การทำขนมไทย(ขนมดอกจอก)
โดย : นายมนัส เอมแย้ม วันที่ : 2017-06-26-21:39:01ที่อยู่ : 119 ม.6 ต.ท่าไม้
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านมีอาชีพหลักคือการทำนา หลังจากฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว
ก็ไม่มีอาชีพเสริมอย่างอื่น ข้าพเจ้าซึ่งชอบการทำอาหารทุกชนิดแต่ให้ความสนใจกับขนมทุกชนิด แต่ที่ถนัดมาก
ก็คือขนมไทย เพราะขนมไทยสามารถทำขายก็ได้ ทำรับประทานกันในครัวเรือนก็ได้ หรือจะทำเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย จึงได้ชักชวนเพื่อนบ้านมาร่วมกันทำขนมในเวลาว่างและได้แจกจ่ายแก่ครัวเรือนข้างเคียง ต่อมาได้มีการรวมกลุ่มการทำขนมขึ้น ได้ออกไปขายตามงานต่างๆ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นนอกจากอาชีพหลักที่ทำอยู่และได้พาคนอื่นๆ ในกลุ่มออกขายทั้งในหมู่บ้านและนอกหมู่บ้าน ทำให้เกิดมีอาชีพเสริมแก่ผู้ที่สนใจนอกเหนือจากอาชีพหลักที่มีอยู่ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่คนในครัวเรือน และอีกอย่างหนึ่งข้าพเจ้าชอบรับประทานขนม จึงชอบที่หาความรู้จากการฝีกอบรมต่างๆ ในด้านการประกอบอาหารและขนมเพิ่มมากขึ้น
วัตถุประสงค์ ->
1.เพื่อความสามัคคีของคนในครัวเรือนและในชุมชน
2.มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
3.เป็นอาชีพเสริม
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
1. แป้งข้าวเจ้า 5 กิโลกรัม
2. น้ำสะอาด 5 ถ้วยตวง
3. กะทิคั้น 1 กิโลกรัม
4. น้ำตาลทราย 2.5 กิโลกรัม
5. เกลือป่น 1 ห่อเล็ก
6. งาขาว/ดำ 100 กรัม
อุปกรณ์ ->
1.กะทะ
2.เตาถ่านหรือเตาแก๊ส
3.กะละมังผสมแป้ง
4.พิมพ์ขนมดอกจอก
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1. นำแป้งข้าวเจ้า น้ำสะอาด น้ำตาลทราย กะทิ งาและเกลือ ผสมเข้าด้วยกัน คนจนแป้งละลายดี
2. ตั้งน้ำมันปาล์มในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง เสร็จแล้วเอาพิมพ์ขนมดอกจอก ลงไปแช่ใน
น้ำมัน
3. เมื่อพิมพ์ขนมร้อนแล้ว จึงนำขึ้นไปจุ่มในส่วนผสมแป้งที่ทำไว้ในขั้นตอนที่หนึ่ง จากนั้นจึงนำ
พิมพ์ลงไปแช่ในน้ำมันในกระทะ
4. เมื่อแป้งเริ่มสุก ขนมดอกจอกจะลอยขึ้นมา ให้นำพิมพ์ดอกจอกออกจากกระทะ เพื่อไปจุ่มแป้ง
นำลงมาทอดใหม่ ส่วนขนมที่ลอยขึ้นมา ทอดต่ออีกสักพักจน สุกเหลืองดีแล้ว จึงนำออกจาก
กระทะมาวางบนกะลามะพร้าวหรือชามที่คว่ำไว้ เพื่อให้ขนมแผ่ตามรูปทรงกะลา(หรือชามคว่ำ)
รูปทรงขนมจะสวยเหมือนดอกไม้กำลังบาน
5. จัดขนมใส่จาน เสิร์ฟเป็นของว่างในวันสบายๆ หรือเก็บใส่ภาชนะมิดชิดเพื่อเก็บไว้ทานวันหลังก็ได้
ข้อพึงระวัง ->
ต้องคอยระวังน้ำมันกระเด็น และต้องได้ไฟที่เหมาะสม จึงจะได้ขนมที่มีลักษณะกรอบ น่าทาน ไม่สุกจนเกินไปและไม่แข็งจนเกินไป