ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การปลุกกระชายในถุงดำ

โดย : นายสมพงษ์ ชมภู วันที่ : 2017-03-27-10:15:48

ที่อยู่ : 110 หมู่ 12 ตำบลห้วยหอม

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ต้องการอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน

วัตถุประสงค์ ->

เพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1.พันธุ์กระชาย

2.ถุงดำ

3.ขี้เถ้าแกลบ

อุปกรณ์ ->

1.จอบ

2.บุ๊งกี๋

กระบวนการ/ขั้นตอน->

การปลูกกระชายในถุงดำ กระชาย เป็นพืชล้มลุก มีเหง้าหรือลำต้นอยู่ใต้ดิน ซึ่งมีลักษณะเรียว ยาวอวบน้ำ ตรงกลางเหง้าจะพองคล้ายกระสวย ออกเกาะกลุ่มกันเป็นกระจุก มีสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลแกมส้ม เนื้อข้างในเป็นสีเหลืองมีกลิ่นหอม ใบเป็นใบเดี่ยวออกสลับกัน สีค่อนข้างแดง ใบมีขนาดยาวรีรูปไข่ ปลายใบแหลมมีขนาดใหญ่สีเขียวอ่อน โคนใบเป็นกาบหุ้มซ้อนกัน ออกดอกเป็นช่อที่ยอด ดอกมีสีขาวหรือสีขาวปนชมพู ผลของกระชายเป็นผลแห้ง วิธีการปลูก“กระชาย” ในถุงดำ จะทำสวนกระชายต้องเริ่มต้นอย่างไร เกษตรกรจะต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่า กระชายเป็นพืชที่ชอบสภาพแสงรำไร ดังนั้น การปลูกกระชายส่วนใหญ่จะต้องปลูกภายใต้ร่มเงาของไม้อื่น ถ้าเป็นสวนผลไม้เก่าจะดีมาก โดยเฉพาะในสภาพพื้นที่ที่มีการปลูกกล้วยจะดีมาก ในการเตรียมดินจะไม่ยุ่งยากเหมือนกับการ ปลูกพืชอื่น เพียงแต่ตัดต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ออกบ้างให้มีพื้นที่ว่างปลูกกระชายได้ กระชาย มี 3 ชนิด คือ 1.กระชายเหลืองหรือกระชาย ขาว 2.กระชายแดง 3.กระชายดำ ประโยชน์ของกระชาย เหง้ากระชายรักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด โดยนำเหง้าและรากประมาณครึ่งกำมือ (สด หนัก 5- 10 กรัม แห้งหนัก 3 – 5 กรัม) ต้มเอาน้ำดื่มเวลามีอาการ หรือปรุงเป็นอาหารรับประทาน คุณค่าด้านอาหาร กระชายมีรสเผ็ดร้อน ช่วยดับกลิ่นคาวได้ดี ปรุงเป็นอาหารหลายชนิด เช่น น้ำยาใส่ขนมจีน แกงปลาป่า ผัดเผ็ดปลาดุก ปลาร้าหลน กะปิคั่ว แกงขี้เหล็ก เหง้ากระชายมีสารอาหารสำคัญ คือแคลเซี่ยม และวิตามินเอ ส่วนแป้ง ไขมัน และวิตามินมีจำนวนน้อย รับประทานอาหารที่มีกระชายอยู่ด้วยจะช่วยขับลม เจริญอาหารได้ดี ฤดูปลูก ปลูกได้ทั้งปี แต่ฤดูปลูกที่เหมาะสมอยู่ในระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ขั้นตอนการปลูกกระชาย เตรียมหน่อพันธุ์ โดยเลือกหน่อที่สมบูรณ์ ไม่เน่าเสีย เตรียมดินปลูก ใช้ขี้เถ้าแกลบผสมกับมูลวัวตากแห้ง คลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยใช้ขี้เถ้าแกลบ 3 ส่วน กับขี้วัวตากแห้ง 1 ส่วน แล้วกรอกใส่ ถุงดำ เตรียมหน่อกระชายมาปักชำลงถุงดำ เสร็จแล้วรดน้ำตามเพื่อให้มีความชุ่มชื้นเพิ่มประสิทธิภาพ การงอกของหน่อกระชายให้เร็วขึ้น เพื่อให้ทันต่อราคาในช่วงเดือนธันวาคม และมกราคม ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง การเก็บเกี่ยว เมื่อกระชายอายุประมาณ 8-10เดือน สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ หากช่วง ที่กระชายมีอายุครบเก็บเกี่ยวได้แล้วแต่ราคาไม่ดีเกษตรกรก็สามารถปล่อยกระชายไว้ในถุง เพื่อรอราคาได้ ซึ่งผลผลิตจะไม่ได้รับซึ่งความเสียหาย ช่วงเวลาที่กระชายมีราคาค่อนข้างสูงจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม และมกราคม ต้นทุนการผลิต ปีที่ ต้นทุน/ปัจจัยการผลิต ชนิด จำนวน ราคา(บาท) ปีที่ 1 ค่าหน่อกระชาย 500 กก. 20,000 ค่าถุงดำ 300 กก. 16,000 ค่าขี้เถ้าแกลบ 5 คันรถ 10,000 ค่ามูลวัวตากแห้ง 600 กก. 600 ค่าแรงกรอกดินใส่ ถุงดำ 10,000 ถุง 20,000 ค่าแรงปลูกกระชาย 10,000 ถุง 2,500 ค่าระบบน้ำ (สปิงเกอร์) - 2,500 ต้นทุนรวม 63,600 บาท/ปี/10,000 ถุง ต้นทุนเฉลี่ยต่อถุงประมาณ 6.50 บาท ผลตอบแทน (บาท/หน่วย) โดยเฉลี่ยกระชายจะให้ผลผลิตประมาณถุงละ 500 กรัม ราคาจำหน่ายเฉลี่ยกิโลกรัมละ 50 บาท ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 18 - 20 บาท/ถุง 

ข้อพึงระวัง ->

ควรศึกษาวิธีและขั้นตอนการปลูกก่อนลงมือปลูกอย่างชัดเจน

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดนครสวรรค์
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา