ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

                   ข้าพเจ้าอาศัยอยู่บ้านสีกายเหนือ หมู่ 6 ตำบลสีกาย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ได้ประกอบอาชีพทำนา ทำสวน และรับจ้าง โดยได้ดำรงชีวิตตามปรัชญาของในหลวง โดยทำเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยการแบ่งพื้นที่ของตนเองเป็น 4 ส่วน คือ 30-30-30-10  คือ
                   1.  30%  คือ น้ำ
                   2.  30%  คือ ทำนา
                   3.  30%  คือ ไม้ผล
                   4.  10%  คือ ที่อยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์

โดยได้จัดพื้นที่แต่ละส่วนให้มีความสอดคล้องกันและเป็นระบบระเบียบ สะดวกสบายในการจัดการภายในสวน เช่น การขนส่งผลผลิตออกจากสวน การใส่ปุ๋ยบำรุงต้นไม้หรือกิจกรรมต่างๆ ภายในสวน จำเป็นต้องมีถนนหนทางที่สะดวกสบาย ไม่ต้องลำบากในการขนย้าย จัดระบบน้ำออกน้ำเข้าภายในสวนให้มุนเวียนอย่างเป็นระบบ น้ำจะได้ไม่ท่วมขัง พอรู้จักคำว่า “เกษตรทฤษฎีใหม่” แล้ว ข้าพเจ้าจึงเริ่มทำเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง คือว่าในพื้นที่ของข้าพเจ้าต้องใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ปลูกพืชผักสวนครัวหลากหลายชนิดไว้กินเอง เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว เลี้ยงหมูไว้เป็นอาหาร หรือขาย เป็นรายได้เสริมในครอบครัว และมูลสัตว์ ยังเอามาหมักเป็นปุ๋ยใช้เองภายในสวน และยังได้ขายด้วย ในน้ำก็ได้เลี้ยงปลาหลายชนิด เลี้ยงกบ เลี้ยงกุ้ง และหอยขม ไว้เป็นอาหารและขาย โดยเฉพาะสวนข้าพเจ้าได้ทำสวนมะพร้าวน้ำหอม จำนวน 3 ไร่ ก็มีรายได้พอเลี้ยงครอบครัวแบบพออยู่พอกิน แบบยั่งยืนด้วย และยังได้เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงให้นักเรียน นักศึกษา หรือผู้สนใจ ได้มาศึกษาเรียนรู้ นอกจากนั้นข้าพเจ้ายังได้ผลิตปุ๋ยใช้เอง ไม่ต้องไปซื้อปุ๋ย โดยเป็นการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพและน้ำหมักชีวภาพ ผลิตสารไล่แมลงศัตรูพืชจากพืชสมุนไพร โดยไม่ต้องใช้สารเคมี และลดการใช้ปุ๋ยเคมีเป็นการประหยัดรายจ่ายเพิ่มรายได้อีกด้วย นอกจากทำนาทำสวนแล้ว เวลาว่างๆ ข้าพเจ้าก็ได้ทำงานศิลป์ โดยนำเอาวัสดุเหลือใช้ภายในชุมชน เช่น กะลามะพร้าว เศษขี้เลื่อยมาผสมกับกาวลาวเท็กส์มาปั้นเป็นรูปช้างมงคล ปลาเงินปลาทอง ทำพวงกุญแจและแกะสลักไม้เป็นตัวอักษร เช่น ป้ายบ้าน ป้ายสวน ฯลฯ และยังได้จัดตั้งเป็นกลุ่มหัตถกรรมงานปั้น “กะลาปั้นเงิน” ตำบลสีกาย โดยได้มีนักเรียน นักศึกษา ได้มาเรียนรู้และศึกษาดูงาน และได้ส่งเข้าประกวดได้อันดับ 1 ของจังหวัด ประเภทงานของใช้และประดับตกแต่ง และส่งผลิตภัณฑ์เข้าคัดสรรสินค้า OTOP ปี 2559 ได้ระดับ 3 ดาว 
และยังได้เกียรติบัตรดีเด่นในด้านการผลิตปุ๋ยอินทรีย์-ชีวภาพ จากสถานีพัฒนาที่ดินหนองคาย กรมพัฒนาที่ดิน้
 

วัตถุประสงค์ ->

1. ลดการใช้สารเคมี
2. ลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้
3. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

              การผลิตปุ๋ยอินทรีย์  คือ การที่นำเอาปุ๋ยหมักที่เป็นแล้วมาเพิ่มธาตุอาหารอีกขั้นตอนหนึ่ง
                   วัสดุการผลิต
                             1. ปุ๋ยหมัก                           จำนวน  500  กิโลกรัม
                             2. รำข้าว                            จำนวน  100  กิโลกรัม
                             3. มูลสัตว์                           จำนวน  250  กิโลกรัม
                             4. หินฟอสเฟต                       จำนวน  150  กิโลกรัม
                             5. เชื้อสารเร่งชูปเปอร์ พด.1, 3    จำนวน    1   ซอง

 

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

วิธีทำ
          นำเอาวัสดุที่เตรียมไว้มาคลุกให้เข้ากัน แล้วนำเอาสารเร่งชูปเปอร์ พด.1 และ 3 มาผสมน้ำคนให้เข้ากัน ประมาณ 5 นาที แล้วรดให้ทั่วกอง หาก้านมะพร้าวหรือวัสดุอย่างอื่นคลุมไว้เพื่อรักษาความชื้น 40 วัน ใช้ได้เลย
     อัตราการใช้
          - นาข้าว          500  กิโลกรัม/ไร่
          - ไม้ผล           5 – 7  กิโลกรัม/ตัน

ข้อพึงระวัง ->