การทอผ้า
โดย : นางบุญยืน แสนเลิง วันที่ : 2017-03-24-14:08:26ที่อยู่ : 12 หมู่ 7 ตำบลปลาค้าว อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
เนื่องจากบ้านถ่อนเหนือ หมู่ที่ 7 ตำบลปลาค้าว อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงตามยุทธศาสตร์ที่ ๑ การส่งเสริมการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในภาคการเกษตรและชนบท จำนวน ๓๘ หมู่บ้าน ของอำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ
การเข้ามาร่วมโครงการเป็นวิทยากรสัมมาชีพชุมชน ของข้าพเจ้า นางทองสวย โสมรักษ์ เป็นบุคคลที่ได้รับจากเวทีประชาคมของหมู่บ้าน เป็นครอบครัวพัฒนาตัวอย่าง และเป็นบุคคลได้รับการยกย่องเชิดเกียรติ ในการดำเนินงานตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นบุคคลต้นแบบในการดำรงชีพพอเพียง เป็นผู้มีความชำนาญในการทอผ้า และประสบผลสำเร็จ เชี่ยวชาญในการทอผ้า จนได้รับการยอมรับจากหน่วยงานภาครัฐ และเป็นบุคคลที่มีฐานข้อมูลเป็นปราชญ์ชาวบ้านของสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองอำนาจเจริญ
ก่อนเข้ามาร่วมโครงการฯ เดิมประกอบอาชีพเกษตรกรรม อาชีพเสริมทอผ้า และได้การยอมรับเป็นบุคคลต้นแบบการดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีสมาชิกในครอบครัว ๔ คน อายุของข้าพเจ้า 50 ปี (เกิด 22 กย.2510) บ้านเลขที่12 หมู่ที่ 7 ถ่อนเหนือ ตำบลปลาค้าว อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ
มีผลงานที่โดดเด่น คือ มีความเชี่ยวชาญ การทอผ้า และการทำไร่นาสวนผสม เกษตรทฤษฎีใหม่
วัตถุประสงค์ ->
- การขิด ขิด หมายถึง กรรมวิธีในการทอผ้าเพื่อให้เกิดลวดลายต่างๆ ขึ้นมา โดยวิธีการเพิ่มเส้นด้ายพุ่งพิเศษในระหว่างการ ทอ เพื่อให้เกิดลวดลายที่โดดเด่นกว่าสีพื้น วิธีการทำคือ ใช้ไม้เขี่ยหรือสะกิด เพื่อช้อนเส้นด้ายยืนขึ้น แล้วสอดเส้นด้ายพุ่ง ไปตามแนวที่ถูกจัดช้อน จังหวะการสอดเส้นด้ายพุ่งนี่เอง ที่ทำให้เกิดเป็นลวดลายต่าง ๆ
- การจก เป็นเทคนิคการทอผ้าเพื่อให้เกิดลวดลายต่างๆ โดยเพิ่มเส้นด้ายพุ่งพิเศษสอดขึ้นลง วิธีการคือ ใช้ขนเม่น ไม้ หรือนิ้ว สอดเส้นด้ายยืนขึ้น แล้วสอดเส้นด้ายพุ่งพิเศษเข้าไป ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นลวดลายเป็นช่วง ๆ สามารถทำสลับสีลวดลายได้หลากสี ซึ่งจะแตกต่างจากการขิดตรงที่ขิดที่เป็นการใช้เส้นด้ายพุ่งพิเศษเพียงสี เดียว การทอผ้าวิธีจกใช้เวลานานมากมักทำ เป็นผืนผ้าหน้าแคบใช้ต่อกับตัวซิ่น เรียกว่า “ซิ่นตีนจก”
- การทอมัดหมี่ ผ้ามัดหมี่มีกรรมวิธีการทอผ้าที่ใช้เทคนิคการมัดและการย้อม เริ่มจากนำเส้นด้ายหรือไหมมาย้อมสีแล้วมัดบริเวณที่ ต้องการเก็บไว้ เมื่อนำไปย้อมสีอื่น จะได้ไม่ติดสี เพียงซึมเข้ามาบางส่วน โดยย้อมเรียงลำดับจากสีอ่อนไปหาสีเข้มจนครบ ตามลวดลายที่กำหนด หลังจากนั้นจึงนำด้ายกรอเข้าหลอดตามลำดับ แล้วนำไปทอจะเกิดลวดลายบนผืนผ้าที่มีลักษณะคลาด เคลื่อนเหลื่อมล้ำ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมัดหมี่ การทอผ้าชนิดนี้จึงต้องอาศัยความชำนาญในการมัดย้อมและทอเป็น อย่างมาก ผ้ามัดหมี่มีอยู่หลายชนิด ได้แก่
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
หูก ,ฟืม 3.กง ใช้สำหรับใส่ไจหมี่
4.อัก ใช้สำหรับกวักหมี่ออกจากกง
5.หลักตีนกง (ไม้ที่ใช้ยึดทั้งสองข้างในการกวักด้าย)
หลา, กระสวย ,หลอดใส่ด้าย,
.หลักเฝีย ใช้ในการค้นฝ้าย
โฮงมี่ ใช้สำหรับมัดหมี่
อุปกรณ์ ->
หูก ,ฟืม 3.กง ใช้สำหรับใส่ไจหมี่
4.อัก ใช้สำหรับกวักหมี่ออกจากกง
5.หลักตีนกง (ไม้ที่ใช้ยึดทั้งสองข้างในการกวักด้าย)
หลา, กระสวย ,หลอดใส่ด้าย,
.หลักเฝีย ใช้ในการค้นฝ้าย
โฮงมี่ ใช้สำหรับมัดหมี่
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ขั้นตอนในการทอผ้า
1. สืบเส้นด้ายยืนเข้ากับแกนม้วนด้ายยืน และร้อยปลายด้ายแต่ละเส้นเข้าในตะ กอแต่ละชุดและฟันหวี ดึงปลายเส้นด้ายยืนทั้งหมดม้วนเข้ากับแกนม้วนผ้าอีกด้านหนึ่ง ปรับความตึงหย่อนให้พอเหมาะ กรอด้ายเข้ากระสวยเพื่อใช้เป็นด้ายพุ่ง
2. เริ่มการทอโดยกดเครื่องแยกหมู่ตะกอ เส้นด้ายยืนชุดที่ 1 จะถูกแยก ออกและเกิดช่องว่าง สอดกระสวยด้ายพุ่งผ่าน สลับตะกอชุดที่ 1 ยกตะกอชุดที่ 2 สอดกระสวยด้ายพุ่งกลับ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ
3. การกระทบฟันหวี (ฟืม) เมื่อสอดกระสวยด้ายพุ่งกลับก็จะกระทบ
ฟันหวี เพื่อให้ด้ายพุ่งแนบติดกัน ได้เนื้อผ้าที่แน่นหนา
4. การเก็บหรือม้วนผ้า เมื่อทอผ้าได้พอประมาณแล้วก็จะม้วนเก็บใน
แกนม้วนผ้า โดยผ่อนแกนด้ายยืนให้คลายออกและปรับความตึงหย่อนใหม่ ่ให้ พอเหมาะ
ข้อพึงระวัง ->
การย้อมสีผ้า และให้เป็นสีต่างๆ ต้องมีความชำนาญเฉพาะ