การปลูกผักไฮโดรโปรนิค
โดย : นางสาวจารุณี แก้วแดง ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-08-28-11:54:20ที่อยู่ : 54/1 ม.1 ต.กุดดินจี่
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
เนื่องจากขาดแคลนแหล่งน้ำในการใช้เพาะปลูกพืชผัก จึงหันมาปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ หรือการปลูกผักแบบไร้ดิน ที่ใช้น้ำน้อย ไม่ต้องพรวนดิน ไม่ต้องฉีดยาฆ่าแมลง และไม่ต้องใส่ปุ๋ยมาก ซึ่งเด็ก สตรี และ ผู้สูงอายุก็ทำได้ โดยใช้วัสดุพื้นบ้านที่เหลือใช้ที่ภายในหมู่บ้าน เพื่อเป็นการประหยัดและไม่ต้องลงทุนสูง อาทิ กล่องโฟม หรือ วัสดุที่ลอยน้ำได้ มาใช้ในการเพาะปลูก
วัตถุประสงค์ ->
1. การเตรียมพื้นที่และโต๊ะปลูก
ประกอบโต๊ะปลูกและติดตั้งตามวิธีการประกอบชุดไฮโดรโปนิกส์ และนำโต๊ะปลูกมาวางในตำแหน่งที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง/วัน
2. พันธุ์และเมล็ดพันธุ์ผัก เมล็ดพันธุ์ผักมี 2 ชนิดคือ
2.1 เคลือบดินเหนียว เนื่องจากเมล็ดผักมีขนาดเล็ก ทำให้เป็นอันตรายและสูญเสียได้ง่าย จึงมีการเคลือบเมล็ดด้วยดินเหนียว เมล็ดที่เคลือบจะมีอายุการเก็บรักษาสั้น เนื่องจากได้มีการกระตุ้นการงอกมาแล้ว แต่จะสะดวกสำหรับการใช้งาน
2.2 ไม่เคลือบ คือเมล็ดพันธุ์ปกติ
3. การเพาะต้นกล้า
นำวัสดุปลูก เช่น เพอร์ไลท์ เวอร์มิคูไลท์ ใส่ถ้วยเพาะและนำเมล็ดผักใส่ตรงกลางถ้วย กลบเมล็ดและรดน้ำให้เปียกและเก็บไว้ในที่ปลอดภัย รดน้ำทุกวัน ประมาณ 3-5 วัน เมล็ดเริ่มงอก และเริ่มให้สารละลายอ่อนๆ แทนน้ำ
4. การปลูกบนราง ขนาด 1.5 เมตร
4.1 ตัวอย่างเติมน้ำ 10 ลิตร และเติมสารอาหาร A และ B อย่างละ 100 ซีซี หรือ 10 ซีซี/น้ำ 1 ลิตร
4.2 นำต้นกล้าที่แข็งแรง อายุประมาณ 2 สัปดาห์ ย้ายมาวางบนโต๊ะปลูก และเดินเครื่องปั๊มน้ำ
5. การดูแลประจำวัน
5.1 รักษาระดับน้ำให้อยู่ในระดับควบคุมอยู่เสมอ เช่น 10 ลิตร
5.2 ควบคุมค่า EC อยู่ระหว่าง 1-1.8 โดยเครื่อง EC meter ปรับลดโดยการเพิ่มน้ำ และปรับค่า EC เพิ่มโดยการเพิ่มปุ๋ย กรณีไม่มีเครื่องวัดสามารถประมาณการเติมสารอาหาร A และ B ดังตาราง
5.3 ควบคุมค่า pH อยู่ระหว่าง 5.2-6.8 โดยเครื่อง pH meter หรือ pH Drop test ปรับลดโดยการกรดฟอสฟอริก หรือกรดไนตริก (pH down) และปรับค่า pH เพิ่มโดยการเติมโปตัสเซียมไฮดรอกไซด์ (pH up) ปริมาณ 2-3 หยด
6. การเก็บเกี่ยว เก็บเกี่ยวเมื่ออายุ 45 วัน
วิธีเพาะกล้าผักไฮโดรโปนิกส์
1. ผสม vermiculite 1 ส่วน กับ perlit 6 ส่วน ในกล่องผสม เขย่าให้เข้ากัน
2. สวมผ้ากันฝุ่น แล้วจึงเปิดฝากล่องผสม แล้วใช้ถ้วยตวง 1 ลิตร ตักวัสดุปลูกลงในถ้วยปลูก ให้ได้ความสูง 2/3ของถ้วยปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
3. เขย่าถาดปลูกให้วัสดุปลูกแน่น และเติม หรือตักออก จนได้ระดับทุกถ้วย
4. หยอดเมล็ดผักลงตรงกลางถ้วยปลูก จนครบทุกถ้วย
5. เขย่าถาดปลูก โดยสังเกตให้เมล็ดผักส่วนใหญ่จมลงแค่ผิววัสดุปลูก
6. ตรวจดู และใช้ปลายไม้แหลมกดบางเมล็ดที่ยังลอยอยู่ ให้จมลงในระดับแค่ผิวของวัสดุปลูก
7. ยกถาดไปวางบริเวณที่วางถาดปลูก ใต้รางอนุบาล เวลายกต้องใช้ความระมัดระวัง อย่าให้เกิดการกระแทก จะทำให้เมล็ดเปลี่ยนตำแหน่งได้
8. ใช้หัวฉีดหมอกฉีดน้ำให้เป็นละอองฝอย ตกลงบนถ้วยปลูกจนชุ่ม โดยสังเกตหยดน้ำที่เกิดขึ้นบริเวณของถ้วย ว่ามีจำนวนมากพอ
วิธีดูแลกล้าผักไฮโดรโปนิกส์
1. ระยะ 3-5 วันแรกให้สังเกตหยดน้ำที่เกิดขึ้นจากการพ่นหมอกที่แปลงอนุบาล เช้า-เย็น ถ้าหยดน้ำบริเวณของถ้วยมีจำนวนเพียงพอ ไม่ต้องใช้สายยางฉีดอีก ถ้าสังเกตเห็นว่า มีบางบริเวณไม่มีน้ำหยด หรือหยดน้ำน้อย จึงใช้สายยางฉีดน้ำเสริม ควรสังเกตหยดน้ำหลังการพ่นหมอกใหม่ๆ
2. ประมาณวันที่ 5 ผักไฮโดรโปนิกส์ของเราจะมีใบเลี้ยง 2 ใบ และใช้อาหารในเมล็ดหมดแล้ว ให้หยอดปุ๋ย โดยใช้น้ำปุ๋ยจากถังอนุบาล 1 ส่วนผสมกับน้ำ 1 ส่วนแล้วหยอดทีละถ้วย ระวังอย่าให้โดนใบผัก ให้หยอดปุ๋ยวันละครั้ง ตอนเย็นจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
3. ต้นกล้าสามารถย้ายขึ้นรางอนุบาล 1 ได้ตั้งแต่ 7 วัน- 14 วัน เมื่อรางว่าง
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ข้อพึงระวัง ->