ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

เริ่มจากการที่ตัวเองมีอาชีพหลักคืออาชีพรับจ้าง ทำเสริมสวย และมีตำแหน่งทางสังคมคือเป็น กรรมการหมู่บ้าน  ได้มีการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งราชการและเอกชน ซึ่งนำมาซึ่งการพัฒนาหมู่บ้านของตนเอง อีกทั้งยังได้เข้าไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ในศูนย์เรียนรู้ชุมชนตำบลมาบปลาเค้า มีหน่วยงานต่าง ๆ   จึงทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ ที่สนใจ จึงเป็นที่มาของการทำสมุนไพรเพื่อใช้เอง โดยมีอาจารย์จาก กศน. อำเภอท่ายาง มาสอนและฝึกอาชีพให้   หนึ่งแรงบันดาลใจที่ต้องการให้ชุมชนเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้จึงได้คิดรวมตัวเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน โดยมีแนวคิดในการตั้งกลุ่มอาชีพทำผลิตสมุนไพร นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จากน้ำมันเหลือง ยาหม่อง และพิมเสนน้ำ

วัตถุประสงค์ ->

มีการประชุมเพื่อหาอาชีพที่สนใจในหมู่บ้าน และก็เริ่มดำเนินการจากงบประมาณของกรมการ    พัฒนาชุมชนเป็นการสาธิต เพื่อเรียนรู้การทำกล้วยฉาบดังนี้

- ดำเนินการฝึกอบรมพัฒนาความรู้ เสริมสร้างทักษะการพัฒนาอาชีพตามความต้องการของครัวเรือน โดยดำเนินการหลังจากโครงการเตรียมความพร้อมทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน

                 1) วันที่ 1-3 ดำเนินการฝึกอบรมความรู้ทางวิชาการ/ทฤษฎีที่ต้องรู้เกี่ยวกับอาชีพ และสาธิตหรือฝึกปฏิบัติเบื้องต้นตามความเหมาะสม จำเป็น ของแต่ละประเภทอาชีพให้กับผู้แทนครัวเรือน

                2) วันที่ 4 ศึกษาดูงานเพิ่มพูนความรู้ด้านอาชีพ ณ หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง หรือบ้านปราชญ์ชุมชน หรือศูนย์เรียนรู้ชุมชนที่เข้มแข็ง

                3) วันที่ 5 ดำเนินการฝึกปฏิบัติอาชีพ ณ บ้านของครัวเรือนที่เข้ารับการฝึกอบรม โดยมีทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชน สาธิตการทำกล้วยฉาบสูตรต่างๆ

ขั้นตอนวิธีการทำดังนี้

๑.๑ นําไพลมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นบางๆ นํามาทอดกับน้ํามันมะพร้าวให้เหลือง แล้วกรองเอาแต่น้ํามัน นําเมนทอล ๒๐๐ กรัม  พิมเสน ๑๐๐ กรัม  การบูร ๑๐๐ กรัม  น้ำมันระกำ ๑ ขวด  กลิ่นต่างๆ เช่น ยูคาลิปตัส      น้ำมันเขียว กลิ่นอบเชย ฯลฯมาผสมกับน้ํามันไพล คนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน

 ๑.๒ นําพาราฟิน ๑๕๐ กรัม      วาสลิน(WAX) ๔๐๐ กรัม   ไชผึ้ง 17 กรัม มาผสมกัน นําไปเคี่ยว (ตุ๋น ) ให้ละลาย

 ๑.๓ นําส่วนผสมข้อที่ ๑.๑ ในอัตรา ๒ ส่วน มาผสมกับข้อที่ ๑.๒ ในอัตรา ๑ ส่วน คนให้เข้ากัน เทใส่ขวด ทิ้งไว้ให้เย็น

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

ความสามัคคี ขยัน อดทน หมั่นเรียนรู้

อุปกรณ์ ->

1. ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะอาจเกิดอาการแสบร้อนได้ง่ายหากใช้ปริมาณมาก
2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับตา เพราะจะทำให้เกิดระคายเคืองกับลูกตาอย่างรุนแรง อาจทำให้ตาบอดได้
3. การสูดดมในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการมึนงง ปวดศรีษะ และการสูดดมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจได้
4. ไม่ควรใช้กับเด็กทารก

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ข้อพึงระวัง ->