ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

แต่เดิมนางลำดวน  จันทาคีรี มีอาชีพหลักคือเกษตรกรรม ทำนาปลูกข้าว พอว่างเว้นจากฤดูการปลูกข้าว จึงทำการทอผ้าทั้งผ้าไหมและผ้าฝ้าย รวมถึงการทอเสื่อกกด้วย ซึ่งเป็นอาชีพที่ได้เรียนรู้มาจากบรรพบุรุษ สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และได้มีความคิดสร้างสรรค์ คิดที่จะประดิษฐ์เพิ่มมูลค่าของเสื่อและผ้าที่ทำดั้งเดิมอยู่แล้ว มาแปรรูปเป็นกระเป๋าเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้นแก่ครอบครัว และเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น

วัตถุประสงค์ ->

สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น
ลดรายจ่าย สร้างงานแก่ชุมชน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

อุปกรณ์ ->

กี่ทอผ้า  ด้าย  หูก กวักทอผ้า   หลอดไหม  ร่องกระสวย   ฟืม

กระบวนการ/ขั้นตอน->

๑)  การทอผ้าไหม คือ เมื่อเตรียมไหมเส้นพุ่งและไส้หูกเรียบร้อยแล้ว นำเอาเส้นหูกอันใหม่สืบต่อกับไส้หูกที่ค้างอยู่ในเขาหูกและร่องฟันฟืมเดิม กางกี่หรือหูกให้เรียบร้อย

๒)  เอาหลอดไหมเข้าร่องกระสวย ร้อยไหมจากหลอดผ่านรูเล็กๆข้างกระสวยหากเส้นไหมหมดจากหลอดแรก ต้องเอาหลอดที่ 2,3... ตามลำดับหลอดที่ร้อยไว้ บรรจุเข้ากระสวยและทอตามลำดับ

3) คล้องเชือกจากเขาหูกอันหนึ่งเข้ากับไม้คันเหยียบข้างใดข้างหนึ่งและคล้องเชือกเขาหูกที่เหลืออีกอันเข้ากับไม้คันเหยียบอีกอัน เมื่อเหยียบไม้คันเหยียบข้างหนึ่ง ไส้หูกกางออกเป็นช่อเนื่องจากการดึงของเขาหูก พุ่งกระสวยผ่านช่องว่างนั้น แล้วดึงฟึมกระทบเส้นฝ้ายที่ออกมาจากกระสวยเข้าไปเก็บไว้ เหยียบไม้คันเหยียบอีกอัน พุ่งกระสวยผ่านช่องว่าง กลับมาทางเดิม ดึงฟืมกระทบเส้นฝ้ายเข้าเก็บ เหยียบไม้คันเหยียบอีกอัน พุ่งกระสวย ดึงฟืมกระทบ เหยียบไม้คันเหยียบ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนได้ผืนผ้าเกิดขึ้นยากมากแล้ว จึงพันผืนผ้าไว้ด้วยไม้กำพั้น

๓)  การแปรรูป คือ เตรียมเศษผ้า หรือชิ้นส่วนเสื่อกก และอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อม

๔)  ออกแบบและสร้างแบบตามที่ต้องการ จากนั้นตัดผ้าหรือชิ้นส่วนเสื่อกกให้เป็นตามแบบที่วางไว้

5)  เย็บให้เป็นรูปแบบตามที่ได้ออกแบบไว้เชื่อมกาวเป็นจุดตามขอบ

6)  เก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆให้เรียบร้อยแพ็คใส่ถุงให้เรียบร้อย เพื่อสะดวกในการจัดเก็บละขนส่งง่าย

ข้อพึงระวัง ->