เทคนิคส่งเสริมสัมมาชีพ

การทอผ้าแพรวา

โดย : นายดิศรณ์ ไชยสัตย์ ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-04-18-16:37:00

ที่อยู่ : 130 หมู่ที่ 7 ต.ทุ่งคลอง

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ผ้าแพรวา  เป็นชื่อเฉพาะที่ชาวอีสานทั่วไปเรียกผ้าชนิดหนึ่ง ที่ใช้สำหรับคลุมไหล่

หรือห่มสไบเฉียงของชาวผู้ไทย  ซึ่งใช้ในโอกาสที่มีงานเทศกาล  บุญประเพณีหรืองานสำคัญอื่นๆ

            ผ้าแพรวา  มีความหมายตามรูปศัพท์  ซึ่งเป็นคำผสมระหว่าง  คำมูล  3  คำ   คือ

          “ผ้า”  หมายถึง  วัสดุอย่างหนึ่งที่มีลักษณะเป็นผืน  ได้จากการเอาเส้นใยของ  ฝ้าย  ไหม  ป่าน  ปอ  ฯลฯ  ซึ่งผ่านกรรมวิธีหลายอย่างเป็นต้นว่า  การปั่นเส้นใยทำเป็นเส้นด้าย  ย้อมสี  ฟอกสี  การฟั่นเกรียว  การเคลือบผิว  ฯลฯ  แล้วนำมาทอเข้าด้วยกันให้เป็นผืนมีขนาดความกว้างความยาวแตกต่างกันไปตามความต้องการใช้สอยประโยชน์  เมื่อทอเสร็จเป็นผืนแล้ว  จะเรียกชื่อต่างกันไปตามชื่อวัสดุที่นำมาใช้ถักทอ  เช่น  ถ้าทอจากใยฝ้าย  เรียกว่า  “ผ้าฝ้าย”  หรือถ้าทอจากเส้นใยไหม  เรียกว่า  “ผ้าไหม”

            “แพร”  หรือ  “แพ”  (ภาษาอีสาน)  หมายถึง  ผ้าที่ยังไม่ได้แปรรูปให้เป็นเสื้อหรือซ่ง  (โส่งหรือกางเกง)  คือยังมีลักษณะเป็นผ้าผืนที่เสร็จจากการทอมักเรียกชื่อแตกต่างกันออกไปตามลักษณะวัสดุที่ใช้  เช่น  แพรไหม  (แพไหม)  แพรฝ้าย  (แพฝ้าย)  แพรอีโป้  (แพอีโป้)  เป็นต้น

            “วา”  หมายถึง  มาตรวัดความยาวอย่างหนึ่ง  ได้จากการกางแขนทั้งสองแขนออกไปจนสุด  แล้วทาบกับสิ่งที่ต้องการจะวัดขนาดความยาว  ด้วยการทาบลงไปให้แขนตรงเป็นเส้นขนาน  ทำอย่างนี้แต่ละครั้งเรียกว่า  1  วา  (ต่อมาปรับปรุงมาตรวัดนี้ใหม่ว่า  1  วา 

มีขนาดเท่ากับ  2  ศอก)

วัตถุประสงค์ ->

เนื่องจากผ้าไหมแพรวา  เป็นผ้าที่มีการประดิษฐ์ลวดลายไปตลอดทั้งผืน  ดังนั้น การทอผ้าไหมแพรวาของชาวบ้านโพน  จึงเป็นการถักทอและประดิษฐ์ลวดลายควบคู่กันไป  การทอและการประดิษฐ์ลาย ถือว่าเป็นลำดับขั้นตอนที่สำคัญในการทอผ้าไหมแพรวา  เพราะเป็นกระบวนการทำให้เส้นไหมสีต่างๆ  ที่เตรียมไว้นั้น

ถักทอสานกันจนเป็นผืนผ้าที่มีลวดลายตามต้องการ

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

ผ้าไหมแพรวาของชาวบ้าน  ได้มีความเชื่อว่าผ้าไหมแพรวาเป็นผ้าชั้นสูง  เป็นผ้ามงคล  ผู้ใดมีไว้ครอบครองหรือสวมใส่ก็จะเป็นมงคลต่อตนเอง  การทอผ้าเป็นการสร้างสรรค์ศิลปหัตถกรรม  แสดงออกถึงอารมณ์  ความรู้สึก  ความสัมพันธ์  ระหว่างศิลปะกับสภาพแวดล้อมที่ผู้ทอได้นึกคิดกรรมวิธีการทอสืบทอดมาจากบรรพชนของแต่ละครอบครัว  ความหมายจากลวดลายบนผืนผ้าเป็นลายที่ดัดแปลงมาจาก  พืชพันธุ์ต้นไม้  หรือสัตว์  ดวงอาทิตย์  ดวงดาว  มาเป็นจินตนาการ  มาเป็นคติความเชื่อว่าเมื่อทอออกมาแล้วผู้ครอบครองจะได้รับแต่สิ่งดีๆตาม

