ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ภูมิปัญญาคนไทย ได้คิดค้นยาสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ ไว้มากมาย ชนิดว่าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ตัวอย่างเช่น เมื่อเวลาโดนแมลงสัตว์กัดต่อย ผื่นคันจากแมลง น้ำร้อนลวก ปวดบวมบริเวณผิวหนัง หรืองูสวัด ก็มียาชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า "น้ำมันเขียว" คุณสมบัติเป็นยาเย็น ดับพิษร้อน สามารถบรรเทาอาการเจ็บปวด เสมือนประหนึ่งปฐมพยาบาลก่อนถึงมือหมอ

 

                สรรพคุณ บรรเทาอาการ เป็นลม วิงเวียน คัดจมูก ปวดหัวไมเกรน  ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามร่างกายเช่น ปวดแขน ขา เข่า ข้อ คลายเส้นเอ็น ตะคริว เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำถอนพิษร้อน แมลงสัตว์กัดต่อย ยุงกัน ทาป้องกันยุง

วัตถุประสงค์ ->

1.รับสมัครครัวเรือนเป้าหมาย

2.ประชุมชี้แจงการดำเนินงาน

3.ฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องน้ำมันเขียว

4.ติดตามครัวเรือนเป้าหมายหลังอบรม

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

-ต้องศึกษาหาความรู้ก่อนที่จะลงมือทำ

อุปกรณ์ ->

1 ต้องให้แน่ใจว่าน้ำมันหอมระเหย (Essential Oils) นั้นไม่มีพิษ ไม่ก่อให้เกิดการไวต่อแสง หรือระคายเคืองต่อผิวหนัง (น้ำมันหอมระเหยโหระพา น้ำมันหอมระเหยอบเชย น้ำมันหอมระเหยกานพลู น้ำมันหอมระเหยสะระแหน่) หรือทำให้เกิดการแพ้ง่าย (น้ำมันหอมระเหยตะไคร้หอม น้ำมันหอมระเหยกระเทียม น้ำมันหอมระเหยขิง น้ำมันหอมระเหยมะลิ น้ำมันหอมระเหยมะนาว น้ำมันหอมระเหยตะไคร้ น้ำมันหอมระเหยขมิ้น)ไม่ควรใช้น้ำมันหอมระเหย (Essential Oils) บางอย่าง เช่น Hyssop, Rosemary, sage และ Thyme กับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง

2 ผู้ป่วย Homeopathic ไม่ควรใช้น้ำมันหอมระเหยพริกไทยดำ น้ำมันหอมระเหยการบูร น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส และน้ำมันหอมระเหยสะระแหน่

 

 

 

กระบวนการ/ขั้นตอน->

สำหรับขั้นตอน และส่วนผสมน้ำมันเขียว  มี 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนการทำน้ำมัน หรือเจียวน้ำมัน และขั้นตอนการผสม ซึ่งขั้นตอนการเจียวน้ำมัน จะค่อนข้างใช้เวลานาน อีกทั้งเมื่อได้น้ำมันมาแล้ว  ต้องเก็บข้ามไว้ 1 คืน เพื่อให้ตกตะกอน ถึงจะสามารถนำมาผสมกับวัตถุดิบตัวอื่นได้

ข้อพึงระวัง ->