ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

           เดิมผมได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม (ทำนา) และได้ประสบกับปัญหาในเรื่องของราคาข้าวที่ตกต่ำ ราคาถูก  และมีต้นทุนที่สูง  ผมจึงหันมาและสนใจในเรื่องของการทำขนมจีน  เนื่องจากพ่อและแม่ผม ก็ได้ทำขนมจีนกันอยู่แล้ว ผมจึงศึกษา นำความรู้และภูมิปัญญาจากท่านทั้งสอง  มาทำด้วยตนเองจนเกิดความชำนาญ และมีรายได้พอกินพอใช้

วัตถุประสงค์ ->

เพื่อเป็นการรักษาภูมิปัญญาในการแปรรูปแป้งของคนไทย และส่งเสริมอาชีพและอาหารอย่างหนึ่งสำหรับทุกเทศกาลงานบุญต่างๆ รวมถึงกลายเป็นอาหารที่นิยมรับประทานแทนข้าวได้ทุกเมื่อ

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1. ข้าวเป็นวัตถุดิบหลักในการทำขนมจีน โดยทั่วไปจะใช้ข้าวจ้าว จะไม่ใช้ข้าวเหนียว เพราะไม่ต้องการให้ขนมจีนเหนียวมาก โดยข้าวที่ใช้จะมีอายุหลังการเก็บเกี่ยวประมาณ 3 เดือน ถึง 1 ปี ไม่ควรเป็นข้าวเก่า เพราะจะทำให้ขนมจีนมีสีเหลืองมาก ข้าวจ้าวเม็ดเต็มหรือข้าวจ้าวเกรดที่ใช้บริโภคทั่วไป เช่น ข้าวหอมมะลิ 

2. น้ำ
น้ำที่ใช้ในทุกขั้นตอนการผลิตสามารถใช้ได้ทั้งน้ำฝน และน้ำประปา 

3. เกลือ
เกลือที่ผสมในขนมจีนใช้เพื่อป้องกันการเน่า เพิ่มรส และลดความเปรี้ยวของขนมจีน อาจเป็นเกลือสมุทรหรือเกลือสินเธาว์ก็ได้ แต่ควรมีความขาว และบริสุทธิ์มากพอ

อุปกรณ์ ->

1. ตะกร้า 

2.  สวิง

3.กะละมัง

4.ถุงปุ๋ย

5.เตาไฟและกะทะ

6. โอ่งมังกร

7. ตัวนวดแป้ง

8.ตัวโม่งแป้ง

9. ตัวโรยเส้น

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. นำข้าวสาร (ข้าวจ้าวเท่านั้น) มาแช่ 3-4 คืน แล้วซาวขึ้นใส่ตะกร้าโดยเอา
         ใบตองรองก่อน ปล่อยทิ้งไว้สัก 2 วัน เพื่อให้ข้าวที่หมักไว้มีกลิ่น
   2. นำข้าวที่หมักได้ที่แล้วไปโม่ให้ละเอียด
   3. กรองเอาแต่ส่วนที่เป็นน้ำแป้งที่ได้จากการบดใส่ถุงผ้าขาวบาง
   4. แขวนถุงผ้าไว้หรือหาของหนักๆ มาทับไว้จนน้ำออกหมดจะได้แป้งก้อนใหญ่
   5. นำแป้งที่ได้ไปตำในครกมองให้เข้ากัน แล้วเอามานวดจนได้ที่แล้วนำไปนึ่งจนเกือบสุก (ถ้าสุกเกินไปข้าวปุ้นจะไม่เป็นเส้น)
   6. เอาแป้งที่นึ่งเสร็จไปตำอีกจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน
   7. เอาแป้งมานวดโดยเวลานวดต้องคอยเติมน้ำเรื่อยๆ ระวังอย่าให้เหลวเกินไป
   8. ระหว่างที่นวด เราควรตั้งปี๊บต้มน้ำให้เดือดไว้โดยใส่เกลือบ้างเล็กน้อยเพื่อให้เส้นข้าวปุ้นนุ่มและ เหนียวใสดีและมีรสอร่อยไม่จืดอีกด้วย
   9. นำแป้งที่นวดได้ที่แล้วตักใส่เอียน (กระบอกบีบข้าวปุ้น)
 10. แล้วนำไปกดหรือบีบลงในหม้อที่กำลังเดือดพล่าน รอจนเส้นข้าวปุ้นลอยขึ้นทั้งหมด  จึงใช้กระชอนตักขึ้น
 11. ตักเส้นลงแช่ในกะละมังที่มีน้ำเกือบเต็มเพื่อพักให้เย็น แล้วนำไปแช่ลงในกะละมังที่ 2
 12. ใช้มือซาวเส้นข้าวปุ้นขึ้น และจับโดยการใช้คล้องกับนิ้วมือให้เป็นรูปวงรีแล้วนำไปวางเรียงเป็นแถวในกระด้งหรือกระจาด เพื่อให้สะเด็ดน้ำ        จะได้ข้าวปุ้นไว้รับประทานกับส้มตำหรือ กับน้ำต่างๆ ตามต้องการ

ข้อพึงระวัง ->