ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

เนื่องจากอาชีพทำการเกษตรเป็นอาชีพที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ  ปู่ย่าตายาย  ได้สืบทอดต่อกันมาเป็นมรดกตกทอด  เช่น  การทำนา  ปลูกผัก  ได้ซึมซับมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ  ได้คลุกคลีกับการทำนา  และปลูกผัก  และได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากการได้เข้ามาเป็นผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน  มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับปราชญ์  และผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนตำบลอื่น ๆ  และเนื่องจากจังหวัดสิงห์บุรีมีปลาชุกชุม  เมื่อเสร็จจากการทำนาได้หาปลาเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือนหากมีเหลือก็จะถนอมอาหารไว้รับประทานโดยการทำปลาแดดเดียว  พัฒนาสูตรจนได้รสชาดอร่อยถูกปาก

วัตถุประสงค์ ->

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

วัตถุดิบและวิธีทำปลาแดดเดียว
– ปลาสด 1 กิโลกรัม จะเป็นปลาช่อน ปลาดุก ปลานิล ปลาทับทิม ปลาทูและปลาสวาย ก็ได้
– ถ้าปลามีเกล็ดให้นำมาขอดเกล็ดให้เรียบร้อย แล้วทำความสะอาด ตัดหัวและควักไส้ออกและหั้นเป็นชิ้นๆ
– ถ้าปลาที่เลือกไม่มีเกล็ด เช่น ปลาสวายให้ใช้มีดขูดเมือกที่ตัวปลาออกแล้วตัดหัวและควักไส้ทิ้งแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ
– นำปลามาล้างน้ำให้สะอาด แล้วทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำจนแห้ง
ส่วนผสมสำหรับหมักปลาแดดเดียว
– น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
– ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
– น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
– หัวกระเทียม 1 หัว ปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นโขลกให้ละเอียด
– พริกไทย 10 เม็ด นำมาโขลกให้ละเอียด



 

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. นำปลาใส่ในภาชนะตามด้วยส่วนผสมต่างๆ ที่ใช้หมัก แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. นำใส่กล่องพลาสติกปิดฝาแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเป็นเวลา 1 คืน
การตากปลา ตอนเช้าให้นำปลาที่แช่ไว้มาเรียงใส่ตะแกรง แล้วนำไปตากแดดประมาณ 4 ชั่วโมง 
การทอดปลา ให้นำน้ำมัน 1 ถ้วยตวงใส่กระทะโดยใช้ไฟปานกลาง รอจนน้ำมันร้อนได้ที่แล้วให้ใส่ปลาลงไปทอดจนเหลืองหนังปลากรอบ จากนั้นปิดไฟจัดปลาใส่จาน  อาหารไทยและวิธีการถนอมอาหารแบบไทยๆนั้นยังคงความเป็นเอกลักษณ์ ไม่มีใครเหมือนแถมยังมีรสชาติที่อร่อยมากๆ

 

ข้อพึงระวัง ->

ใช้ปลาที่สดสะอาดเท่านั้น