เลี้ยงสุกร
โดย : นายสุนทร ยาพรม วันที่ : 2017-03-20-11:34:41ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 33 หมู่ที่ 6 ตำบลหนองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
การเลี้ยงสุกรแม่พันธ์ สถานการณ์ที่มา เนื่องจากราคาเนื้อสุกรมีราคาสูงพอสมควร ดังนั้นเกษตรกรจึงนิยมเลี้ยงสุกรเป็นอาชีพเสริมในครัวเรือน ดังนั้นลูกสุกรมีราคาสูง ทำให้มีรายได้เสริมในครัวเรือนเพิ่มขึ้นมาก
สภาพรายได้ในครัวเรือนเมื่อก่อนก็มีแต่ไม่มากเหมือนตอนที่มายึดอาชีพเลี้ยงสุกรแม่พันธ์ หลังจากแม่สุกรตั้งท้องแล้วอีก 5เดือนต่อมาเราก็มีโอกาสจำหน่ายลูกสุกรได้ สุกรแม่พันธ์ 4ตัว จะมีรายได้ประมาณ 50,000 บาทต่อครั้งที่ตกลูกดังนั้นการประกอบอาชีพนี้ นับว่าประสบความสำเร็จพอสมควรอาชีพหนึ่ง
วัตถุประสงค์ ->
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
อุปกรณ์ ->
โรงเรือนหรือคอก พันธ์ พ่อ-แม่ สุกร อาหารสัตว์ ยาวัคซีน ที่ใส่อาหาร
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1.การสร้างเรือนหรือคอก ต้องทำในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกและเย็นสบาย ความกว้าง 60ซม. ยาว2.50ซม. ให้ห่างจากโรงเรือนหรือคอกของคนอื่นประมาณ 1กม. เพื่อป้องกันโรคติดต่อ
2.การเลือกสายพันธ์ พ่อ-แม่ สุกร ควรเลือกจากคอกที่ตกลูกอย่างน้อย10ตัวขึ้นไป เปอร์เซ็นต์ที่รอดตาย รูปร่างสวยงามแข็งแรง ไม่ดุร้าย
3.การเลี้ยงสุกรแม่พันธ์ ไม่ควรเลี้ยงให้อ้วนจนเกินไป ถ้าอ้วนเกินไปจะทำให้การผสมพันธ์ติดยากและมีโอกาสเป็นหมันได้ อายุแม่พันธ์ต้อง 7เดือนขึ้นไป น้ำหนักประมาณ 70-80 กก. ถ้าแสดงการเป็นสัตว์ก็ผสมได้เลย หลังจากผสมแล้วรอดูผล 21วัน ไม่เกิน23วันถ้าแม่พันธ์ไม่แสดงความเป็นสัตว์ ก็แสดงว่าผสมติด ถ้าไม่ติด แม่พันธ์จะแสดงการเป็นสัตว์ทันทีต้องเตรียมผสมพันธ์ใหม่ ผสมติดแล้วก็รอวันคลอดได้เลย 114วัน คลอดก่อนไม่เกิน3วัน คลอกหลังไม่เกิน3วัน ถ้าเกินกำหนดถือว่าผิดปกติ รีบปรึกษาสัตว์แพทย์ทันที ฉะนั้นแม่พันธ์อาจเกิดอันตรายได้
4.หลังคลอด กินนมแม่ 21วัน 15วันทำการตอนตัวผู้ได้เลย ถึง 21วันออกนมได้ 1เดือน ก็จำหน่ายลูกสุกรได้ หลังจากคลอดลูกคอกแรกก่อนจะผสมพันธ์ใหม่คอกต่อไป ต้องฉีดยาบำรุง พ่อ-แม่พันธ์ เพื่อให้ลูกคอกต่อไปไม่มีปัญหา
5.การเลือกพ่อพันธุ์ ถ้าแม่พันธุ์ ถ้าแม่พันธุ์ผสม2สายพันธุ์มาแล้ว ควรเลือกพ่อพันธุ์สายตรง เรื่องรูปร่างลักษณะผู้ที่จำหน่ายพ่อพันธุ์ เขาจะคัดเลือกไว้เอง เพราะเขารู้ดีตัวไหนเหมาะสมที่จะเป็นพ่อพันธุ์
ข้อพึงระวัง ->
ข้อควรระวังเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดอย่างที่เจ้าของความรู้ปฏิบัติแล้วเกิดความเสียหาย คือ การติดเชื้อโรคระบาดเพื่อจากไปคลุกคลีกับสัตว์ของคนอื่น การนำเพื่อสัตว์ที่ตายไม่รู้สาเหตุมารับประทานปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้าขออกในโรงเรือนหรือคอกสัตว์ของเรา