เทคนิคส่งเสริมสัมมาชีพ

เกษตรแนวใหม่ตามโครงการพระราชดาริ

โดย : นายบุญสุข รัตนดี ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-08-22-22:40:49

ที่อยู่ : 1๖๑ หมู่ ๘ ตาบล เมืองลีง

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ยุคนี้ การทาเกษตรแนวใหม่ตามแนวพระราชดาริหรือเกษตรผสมผสาน เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในประเทศที่เป็นการกสิกรรมทั้งหลาย ในประเทศไทยเองก็มีมากมายหลายแห่ง ที่มีแนวทางในการพัฒนาชุมชนของตนเองบนหลักคิด “ความพอเพียง” และ “พึ่งพาตนเองได้”
เกษตรแนวใหม่ตามแนวพระราชดาริ หรือเกษตรผสมผสาน หรือไร่นาสวนผสมไม่มีคาจากัดความเพราะสามารถแตกแขนงออกได้หลายแบบ ไม่มีการเจาะจงชนิดของพืชที่สามารถปลูก แต่การทาการเกษตรแบบผสมผสานนี้นั้น ภายในแปลงปลูกควรมีพืชพันธ์นานาชนิด มีความร่มรื่น เย็นสบาย เพื่อให้พืชหลายชนิดมีการเอื้อเฟื้อต่อกันได้มากที่สุด โดยส่วนใหญ่แล้วพืชพันธุ์ที่พบภายในสวน มีทั้งไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผักสมุนไพร ผักพื้นบ้าน ผักป่า ผักสวนครัว และอื่นๆ ที่สามารถนามาใช้ประโยชน์ได้ทุกอย่าง รวมทั้ง แปลงดอกไม้ แปลงข้าว การเลี้ยงปลาในนาข้าว การเพาะพันธ์ปลาในบ่อปลา เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานทุกสิ่งทุกอย่าง ในพื้นที่จากัด1-2ไร่ได้อย่างลงตัวและที่สาคัญ สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนเดิมครอบครัวมีอาชีพทานา และอาชีพเสริมทาร่ม ทาพัด เนื่องจากในตาบลต้นเปา มีอาชีพทาร่ม ทาพัดหลายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยมีตลาดจาหน่ายที่บ้านบ่อสร้าง โดยเริ่มทาตั้งปี ๒๕๔๕ โดยทาครอบครัวและทามาจนถึงปัจจุบัน

วัตถุประสงค์ ->

1) แบ่งพื้นที่ในการเกษตรให้เหมาะสม และดูสภาพดินก่อน ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร สภาพ
ดินเหมาะกับการปลูกพืชอะไรได้บ้าง 2) การเลี้ยงสัตว์ต่างๆ เมื่อรู้แล้วว่าจะปลูกพืชอะไร ก็ดูว่า สัตว์ที่จะเลี้ยงนั้น เอื้อประโยชน์กับพืชที่ปลูกอย่างไรบ้าง ใช้เป็นอาหารหรือใช้ประโยชน์อะไรจากพืชและสัตว์ มีการเอื้อประโยชน์ต่อกันอย่างไร
3) ต้องมีกิจกรรมการเกษตรตั้งแต่ 2 กิจกรรมขึ้นไป จึงจะถือว่าเป็นการผสมผสานที่ดี โดยการทาการเกษตรทั้งสองกิจกรรมนั้น ต้องทาในพื้นที่และระยะเวลาเดียวกัน กิจกรรมการเกษตรควรประกอบไปด้วยการปลูกพืชและการเลี้ยงสัตว์ อย่างไรก็ตามอาจสามารถผสมผสานระหว่างการปลูกพืชต่างชนิด หรือการเลี้ยงสัตว์ต่างชนิดกันก็ได้ ในการจัดการกิจกรรมการผลิตทางการเกษตร ให้มีการผสมผสานเกื้อกูลกัน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

- เทคนิคที่ทาให้เกิดความสาเร็จในการทางาน 1) การหมั่นเข้ารับการฝึกอบรม และแสวงหาความรู้เพิ่มเติม 2) ทาแบบค่อยเป็นค่อยไปตามลาดับ โดยไม่ต้องเน้นเรื่องเงินทุน 3) ความพยายาม ขยัน อดทน และเรียนรู้ในการทางาน

อุปกรณ์ ->

ต้องให้ความสนใจและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเครือข่ายอื่นๆ

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ขอคำแนะนาปรึกษาจากผู้ที่มีความรู้ความเชียวชาญที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น อบต. เกษตรอาเภอ พัฒนาชุมชนอาเภอ ฯลฯ

ข้อพึงระวัง ->

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดสุรินทร์
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา