การปลูกมันสำปะหลัง
โดย : นางสาวกัญญารัตน์ กันสาด วันที่ : 2017-05-09-09:57:28ที่อยู่ : 247/6 หมู่ที่ 1 ตำบลหัวถนน
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
แต่เดิมทีนั้นประมาณห้าสิบปีที่แล้วพื้นที่ในหมู่บ้านนี้เป็นป่าไม่มีคนอาศัยอยู่ ต่อมาได้มีชาวบ้านจากรอบๆตัวจังหวัดนครสวรรค์และกำแพงเพชรได้มาบุกป่าถางพงเพื่อทำการเกษตร โดยทำการเกษตรตามที่ตนถนัดจากถิ่นฐานเดิมที่ย้ายมาเพื่อเป็นอาหารเท่านั้น ต่อมาโดยการนำของผู้ใหญ่บ้านได้นำมันสำปะหลังมาปลูกในพื้นที่และได้ผลผลิตที่ดีและสามารถขายเพื่อเป็นรายได้แก่ครอบครัวไ จึงมีการปลูกมันสำปะหลังกันมานับจากนั้นมาจนถึงปัจจุบัน พื้นที่แห่งนี้ถือเป็นพื้นที่แรกๆในการปลูกมันสัมประหลังของจังหวัดนครสวรรค์ก็ว่าได้ มันสำปะหลังนั้นเป็นพืชที่ปลูกโดยการแตกหน่อจึงเพราะปลูกง่าย อีกทั้งยังทนทานต่อโรคและสภาพอากาศลงทุนน้อยและการดูแลรักษาน้อย ทั้งนี้สภาพดินที่เป็นดินร่วนปนทรายเหมาะแกการปลูกมันสำปะหลังที่เก็บเกี่ยวโดยใช้หัวและสภาพอากาศที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
วัตถุประสงค์ ->
เพื่อเป็นรายได้หลักของครอบครัวและเพื่อลดรายจ่ายเพิ่มรายได้และเพื่อทำอาชีพที่ตรงกับความสามารถของตนเองอีกทั้งยังเป็นพืชที่เหมาะต่อดินและสภาพอากาศ
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
วัตถุดิบใช้เพียงต้นมันสำปะหลังอย่างเดียว ( เราไม่ใช้หัวปลูก ).
อุปกรณ์ ->
รถไถ
- มีด
- จอบ
- รถอีต๊อกและสารี่
- ปิ่นโต
- คนปลูก
- เครื่องฉีดยา
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ขั้นตอนที่ 1 เตรียมดิน
ก่อนที่จะทำการปลูกมันสำปะหลังควรทำให้พื้นดินที่จะปลูกมีสภาพเหมาะสมโดยการใช้รถไถทำให้ดินมีขนาดเล็กและเพื่อทำให้ดินหลวมและกำจัดวัชพืช
ขั้นตอนที่ 2 การปลูก
เตรียมต้นพันธุ์ที่จะทำการปลูกโดยต้นพันธุ์ควรมีความสดและอายุที่เหมาะสมขนาดประมาณ 2-3 เซนติเมตรควรท่อนเป็นแนวตรงยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ความห่างระหว่างแถวประมาณ 1.00-1.20 เมตร ความห่างระหว่างต้นประมาณ 70-90 เซนติเมตร
ขั้นตอนที่ 3 การดูแลรักษา
หลังจากทำการปลูกแล้วควรทำการไถกลบร่องมันเพื่อกำจัดวัชพืชและรักษาความชื้นของดินเอาไว้หลังจากนั้นประมาณ15-20 วันพอวัชพืชเริ่มขึ้นก็ทำการเอาดินลงเพื่อกำจัดวัชพืชหลังจากนั้นก็ทำการหว่านปุ๋ยประมาณไร่ละ 20 กิโลกรัมจากนั้นก็ทำการไถเอาดินขึ้นบนร่องทัน จากนั้นพออายุไปประมาณ 60-80 วันทำการเอาดินลงกำจัดวัชพืชใส่ปุ๋ยเอาดินขึ้นอีกครั้ง จากนั้นดูตามความเหมาะสมถ้ามีหญ้าขึ้นมากก็ทำการฉีดยากำจัดวัชพืชหรือใส่ปุ๋ยต่อไป
ข้อพึงระวัง ->
โรคพืชและวัชพืช