อุปกรณ์ ->

ผ้าไหมไทยเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าไหมที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมสูงจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ  ด้วยเอกลักษณ์โดดเด่นที่สวยงามประณีต มีลวดลายและสีสันที่โดดเด่นเป็นพิเศษแตกต่างจากผ้าไหมประเทศอื่นๆ แต่มีผู้บริโภคอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังมีความเข้าใจว่าผ้าไหม นอกจากราคาแพงแล้ว  ยังดูแลรักษายากไม่สามารถซักแบบธรรมดา  ต้องส่งไปซักร้านซักแห้ง  ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง  จึงไม่ค่อยได้รับความนิยมในการใช้ในชีวิตประจำวันเท่าที่ควร  ซึ่งในความเป็นจริงผ้าไหมไม่ได้ดูแลรักษายากอย่างที่คิด  เพียงแต่ผู้บริโภคนั้นยังไม่รู้จักและเข้าใจวิธีการดูแลรักษาผ้าไหมที่ถูกต้องและง่าย  ฉะนั้นเพื่อให้เกิดการรณรงค์ในการใช้ผ้าไทยให้มากขึ้น  จึงได้นำเสนอวิธีการดูแลรักษาผ้าไหมอย่างง่าย

ขั้นตอนการซักผ้าไหม

            1.  ผสมน้ำยาซักผ้า  (น้ำยาซักแห้งสำหรับผ้าไหม  หรือชนิดที่เป็นกรดอ่อนๆ  เช่น  แชมพูสระผม)  กับน้ำเปล่า 

            2. นำผ้าลงซักใช้มือถูผ้าเบา(ห้ามขยี้แรงๆ เพราะจะทำให้เส้นใยของผ้าไหมแตก)

            3. ล้างออกด้วยน้ำสะอาด  ที่ผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม

            4. นำผ้ามาตากในที่ร่ม  ลมโกรกโดยไม่ต้องบิดผ้า

               หมายเหตุ  ข้อควรระวัง

            1.  การซักผ้าไหมควรซักด้วยมือ ไม่ควรใช้เครื่องซักผ้า

            2.  ผ้าไหมสีเข้มหรือสีสด  เช่น  สีแดง  ม่วงแดง  บานเย็น  ไม่ควรแช่น้ำนาน 

ควรแยกซักกับผ้าสีอ่อน

ขั้นตอนการรีดผ้าไหม

            1.  รีดผ้าไหมในขณะที่ผ้ายังหมาดๆ อยู่

            2.  ผสมน้ำยารีดผ้า  1  ส่วน  กับ  น้ำ  3  ส่วน  ฉีดพรมให้ทั่วผืนผ้าไหม

            3.  พักไว้ 20-30 นาที  (หรือ พับผ้าไหมใส่ถุงพลาสติกนำเข้าตู้เย็นทิ้งไว้สักครู่ ในกรณีที่ผ้าไหมยับมาก)

            4.  ปรับความร้อนของเตารีดในระดับปานกลางถึงแรง  (หรือในตำแหน่ง  Silk)

            5.  การรีดควรรีดด้านในของผ้า  หรือใช้ผ้าขาวบางทับบนผ้าไหมก่อนรีด

 

               หมายเหตุ  ข้อควรระวัง

            ควรใช้น้ำยารีดผ้าคุณภาพดี มิฉะนั้นอาจทำให้ผ้าไหมมีรอยด่างได้  

กระบวนการ/ขั้นตอน->

การใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ภายหลังการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว  จังหวัดกาฬสินธุ์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์  “ผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์”  เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์  และควบคุมตรวจสอบกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามคู่มือการปฏิบัติงานสำหรับสมาชิกผู้ขอใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์    โดยสมาชิกที่เป็นผู้ผลิตและผู้ประกอบการค้าผ้าไหมแพรววาต้องขอขึ้นทะเบียนและปฏิบัติตามคู่มือดังกล่าว

 

              ผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์  ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์  ต้องติดฉลากสินค้าและเครื่องหมายสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์  และต้องบรรจุสินค้าลงในถุงพลาสติกก่อนนำไปบรรจุลงในกล่องเพื่อจัดจำหน่ายต่อไป

ข้อพึงระวัง ->

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา