ทอผ้าฝ้ายและผ้าฝ้ายมัดหมี่
โดย : นางสุภาพ รัตนอนันต์ วันที่ : 2017-03-09-10:04:09ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 7 บ้านหนองบัว หมู่ที่ 14 อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
การทอผ้ามัดหมี่ซึ่งได้สืบทอดมาจาก ปุ่ย่า ตา ยาย แต่ปัจจุบันนี้ผืนผ้ามีการพัฒนาลวดลาย
ที่ออกแบบมาแล้วให้ทันสมัย ตรงความต้องการของลูกค้า เพิ่มด้วยนวัตกรรมเคลือบน้ำยานาโน บนผืนผ้า
ทำให้ผ้ามีความทนทานไม่ขึ้นรา การทอผ้ามัดหมี่มีกรรมวิธีการทอผ้าให้เกิดลวดลายโดยการมัดที่เส้นพุ่งหรือเส้นยืนด้วยเชือก
จะต้องใช้เวลาและความปราณีต จัดเรียงเส้นไหมและฝ้ายให้สม่ำเสมอคงที่และกรรมวิธีต้องเรียงลำดับก่อน-หลัง
เพื่อให้เกิดลวดลายสวยงาม ถูกต้อง ลวดลายจะเป็นลวดลายสืบต่อกันมา บางครั้งก็ได้จากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
วัตถุประสงค์ ->
1. เพิ่มรายได้
2.ลดรายจ่าย
3. เกิดความรักความสามัคคี
4. บริหารเป็นกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1.ด้าย
2.สี
3.เชือกฟาง
4.น้ำ
อุปกรณ์ ->
1.กี่
2.กระสวย
3.อัก
4.ฟืม
5.หลอด
6.กง
7.หลา
8.มีด
9.หวี
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1) การมัดหมี่ เป็นการทำลวดลายของผืนผ้า โดยการใช้วัสดุกันน้ำมัดกลุ่มเส้นฝ้ายเป็นลวดลายตามต้องการ
ก่อนนำฝ้ายย้อมน้ำสี เมื่อแก้วัสดุกันน้ำออกจึงเกิดสีแตกต่างกันถ้าต้องการเพียง 2 สี จะแก้วัสดุมัดฝ้ายเพียงครั้งเดียว
หากต้องการหลายสีจะมีการแก้มัดวัสดุหลายครั้ง ขั้นตอนการมัดหมี่ ดังนี้
-มัดกลุ่มฝ้ายแต่ละลูกหมี่ด้วยเชือกฟาง จนครบหลักหมี่ ทำเป็นเชิงผ้า
-การเริ่มต้นลายมัดหมี่ อาจมัดจากด้านบนไล่เรียงลงข้างล่าง หรือมัดข้างล่างก่อนจึงไล่เรียงขึ้นข้างบน
บางคนอาจเริ่มมัดจากตรงกลางก่อน จึงขยายออกไปเต็มหลักหมี่
-เริ่มมัดปลายเชือกด้านหนึ่งกับลูกหมี่ก่อน จึงพันอีกปลายหนึ่งซ้อนทับกันให้แน่นเพื่อไม่ให้สีย้อมซึมเข้าข้อหมี่
เมื่อพันทับกันไปจนได้ความยาวตามลายหมี่แล้ว มัดปลายเชือกกับลูกหมี่ให้แน่นเช่นกัน โดยเหลือปลายเชือกไว้เมื่อ
เวลาแก้ปอมัด จะทำได้ง่าย
- เอาเชือกเส้นหนึ่งสอดเข้าไปในช่องหลักหมี่ข้างใดข้างหนึ่ง ผูกกลุ่มฝ้ายไว้เป็นวงไม่ให้หมี่ที่มัดลวดลายแล้ว
หลุดออกจากกันและใช้เป็นหูหิ้วสำหรับจับเวลาย้อม ถอดฝ้ายมัดหมี่ออกจากหลักหมี่หลังจากนั้น
เราก็จะนำไปย้อมสี เมื่อย้อมสีเสร็จก็จะนำมาแก้ปอมัดหมี่
2) การแก้ปอมัดหมี่ หมี่ที่มัดเสร็จเรียบร้อยและถอดออกจากหลักหมี่แล้วนำไปแช่น้ำให้เปียก บิดให้หมาด
นำไปย้อมสีล้างสีให้สะอาด จึงนำมาแก้ปอมัดหมี่ พาดราวกระตุกให้เรียงเส้น ผึ่งให้แห้งได้ฝ้ายมัดหมี่
3) การปั่นหลอด
นำฝ้ายมัดหมี่คล้องใส่กงซึ่งวางอยู่ระหว่างตีนกง 1 คู่ หมุนกงคลายฝ้ายออกจากกงพันเข้าหลอดไม้ไผ่เล็กๆ ที่เสียบแน่น
อยู่กับเหล็กไนของหลา ความยาวของหลอดไผ่สัมพันธ์กันกับกระสวยทอผ้า เมื่อหมุนกงล้อไม้ไผ่ของหลาเหล็กใน
และหลอดจะหมุน เอาเส้นฝ้าย จากกงพันรอบแกนหลอดไม้ไผ่ ให้ได้จำนวนเส้นฝ้ายพอเหมาะกับขนาดองร่อง
กระสวยทอผ้า
4) การค้นหมี่ เส้นฝ้ายมีไขฉาบโดยธรรมชาติ ก่อนนำมาใช้ต้องชุบน้ำให้เปียกทั่วอณูของเส้นฝ้ายโดยชุบน้ำ
แล้วทุบด้วยท่อนไม้ผิวเรียบ เรียกว่า การฆ่าฝ้ายก่อนจะชุบฝ้ายหมาดน้ำในน้ำแป้งและตากให้แห้ง
คล้องฝ้ายใส่กงแล้วถ่ายเส้นฝ้ายไปพันรอบอักนับจำนวนเส้นฝ้ายให้เป็นหมวดหมู่แต่ละหมู่มีจำนวนเส้นฝ้ายสัมพันธ์กับลายหมี่
มัดหมวดหมู่ฝ้ายด้วยเชือกฟาง
5) การหวีเครือ เป็นการนำด้ายที่ค้นแล้วไปสอดใส่ในรูฟืมที่ใช้ในการทอแล้วใช้หวีเครือซึ่งทำจากขนหมูป่า
หวีเส้นด้ายเพื่อทำให้จัดเรียงเป็นระเบียบ
6) สืบหูกเก็บเหา เป็นการต่อด้ายยืนหรือด้ายเครือเข้ากับเหาหรือตะกอ เพื่อแบ่งด้ายยืนออกเป็นหมู่ ๆ
7) การค้นหมี่ หมายถึง การกำหนดด้ายทอเส้นพุ่งโดยเรียกเป็นลำ (1 ลำ หมายถึง ด้าย 4 เส้น)
8) การกรอด้าย ด้ายที่มัดหมี่แล้วนำมากรอใส่หลอดเพื่อใส่กระสวย โดยใช้หลาปั่นด้ายและระวิง
9) นำหลอดด้ายที่กรอแล้วมาใส่ในกระสวย
10) การทอ ผู้ที่ทอผ้ามัดหมี่ต้องมีความชำนาญจึงจะได้ลวดลายที่ถูกต้องชัดเจน
ข้อพึงระวัง ->
-