เทคนิคส่งเสริมสัมมาชีพ

วิธี เทคนิคการกรีดยาง

โดย : นายนิยม กองพอด ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-08-10-11:18:55

ที่อยู่ : ๑๑๙ บ้านห้วยทราย หมู่ที่ ๙ ตำบลนาแขม

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

หลังจากเพาะปลูกและรอคอยจนกระทั่งต้นยางพาราเจริญเติบโตพร้อมจะเก็บเกี่ยวผลผลิต หนึ่งในขั้นตอนที่มีความสำคัญอย่างมาก คือ การกรีดยาง เพื่อเก็บน้ำยาง อันจะนำมาซึ่งรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง

การกรีดยางด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะทำให้ชาวสวนยางได้รับน้ำยางปริมาณมากในแต่ละวัน และที่สำคัญที่สุด คือ ทำให้ต้นยางที่โดนกรีดไม่บอบช้ำเสียหาย

ต้นยางที่โดนกรีดอย่างผิดวิธีจะเกิดความเสียหาย ไม่สามารถกรีดซ้ำได้ หรือไม่ก็ได้น้ำยางในปริมาณที่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่งนัก เพราะกว่าจะปลูกยางพาราให้เจริญเติบโตจนกระทั่งพร้อมจะกรีดได้ ต้องใช้ระยะเวลานานหลายปี ดังนั้นเกษตรกรชาวสวนยางทุกท่าน จึงควรให้ความสำคัญกับวิธีการกรีดยางให้มาก

วัตถุประสงค์ ->

วิธีการกรีดยางที่ถูกต้อง

เป็นหัวใจสำคัญของการกรีดยางเลยทีเดียว การกรีดด้วยวิธีที่ถูกต้องจะทำให้สามารถกรีดซ้ำได้นานไม่น้อยกว่า 30 ปี

ลึกเข้าไปภายใต้เปลือกของต้นยางพารา ประมาณ 6-10 มิลลิเมตร ก่อนถึงเยื่อเจริญ จะมีท่อน้ำยางเรียงอยู่จำนวนมาก ความลึกในการกรีดที่ดี คือ กรีดให้ใกล้เยื่อเจริญ แต่ต้องไม่ชิดติดกับเยื่อเจริญ

หน้าที่ของเยื่อเจริญ คือ เพิ่มเปลือกใหม่ให้งอกมา แทนเปลือกเก่าที่ถูกกรีดทิ้งไป ถ้าเยื่อเจริญไม่ได้รับความเสียหาย เปลือกของต้นยางพาราที่งอกขึ้นใหม่จะเรียบสม่ำเสมอ กรีดซ้ำอีกได้

จะเห็นได้ว่าการกรีดต้องอาศัยความชำนาญอย่างมาก ต้องอาศัยการหัดกรีดเป็นเวลาหลายเดือนเลยทีเดียว กว่าจะเกิดความชำนาญ

นอกจากกรีดไม่ให้ลึกเกินไปแล้ว จะต้องพยายามกรีดให้เปลือกบางที่สุด ครั้งละประมาณ 1.5  มิลลิเมตร เดือนหนึ่งๆ กรีดเปลือกออกไม่ควรเกิน 2.5 เซนติเมตร

 

ต้นยางต้นหนึ่งๆ ควรถนอมเปลือกไว้ให้กรีดได้ อย่างน้อย ๓ รอบ โดยใช้เวลากรีดให้ได้กว่า 3๐ ปี ถ้าเปลือกยังดีเมื่อต้นยางอายุกว่า15 – 20 ปีแล้ว ยังมีทางที่จะใช้ยาเร่งน้ำยาง จะช่วยให้ได้น้ำยางเพิ่มมากขึ้น จะมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับพันธุ์ยางด้วย บางพันธุ์เพิ่มได้อีกเท่าตัว

ช่วงระยะเวลาในการกรีดยางที่เหมาะสม คือ เช้ามืด ซึ่งมองเห็นเปลือกต้นยางแล้ว ผู้กรีดยางควรกรีดด้วยความระมัดระวังไม่รีบร้อนกรีด เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายกับต้นยางได้

ในแต่ละวันคนกรีดยาง 1 คน ควรที่จะทำการกรีดสูงสุด ประมาณ 350 -450 ต้น ไม่ควรเร่งรีบจนเกินกำลังและขาดความปราณี

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

- ต้นยางที่เพาะจากเมล็ด ให้เริ่มกรีดที่ระดับความสูงจากพื้น 75 ซม. โดยกรีดจากด้านซ้ายมือของคนกรีดเอียงลงมาทางด้านขวาด้วยมุม 25 องศา ความยาวในการกรีด คือ ครึ่งต้น

- ต้นยางติดตา ให้เริ่มกรีดที่ระดับความสูงจากรอยติดตาบริเวณโคนต้น 125 เซ็นติเมตร กรีดจากซ้ายมือของผู้กรีดลงมาทางขวา เอียงทำมุม 30 องศา

เพื่อความสะดวกในการเริ่มเปิดกรีดด้วยตำแหน่งที่ถูกต้อง ให้ใช้ไม้เช่นเดียวกับที่ใช้วัดลำต้นดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ตอนปลายให้เปลี่ยนจากลวดเป็นสังกะสีกว้าง 5 เซ็นติเมตร ยาว 45 เซ็นติเมตร ตอกแนบติดเข้ากับทางแบนที่ปลายไม้ข้างหนึ่ง โดยหันชายไปทาง ซ้าย ไม้แบบที่จะใช้กับต้นที่เกิดจากเมล็ดให้เอียงสังกะสี ทำมุมขึ้นไป 25 องศา และสำหรับต้นติดตาให้ทำมุม 30 องศา

