ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

นางสาวธัณฐภรณ์ กลิ่นนาค จบการศึกษาระดับ ปวส. และได้เข้าทำงานในโรงงานได้ประมาณ 2 ปีกว่า ภายหลังพบว่าตนเองไม่ถนัดด้านนี้แต่มีความสนใจเรื่องของการเกษตร จึงได้ทดลองปลูกพืชผักสวนครัว รวมทั้งออกจากงานมาเริ่มช่วยแม่ทำอาหาร ทำขนมขาย และมีการลองผิดลองถูก พัฒนาปรับปรุง ศึกษาหาความรู้ วิธีการปลูกพืชผักสวนครัว รวมถึงการบำรุงรักษาพืชผลให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปลอดสารพิษ จนปัจจุบันสามารถค้าขายเป็นการสร้างรายได้ให้ครัวเรือน

วัตถุประสงค์ ->

1. เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวตลอดทั้งปี

2. เพื่อลดภาระค่าจ่ายในครัวเรือน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1. ที่ดิน               

2. ปุ๋ยคอก            

3. เมล็ดพันธุ์                   

4. น้ำ

อุปกรณ์ ->

อุปกรณ์ทางการเกษตร เช่น จอบ มีด รวมถึงการใช้รถไถเพื่อพลิกหน้าดินก่อนทำการบำรุงดิน เพื่อปลูกพืชผักต่างๆ

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. ศึกษาหาความรู้เรื่องการปลูกผักสวนครัวชนิดต่าง

2. แบ่งที่ดินเป็นส่วนๆ ตามความต้องการที่จะปลูกพืชแต่ละชนิด

3. แบ่งพื้นที่ไว้ขุดเป็นสระน้ำเล็กๆ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง

4. พลิกหน้าดินโดยการไถ หรือหากทำแปลงเล็กๆ ให้ใช้จอบขุดก็ได้

5. ยกแปลงปลูกให้สูงจากพื้นราบประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อสะดวกในการควบคุมการรดน้ำและใส่ปุ๋ย

5. เตรียมปุ๋ยคอกโดยการหมัก หากไม่หมักให้ตากแดดไว้ 2 วันเพื่อฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ที่มากับมูลสัตว์

6. ใส่ปุ๋ยคอกเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของดิน (โรยบางๆ ไม่ต้องมาก) และรดน้ำให้ชุ่ม

7. นำเมล็ดพันธุ์ผักที่เตรียมไว้มาหยอดลงในแปลง ระยะห่างประมาณ 10 เซนติเมตร (กรณีผักกวางตุ้ง ผักคะน้า) หรือหว่าน (กรณีผักชี ผักบุ้ง)

8. รดน้ำแค่พอชุ่ม

9. นำฟางมาปิดกั้นแดด เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำ และรักษาความชุ่มชิ้นของแปลงปลูก

10. เมื่องอกแล้ว ให้รดน้ำแค่พอชุ่มวันละ 1 ครั้งในช่วงเย็น

11. เมื่ออายุได้ 10 วัน ให้เริ่มหว่านปุ๋ยคอกลงไป โดยหว่านเพียงบางๆ จากนั้นรดน้ำ ทำให้พืชโตเร็วและต้นสวย

ข้อพึงระวัง ->

1. การใส่ปุ๋ยคอกมากเกินไป อาจทำให้พืชตาย หรือไม่เจริญเติบโตได้ เนื่องจากปุ๋ยคอดมีความร้อนและมีความเค็ม หากใส่มากเกินไปอาจทำให้ดินเค็มได้

2. การรดน้ำ หากรดจนมีน้ำขังจะทำให้เมล็ดพันธุ์ หรือต้นพืชเน่าได้