หาภาชนะขนาดความลึกประมาณ 3 ตารางฟุตมาเตรียมไว้



                ใส่ใบไม้แห้งลงไป โรยปุ๋ยคอกทับ



                ใส่เศษอาหาร หรือเศษผัก โรยปุ๋ยคอกทับอีกชั้น ความสูงของกองเศษอาหารไม่ควรเกิน 30 เซนติเมตร



                โรยใบไม้แห้งลงไปอีก ความสูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร จากนั้นจะนำเศษอาหารมาโรยทับบาง ๆ อีกชั้น



                หาอะไรมากดทับเศษอาหารและเศษผักให้อัดแน่นให้ได้มากที่สุด แล้วหมักทิ้งไว้ 30 วัน



                พอครบกำหนดเวลาแล้วให้ใช้พลั่วค่อย ๆ ตักปุ๋ยชีวภาพด้านล่างเอามาใช้ได้เลย



     



     



     



               การปลูกพืชในกระบะจะช่วยให้เราสามารถควบคุมดูแลพืชได้สะดวก ทั้งเรื่องสารอาหารในดิน ลดความเสี่ยงในการถูกเหยีบย่ำทำลาย และลดการกระจายของโรคพืชและแมลงได้อีกด้วย ซึ่งการปลูกพืชในกระบะก็ต้องไม่ลืมเว้นระยะห่างของการปลูกพืชให้เหมาะสม ไม่ควรปลูกพืชชิดกันจนเกินไป เพราะพืชจะแย่งน้ำและสารอาหาร รวมทั้งบดบังแสงแดดกันได้ โดยเฉพาะถ้าคุณจะปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินเอง หรือปลูกไม้ดอกยืนต้น ก็ควรเลือกปลูกพืชชนิดเดียวในกระบะ  1 ใบ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลสวนออร์แกนิกเท่าไหร่ แนะนำให้เลือกปลูกมะเขือเทศ เพราะเป็นไม้เถาที่ดูแลง่าย โตไว มีสีสันสดใส และถึงแม้จะร่วงก็สามารถงอกใหม่ได้ไม่ยาก หรือบรรดาพืชตระกูลถั่ว กะหล่ำ และคะน้า ก็เป็นพืชที่ปลูกง่าย และโตไวเช่นกัน



               เมื่อปลูกพืชแล้ว คราวนี้ก็ถึงขั้นตอนของการดูแล โดยควรจะรดน้ำให้ต้นไม้อย่างเหมาะสมทุกเช้า เพราะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการรดน้ำต้นไม้ เนื่องจากในช่วงเช้าอากาศจะเย็น มีน้ำค้างและความชื้นที่พอดี อีกทั้งลมก็ยังไม่แรง เวลารดน้ำละอองและหยดน้ำที่เรารดลงไปจะไม่กระเด็นออกนอกกระถาง ต้นไม้ก็จะได้รับน้ำอย่างเต็มที่ แต่ถ้าคุณเลือกรดน้ำต้นไม้ในตอนเย็น ความชื้นในดินจะอยู่ตลอดทั้งคืน เสี่ยงที่เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราจะเกาะตัวอยู่ที่รากต้นไม้ จนทำให้รากเน่าได้ ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้รดน้ำต้นไม้ด้วยมือจะดีที่สุด และพยายามรดน้ำที่หน้าดินมากกว่ารดไปที่ใบ เพราะอย่าลืมว่ารากต้นไม้อยู่ด้านล่างนะคะ ต้นไม้ไม่สามารถดูดกินน้ำผ่านทางใบได้ และควรจะรดน้ำให้พอชุ่มก็พอ ไม่ต้องรดมากถึงขั้นมีน้ำขังอยู่ในกระถางหรือกระบะปลูกต้นไม้ แต่ต้องหมั่นรดน้ำทุกวัน



               ในเมื่อเราปลูกพืชบนดิน มีสารอาหารและความชื้นที่เหมาะสม ก็ย่อมต้องมีวัชพืชขึ้นมารบกวนสวนออร์แกนิกของคุณอย่างแน่นอน และเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นสวนออร์แกนิก ครั้นจะใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชเหล่านี้คงไม่เหมาะเท่าไร ดังนั้นก็ลงมือถอนวัชพืชด้วยตัวเองเลยดีกว่า ถอนด้วยมือนี่ล่ะค่ะ ฟังดูอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ก็นึกซะว่าเป็นการออกกำลังกาย และหาโอกาสมาสูดอากาศบริสุทธิ์สักหน่อยก็ได้ หรือถ้ารวมพลคนในบ้านมาร่วมด้วยช่วยกันก็จะดีมาก จะได้ใช้โอกาสนี้ทำกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ด้วยกัน คนละไม้คนละมือแบบนี้แป๊บเดียววัชพืชก็หายวับราวกับไม่เคยมีแล้วล่ะ



               เมื่อมีวัชพืชก็ต้องมีแมลงที่เป็นศัตรูพืชเช่นกัน ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหาแบบถาวร คงต้องมาดูเรื่องสุขภาพของดิน และสภาพแวดล้อมโดยรวมของสวนออร์แกนิก เพราะถ้าพืชอยู่กันอย่างมีความสุขดี บรรดาวัชพืชและศัตรูพืชก็จะไม่ค่อยมาก่อกวนให้เสียหาย ดังนั้นคุณควรนำตัวอย่างดินไปตรวจสอบคุณภาพดิน เพื่อที่จะได้กลับมาฟื้นฟูสุขภาพดินได้อย่างเหมาะสม ส่วนวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก็อาจจะเลือกวิธีธรรมชาติอย่างการปล่อยกบ คางคก จิ้งจก ตุ๊กแก หรือค้างคาว ให้มาป้วนเปี้ยนอยู่ในสวนบ้าง เพื่อให้เขาเหล่านี้คอยจับแมลงและศัตรูพืช โดยเฉพาะแมลงเต่าทองกิน



     

  • การศึกษาหาความรู้จากแหล่งอื่นๆ และพร้อมที่จะไปศึกษาดูงานที่ประสบผลสำเร็จ

  • -
  • -
  • -