เมื่อจะทำแนวหน้ายางในการเปิดกรีด ก็ใช้ไม้วัดดังกล่าว ตั้งทาบเข้ากับส่วนสูงของลำต้น แล้วแนบแผ่นสังกะสีพันวนไปทางด้านซ้ายมือ ใช้มือซ้ายจับปลายสังกะสีไว้ แล้วขีดเส้นตามแนวบนของแผ่นสังกะสี ตั้งแต่จุดครึ่งต้นของลำต้น ไปจนสุดสังกะสีที่ติดอยู่กับไม้ รอยที่เกิดขึ้นนี้ คือ แนวหน้ายางที่จะเปิดกรีดด้วยความยาวครึ่งต้น ซึ่งมีความสูงและความลาดเอียง ตามที่กำหนดไว้อย่างถูกต้อง

การเปิดกรีดจะทำในทิศทางเดียวกันหมดทุกต้น รวมทั้งการกรีดก็จะเหมือนกันทุกต้นด้วย

อุปกรณ์ ->

เมื่อเริ่มต้นกรีดยางพารา ควรกรีดให้น้ำยางออกปริมาณน้อยก่อน โดยทำการกรีดครึ่งรอบต้น 1 วัน เว้น 2 วัน ทำเช่นนี้เป็นระยะเวลา 5-6 เดือน

เมื่อเลยระยะเวลาข้างต้น จึงเปลี่ยนมากรีดครึ่งต้นวันเว้นวัน และควรให้มีระยะพักอีกบ้าง

ข้อควรใส่ใจ คือ อย่าคิดแต่จะกรีดให้ได้น้ำยางปริมาณมาก ๆ เพียงอย่างเดียว เพราะถ้าน้ำยางออกมากเกินไป ต้นยางพาราจะเป็นโรคเปลือกแห้งได้ (ไม่มีน้ำยางออก)

ผู้กรีดยางควรหมั่นสังเกตว่า ยางต้นใดที่ปริมาณน้ำยางลดลง หรือไม่มีน้ำยางออกเลย ต้นใดผิดสังเกตให้ หยุดกรีด แต่ถ้าจำนวนต้นยางที่ผิดปกติมีมากถึงประมาณร้อยละ 5 ของต้นยางทั้งสวน ให้เปลี่ยนเป็นกรีดครึ่งรอบต้นทุกวันที่สาม และให้พักต้นยางที่ทรุดโทรมเสียประมาณ ๖ เดือน แล้วจึงทดลองกรีดต่อไปใหม่

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ช่วงเวลาในการเริ่มต้นกรีดยางที่เหมาะสม จะแตกต่างกันไปตามต้นยางที่นำมาเพาะ ดังนี้
1. ต้นยางที่เพาะจากเมล็ด  ลักษณะของต้นยางประเภทนี้ จะมีโคนต้นที่ใหญ่กว่าบริเวณลำต้น ซึ่งบริเวณโคนต้นเปลือกจะหนาและมีปริมาณน้ำยางมาก หากยิ่งกรีดสูงขึ้นไป จะยิ่งได้น้ำยางน้อย

จากการทดสอบพบว่า ถ้ากรีดยางที่เพาะจากเมล็ดที่ระดับความสูงจากโคนต้น 15 เซ็นติเมตร และ 45-60 เซ็นติเมตร  ปริมาณน้ำยางที่ได้จากการกรีดที่ความสูง 15 ซม. จะมากกว่าประมาณ ครึ่งเท่า

แต่อย่างไรก็ดีการที่น้ำยางออกมาเกินไป จะส่งผลให้ต้นยางเป็นโรคเปลืองแห้ง หรือ แคระแกรนได้

สำหรับวิธีที่จะทราบได้ว่าต้นยางพาราที่เพาะจากเมล็ดสามารถเริ่มกรีดได้แล้วหรือไม่ ให้วัดความยาวรอบต้นยาง ที่ความสูง 75 เซ็นติเมตร จากพื้นดิน หากวัดรอบต้นได้ 50 ซม. ก็สามารถเริ่มกรีดยางได้แล้ว

2. ต้นยางที่เพาะจากการติดตา ต้นยางประเภทนี้ จะมีลำต้นตั้งแต่โคนไปจนถึงด้านบนเกือบเท่ากัน ความหนาของเปลือกยางที่ระดับความสูงวัดจากพื้นในช่วงระดับ 90 ถึง 125 เซนติเมตรไม่ต่างกันมาก และก็ให้ปริมาณน้ำยางในการกรีดพอ ๆ กัน

ชาวสวนยาง สามารถทราบได้ว่าสามารถเริ่มกรีดยางประเภทนี้ได้แล้ว โดยการวัดความสูงจากรอยติดตาที่อยู่บริเวณโคนต้นยางขึ้นไป 125 เซ็นติเมตร จากนั้นทำการวัดความยาวรอบลำต้นที่ตำแหน่งนั้น ถ้ามีความยาวมากกว่า 50 เซ็นติเมตร ก็สามารถเริ่มกรีดยางได้

ข้อพึงระวัง ->

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดเลย
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา