ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

เดิมครอบครัวมีอาชีพเกษตรมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย โดยทานาอย่างเดียว ซึ่งประสบปัญหาในเรื่องต้นทุนในการประกอบอาชีพที่ต้องใช้ทุนสูง เพราะต้องใช้ปุ๋ยเคมี ยากาจัดแมลงศัตรูพืช ทาให้มีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย (ขาดทุน) จนกระทั่งได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมให้ความรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง การทาการเกษตรผสมผสาน จากหลายๆ หน่วยงาน และมีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานในพื้นที่ที่มีการบริหารจัดการในการทาการเกษตรทฤษฎีใหม่ จึงได้นาเอาความรู้ที่ได้มาปรับใช้ในพื้นที่ตนเอง ในการทานาอินทรีย์ โดยทามาแล้วประมาณ 9 ปี ตั้งแต่นั้นมาดินที่เคยเสียก็กลับร่วนซุยขึ้น สภาพแวดล้อมดีขึ้น ต้นทุนการทานาถูกลง แต่ให้ผลผลิตมากขึ้น ทั้งยังมีสุขภาพร่างกายก็แข็งแรงดี ชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้นเป็นลาดับ

วัตถุประสงค์ ->

1. การปลูกข้าวอินทรีย์ เป็นการทานาแบบหลีกเลี่ยงการใช้ปุ๋ยเคมี การเลือกพื้นที่ปลูกที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์สูงตามธรรมชาติ จึงเป็นการเริ่มต้นที่ได้เปรียบ เพื่อที่จะรักษาระดับผลผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และพยายามรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินให้เหมาะสมกับการปลูกข้าวอินทรีย์ให้ได้ผลดีและยั่งยืนมากที่สุด สามารถดาเนินการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินให้เหมาะสมกับการใช้ปลูกข้าวอินทรีย์ดังนี้
- ไม่เผาตอซัง ฟางข้าว และเศษวัสดุอินทรีย์ในแปลงนา เพราะเป็นการทาลายอินทรียวัตถุ
และ จุลินทรีย์ในดินที่มีประโยชน์ -ไม่นาชิ้นส่วนของพืชที่ไม่ใช้ประโยชน์โดยตรงออกจากแปลงนา แต่ควรนาวัสดุอินทรีย์จากแหล่งใกล้เคียงใส่แปลงนาให้สม่าเสมอทีละเล็กละน้อย

-เพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินโดยการปลูกพืชโดยเฉพาะพืชตระกูลถั่วในที่ว่างในบริเวณพื้นที่นา
ตามความเหมาะสม แล้วใช้อินทรียวัตถุที่เกิดขึ้นในระบบไร่นาให้เกิดประโยชน์ต่อการปลูกข้าว
-ไม่ควรปล่อยที่ดินให้ว่างเปล่าก่อนการปลูกข้าวและหลังจากการเก็บเกี่ยวข้าว แต่ควรปลูก
พืชบารุงดินโดยเฉพาะพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเขียว ถั่วพร้า
2. การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์จากธรรมชาติอย่างสม่าเสมอ แต่เนื่องจากปุ๋ยอินทรีย์
ธรรมชาติแทบทุกชนิดมีความเข้มข้นของธาตุอาหารค่อนข้างต่า จึงต้องใช้ในปริมาณที่สูงมาก “ใส่ทีละเล็กทีละน้อยสม่าเสมอเป็นประจา” ปุ๋ยอินทรีย์จากธรรมชาติที่ควรใช้ ได้แก่ ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยมูลสัตว์ ปุ๋ยพืชสด น้าหมักชีวภาพ 3. การแก้ปัญหาแมลงศัตรูพืชและโรคข้าวก็สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดพ่นน้าส้มควันไม้ที่ ได้จากการเผาถ่านแทนการฉีดพ่นด้วยสารเคมี ช่วยไล่แมลงและทาให้ต้นข้าวแข็งแรง เบ็ดเสร็จแล้วต้นทุนต่อไร่ในการทานาอินทรีย์ของป้าสาเนียงลดลงจากการทานาแบบใช้สารเคมีประมาณ 4 เท่า แถมยังให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีกว่า และช่วยรักษาความสมดุลของธรรมชาติในนาข้าว

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

มีความขยัน หมั่นเพียร รู้จักใช้ รู้จักเก็บออม ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และนาความรู้ที่มีไปใช้ประโยชน์กับส่วนรวม หากเกษตรกรคนไหนอยากจะเปลี่ยนมาใช้วิธีเกษตรอินทรีย์ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ขอให้เริ่มที่ใจ หากใจพร้อมที่เปลี่ยนวิถีชีวิต ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก สุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีก็จะคืนกลับมา

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ข้อพึงระวัง ->