ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ

โดย : นายสมพล ปกครอง วันที่ : 2017-06-30-10:24:08

ที่อยู่ : 37 หมู่ที่5 ตำบลโคกยาง

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

จากสภาวะปัจจุบันครัวเรือนเกษตรกรได้เปลี่ยนวิถีดำรงชีวิตจากเดิมทำมา  หากิน  ผลิตอาหารบริโภคเอง  ทำเพื่อพออยู่  พอกิน  พึ่งพาตนเองและมีการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน  ไม่เดือนร้อนในการครองชีพ  แต่ปัจจุบันเกษตรกรต้องพึ่งพาปัจจัยการดำรงชีวิตจากภายนอกเป็นหลัก  มีรถบริการเครื่องอุปโภค  บริโภค  เข้าไปถึงหน้าบ้านทุกวัน  ทำให้เกษตรกรต้องจับจ่ายใช้สอยทุกวัน  โดยเฉพาะอาหารบริโภคประจำวันอย่างน้อยเฉลี่ยครัวเรือน  100 – 150  บาท  ทั้งๆ ที่เกษตรกรสามารถผลิตอาหารบริโภคในครัวเรือนได้เอง เช่น  ปลูกผัก  เลี้ยงปลา  เลี้ยงไก่  เป็นต้น  ซึ่งจะสามารถลดรายจ่ายในครัวเรือนได้ไม่น้อยกว่า  100 – 150  บาทต่อครัวเรือน และสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอกันตังได้คัดเลือกบ้านหนองเหม้า หมู่ที่ 5 ตำบลโคกยางเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ตั้งแต่ปี 2554 ได้ให้ความรู้แนวทางการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและอบรมให้ความรู้ในการสาธิตกิจกรรมต่าง ๆ ทางด้านเกษตร เช่นปลูกมะนาวในท่อปูนซิเมนต์ การเพาะเห็ดนางฟ้า การทำปุ๋ยหมัก ทำมาเรื่อยๆ จนเกิดความชำนาญ และเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือนได้อีกทางหนึ่ง

วัตถุประสงค์ ->

สร้างรายได้ลดรายจ่ายในครัวเรือนลดการใช้ปุ๋ยเคมีซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1.เศษพืชผัก ผลไม้ หรือเศษอาหารที่ยังไม่บูดเน่า

2.กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแด 

อุปกรณ์ ->

                                                                       

1..ถังสำหรับหมัก                  

2.มีด

3.เขียง

กระบวนการ/ขั้นตอน->

วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพ

1.นำวัตถุดิบมาสับ บด โขลก หรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
2. บรรจุลงในภาชนะ
3. เติมกากน้ำตาล หรือน้ำตาลทรายแดง และส่วนผสมอื่น ๆ ลงไป ตามอัตราส่วน
4. คนหรือคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝาภาชนะ หมักไว้ 7-15 วัน
5. ครอบตามกำหนดปุ๋ยหมักน้ำชีวภาพจะมีกลิ่นหอม
6. สำหรับปุ๋ยหมักน้ำชีวภาพถั่วเหลือง และปุ๋ยหมักน้ำชีวภาพปลาสดหรือหอยเซลรี่ ควรหมักอย่างน้อย 1 เดือน จึงนำไปใช้ได้ และระหว่างหมักให้หมั่นคนส่วนผสมทุกวัน
7. หากมีกลิ่นเหม็นหรือบูดเน่าให้เติมกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทราย แล้วคนให้เข้ากันทิ้งไว้ 3-7 วัน กลิ่นเหม็นหรือกลิ่นบูดเน่าจะหายไป
8. การแยกกากและน้ำชีวภาพ โดยใช้ถุงอาหารสัตว์ ถุงปุ๋ยเคมี หรือมุ้งเขียว รองรับกากและน้ำชีวภาพจะไหลลงภาชนะที่เตรียมไว้ และกากที่เหลือนำไปคลุมโคนพืช หรือคลุมแปลงต่อไปได้อีก

เคล็ดลับในการทำน้ำหมักให้ได้ผลดี

ควรเลือกใช้เศษพืชผัก ผลไม้ หรือเศษอาหารที่ยังไม่บูดเน่า สับหรือบดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ในภาชนะที่มีปากกว้าง เช่นถังพลาสติกหรือโอ่ง หากมีน้ำหมักชีวภาพอยู่แล้วให้เทผสมลงไปแล้วลดปริมาณกากน้ำตาลลง ปิดฝาภาชนะทิ้งไว้จนได้เป็นน้ำหมักชีวภาพจากนั้นกรอกใส่ขวดปิดฝาให้สนิทรอ การใช้งานต่อไป 
2. ในระหว่างการหมัก ห้ามปิดฝาภาชนะจนแน่นสนิทเพราะอาจทำให้ระเบิดได้เนื่องจากระหว่าง การหมักจะเกิดก๊าชต่างๆขึ้นเช่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก๊าซมีเทนเป็นต้น                                                       3.ไม่ ควรเลือกพืชจำพวกเปลือกส้ม ใช้ทำน้ำหมัก เพราะมีน้ำมันที่ผิวเปลือกจะทำให้จุลินทรีย์ไม่ย่อยสลายการทำน้ำหมักชีวภาพ ไม่ใช่เรื่องยากแต่ต้องอาศัยเวลาและความอดทน ที่สำคัญน้ำหมักชีวภาพไม่มีสูตรที่ตายตัว เราสามารถทดลองทำปรับเปลี่ยนวัตถุดิบให้เหมาะสมกับต้นไม้ของเรา เพราะสภาพแวดล้อมแต่ละท้องถิ่นมีความแตกต่างกัน ต้นไม้แต่และถิ่นก็ต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน น้ำหมักชีวภาพจึงจำเป็นต้องมีความแตกต่างกันตามท้องถิ่น

ข้อพึงระวัง ->

ไม่ควรตั้งให้โดนแดด

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดตรัง
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา