การเลี้ยงหมูหลุม
โดย : นายปรีชา นันทพรไพจิตร วันที่ : 2017-05-09-09:56:59ที่อยู่ : 117/1 หมู่ 10 ตำบลท่าไม้รวก
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
บ้านโค้งตาบาง ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และรับจ้างทั่วไป ไม่มีอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน ประกอบกับมีปราชญ์ที่มีความรู้ด้านการเลี้ยงหมูหลุม จึงได้เกิดแนวคิดการเลี้ยงหมูหลุม เป็นอาชีพเสริมให้กับชาวบ้าน เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับภาคครัวเรือน
วัตถุประสงค์ ->
1. ส่งเสริมอาชีพเสริมให้กับครัวเรือน
2. ได้ปุ๋ยจากการเลี้ยงหมู ไว้ใช้ในภาคการเกษตร
3. ครัวเรือนมีความรู้ด้านการเลี้ยงหมู
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. ลูกหมู
2. แกลบ
3. มูลโคแห้ง
4. รำแป้ง
5. ดินร่วน
6. เกลือ
7. หัวเชื้อ EM
8. อาหารสุกร
อุปกรณ์ ->
1. จอบ 2. อิฐ 3. ปูน 4. ทราย
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1. การสร้างโรงเรือน เลือกพื้นที่น้ำไม่ท่วมขัง อากาศถ่ายเทสะดวก ปลูกสร้างด้วยวัสดุในท้องถิ่น โครงไม้ไผ่ หลังคาหญ้าคา ขนาด กว้างXยาวXสูง =4X5X1.8 เมตร เลี้ยงคอกละ 20 ตัว หลังคาควรมีแสงรอดผ่าน หรือมีพื้นที่รองรับแสงแดดได้ 1 /3 ของพื้นที่คอกตลอดทั้งวัน จะทำให้มีการฆ่าเชื้อด้วยแสงอาทิตย์ทุกวัน
2. การเตรียมพื้นคอก
2.1 ขุดหลุมลึก 90 ซม. ความกว้างยาวขึ้นอยู่กับจำนวนหมูที่เลี้ยง โดยมีพื้นที่ต่อตัว 1-1.5 เมตรต่อตัว
2.2 ก่ออิฐให้รอบทั้ง 4 ด้าน และให้สูงกว่าปากหลุมประมาณ 30 ซม. ไม่ต้องเทพื้น
2.3 วัสดุเตรียมพื้นคอก โดยจัดทำเป็น 3 ชั้น ๆ ละ30 ซม. โดยใช้วัตถุดาดังนี้
-แกลบดิบ 4,300 กิโลกรัม
-มูลโคหรือกระบือ 320 กิโลกรัม
-รำอ่อน 185 กิโลกรัม
-น้ำหมักจุลินทรีย์จากพืชสีเขียว 1 ลิตร ซึ่งจะได้แบคทีเรีย กลุ่มแลคติค
วิธีทำพื้นคอก
1.ใส่แกลบสูง 30 ซม.
2.ใส่มูลโค-กระบือ 8 ถุงปุ๋ย และรำข้าว 8 ถุงปุ๋ย ให้ทั่ว
3.ผสมน้ำจุลินทรีย์ ขนาด 2 ช้อนโต๊ะละลายน้ำ 10 ลิตรรดให้ทั่วพอชุ่ม
4.ชั้นต่อไปทำเหมือนเดิมจนครบ 3 ชั้น ทิ้งไว้ 7 วัน ปล่อยปล่อยให้เกิดการหมักของจุลินทรีย์ จึงนำลูกหมูหย่านมมาเลี้ยง เมื่อเลี้ยงได้ระยะหนึ่งให้เติมวัสดุรองพื้นคอกด้วย และคอยเติมให้เต็มเสมอ
3.พันธุ์สุกร
ควรใช้สุกร 3สายเลือดจากฟาร์มที่ไว้ใจได้ และคัดสายพันธุ์มาสำหรับการเลี้ยงแบบปล่อยได้ดี หย่านมแล้ว อายุประมาณ 1 เดือน น้ำหนักประมาณ 12-20 กิโลกรัม
4.อาหารและวิธีการเลี้ยง
4.1ในระยะเดือนแรก ให้อาหารสำเร็จรูปชนิดเม็ด สำหรับสุกรหย่านมมีโปรตีนไม่ต่ำกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ผสมกับรำโรงสีชาวบ้าน ในอัตรา 1: 3 ให้กิน 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น เป็นเวลา 15 วันแรก หลังจากนั้นลดอาหารสำเร็จลงจนครบ 1 เดือนไม่ต้องให้อาหารสำเร็จรูปอีกต่อไป โดยในตอนกลางวันให้กินอาหารเสริมประเภทพืช ผัก และถ้ามีกากน้ำตาลให้หั่นพืชผักหมักกับกากน้ำตาลทิ้งไว้ 1 วัน แล้วให้กินจะเป็นการดียิ่ง
4.2ในระยะเดือนที่ 2 จนถึงจำหน่าย งดให้อาหารสำเร็จรูป เกษตรกรนำกากปลาร้าต้มกับรำข้าว หรือใช้รำปลายข้าว ในอัตรา 1: 1 และเศษพืชผักเป็นอาหารเสริม โดยมีระยะเวลาเลี้ยง 3 ถึง 3เดือนครึ่ง ได้น้ำหนักประมาณ 80-100 กก.
ข้อพึงระวัง ->