การปลูกดอกดาวเรือง
โดย : นายวัชรินทร์ พันธุ์สนิท วันที่ : 2017-07-26-09:50:10ที่อยู่ : 83 หมู่ที่ 1 ตำบลหนองบัว
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ดาวเรืองเป็นไม้ดอกที่นิยมปลูกกันมาก เนื่องจากปลูกง่ายโตเร็ว ให้ดอกดก โดยไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มากนัก ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน ดาวเรืองมีทั้งชนิดต้นสูงและต้นเตี้ย ปลูกเป็นไม้ประดับ ไม้ตัดดอกหรือไม้กระถางก็ได้ เป็นพืชอายุสั้นปลูกได้ตลอดปีสามารถให้ออกดอกตรงกับช่วงเทศกาลที่ต้องการจำหน่าย ซื้อง่าย ขายคล่อง (ใช้แทนดอกเบญจมาศ) เป็นพืชล้มลุก ลำต้นตั้งตรงและเมื่อตัดลำต้น กิ่งก้านหรือใบของดอกดาวเรืองสามารถนำไปขยายพันธุ์ได้คือคุณสมบัติของพืชล้มลุก และสามารถนำไปทำสารปราบศัตรูพืชได้
วัตถุประสงค์ ->
เพื่อเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้กับครัวเรือน
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1.เมล็ดพันธุ์ดาวเรือง 2.ปูนขาวหรือโดโลไมท์ 3.ปุ๋ยสูตร 15-15-15 4.ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
อุปกรณ์ ->
1.วัสดุเพาะและถาดเพาะเมล็ด 2. ช้อนปลูก 3. บัวรดน้ำ 4. กรรไกรตัดดอก
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1.เตรียมดินไถพรวน ควรไถลึกประมาณ 30-50 ซม. และหว่านปูนขาวหรือโดโลไมท์อัตรา 200-400 กก./ไร่ เพื่อปรับสภาพดินตากทิ้งไว้ 4-5 วัน
2.ตีพรวนดินให้ละเอียด และขึ้นแปลงปลูกขนาด 1.20 เมตร สำหรับแปลงคู่และ 40-50 ซม. สำหรับแปลงเดี่ยว
3.การใส่ปุ๋ยรองพื้น ก่อนปรับแปลงปลูกควรเพิ่มธาตุอาหารให้เป็นไปตามความต้องการของพืชในปริมาณที่เพียงพอ เช่น หว่านปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 25-30 กก./ไร่ หากพื้นที่เป็นดินเหนียวต้องเติมอินทรียวัตถุลงไปแล้วคลุกเคล้าและเกลี่ยแปลงให้เรียบ
4.การย้ายปลูก ควรย้ายต้นกล้าที่มีอายุไม่เกิน 15 วัน หรือมีจำนวนใบจริง 2-3 คู่ ไม่ควรย้ายต้นกล้าที่มีอายุมากเกินไปเพราะระบบรากจะแผ่กระจายได้ช้า เนื่องจากระบบรากนั้นแก่เกินไป ดังนั้นควรย้ายกล้าระหว่าง 12-15 วัน(ขึ้นอยู่กับสภาพต้นกล้าว่ามีความแข็งแรงและมีใบจริง 2-3 คู่) จะทำให้รากของต้นกล้ามีการพัฒนาได้ดีกว่า การหาอาหารของรากก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วงเวลาในการย้ายกล้า ควรย้ายช่วงเย็น(แดดไม่แรง) เพื่อช่วยลดการสูญเสียน้ำทำให้ต้นกล้าตั้งตัวได้ดีหลังการย้ายปลูก
5.ระยะปลูก ระยะปลูกในแต่ละฤดูกาลจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- ฤดูร้อน และฤดูหนาว ระยะ 35-40 ซม.X35-40 ซม. แนะนำให้ปลูกแถวคู่ เนื่องจากจะช่วยเก็บความชื้นในดินได้มากว่าแถวเดี่ยว
- ฤดูฝนระยะ 50 ซม.X50 ซม. แนะนำให้ปลูกแถวเดี่ยว เนื่องจากจะช่วยลดการเกิดโรคพืชได้ ความลึกของหลุมประมาณ 4-5 ซม. และพยายามปลูกต้นกล้าให้ตั้งตรง
6. การให้น้ำ หลังการย้ายกล้าควรให้น้ำสม่ำเสมอจนต้นฟื้นตัว ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นควรรักษาความชื้นในดินให้เหมาะสม ไม่แห้งจนต้นเหี่ยว และไม่แฉะ หรือน้ำขังเป็นเวลานานเกินไป หากดินขาดความชื้นจะทำให้แมลงพวกเพลี้ยไฟ ไรแดง ระบาดได้ง่าย และหากดินมีน้ำขัง หรือแฉะจนเกินไปก็จะทำให้เกิดโรคได้ง่าย เช่นกัน
7. การให้ปุ๋ย แนะนำให้ละลายน้ำรดเพราะพืชจะสามารถนำไปใช้ได้เลย อัตรา 1 กก./น้ำ 100 ลิตร 1 ครั้งต่อสัปดาห์
8. การดูแลหลังย้ายปลูก การกลบโคนต้นถือเป็นสิ่งสำคัญในการปลูกดาวเรือง จะช่วยให้ดาวเรืองแตกรากใหม่ออกมาได้มากขึ้น หาอาหารและเจริญเติบโตได้ดี ควรกลบโคนอย่างน้อย 2 ครั้ง ในช่วงหลังเด็ดยอด และก่อนออกดอก โดยการโรยปุ๋ยเม็ดสูตร 15-15-15 กลบโคนให้ชิดกับข้อใบคู่ล่างสุด
9. การเด็ดยอด ควรเด็ดยอดหลังย้ายปลูกประมาณ 10-15 วัน ต้องมีใบจริงอย่างน้อย 3 คู่ เด็ดยอดออก 1 คู่ โดยใช้มือด้านหนึ่งจับข้อที่ต้องการเด็ด และโน้มกิ่งด้านบนลงจนหักชิดข้อที่จับ ช่วยในการแตกทรงพุ่มของลำต้นและความสูงให้สม่ำเสมอกัน แต่จะทำให้ออกดอกช้าลง 1 สัปดาห์(ในช่วงวันสั้น หรือฤดูหนาว แนะนำให้เด็ดยอดเพื่อให้ลำต้นสมบูรณ์แข็งแรง ไม่ออกดอกเร็วจนเกินไป)
ข้อพึงระวัง ->
หากดินขาดความชื้นจะทำให้แมลงพวกเพลี้ยไฟ ไรแดง ระบาดได้ง่าย และหากดินมีน้ำขัง หรือแฉะจนเกินไปก็จะทำให้เกิดโรคได้ง่าย เช่นกัน ควรฉีดพ่นยาป้องกันเชื้อโรคหลังเด็ดยอด