เทคนิคส่งเสริมสัมมาชีพ

การเพาะเห็ดนางฟ้า

โดย : นางโนรี เป็นไทย ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-07-03-06:44:53

ที่อยู่ : ๕๒ หมู่ที่ ๔ ตำบลไพล

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

เห็ดนางฟ้า  จัดเป็นเห็ดที่นิยมรับประทานมากเป็นอันดับต้นๆ ของเห็ดทุกชนิด นิยมรับประทานทั้งชาวไทย และต่างประเทศ ในรูปของเห็ดสด เห็ดแห้ง และเห็ดแปรรูป เช่น น้ำพริกเห็ด กะปิเห็ด เป็นต้น เนื่องจากเป็นเห็ดที่มีรสนุ่ม กลิ่นหอม (ย่างไฟ) ราคาถูก สามารถเพาะปลูก และหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด สามารถเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว

วัตถุประสงค์ ->

ขั้นตอนการเพาะเห็ดนางฟ้า  5 วิธี

            1 . วิธีการทำโรงเรือนเห็ดนางฟ้า

                 วิธีการทำโรงเรือนเห็ดนางฟ้า  โรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้าโดยทั่วไปนั้นควรมีขนาด กว้าง 2 เมตร ยาว 15 เมตร สูง 2 เมตร ซึ่งจะสามารถวางก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้า และเห็ดนางรมได้ประมาณถึง 4,000 ก้อน โรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้า หรือเห็ดนางรม ควรเป็นแบบที่สร้างง่าย มีต้นทุนน้อย วัสดุที่นำมาสร้างโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้านั้น ควรหาง่าย เป็นวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น สามารถหาได้จากธรรมชาติ เช่น หญ้าแฝก, ไม้ไผ่ ,ฟาง เป็นต้น สำหรับการสร้างโรงเรือนเพาะเห็ด ให้เหมาะสมนั้น ควรหาพื้นที่สร้างในที่เย็นชื้น สะอาด และปราศจากศัตรูของเห็ด ใช้หลังคามุงจาก หรือแฝก แล้วให้คลุมทับด้วยสะแลนอีก 1 ชิ้น วิธีการคลุมหลังคาโรงเพาะเห็ดขึ้นอยู่กับชนิดของเห็ดด้วย เป็นการป้องกันลมหนาว ลมแรง ลมค่อย ลมแห้งแล้ง เพราะสภาพอากาศเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลกระทบต่อการออกดอกของเห็ด ให้เพื่อน ๆ ปิดประตูด้วยกระสอบป่าน หรือแผ่นยาง แล้วปูพื้นด้วยทราย เพื่อให้สามารถเก็บความชื้น ในส่วนของทิศทางลม ก้อเป็นส่วนสำคัญในการทำโรงเพาะเห็ด จำเป็นต้องดูทิศทางของลมเหนือลมใต้ เพื่อป้องกันการพัดพาเชื้อโรค ที่มีผลกระทบต่อก้อนเห็ด และการออกดอกของเห็ดนั่นเอง

                 การสร้าง โรงเรือนเพาะเห็ด นางฟ้าขนาด กว้าง 2 เมตร ยาว 15 เมตร สูง 2 เมตร นั้น จะมีทั้งหมด 4 ด้านด้วยกัน ซึ่งในแต่ละด้านจะสามารถเก็บก้อนเชื้อเห็ดนางรม ก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้าได้มากถึง 1,000 ก้อน วิธีการทำโรงเรือนเพาะเห็ดในลักษณะนี้ ใช้พื้นที่รวมแล้วแค่ 60 ตารางเมตรเท่านั้น วัสดุที่ใช้สำหรับการทำงานก็เลือกที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เช่น ไม้ยูคา ไม้ไผ่ หรือ อื่น ๆ ตัวเสาโรงเพาะเห็ดอาจเลือกใช้ไม้ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของโรงเรือนให้อยู่ยาวนาน หลังคาก็ใช้หญ้าแฝก เพราะเป็นวัสดุที่เหมาะกับการทำโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม เนื่องจากสามารถกักเก็บความร้อนชื้นได้เป็นอย่างดี และเป็นภูมิอากาศที่เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้านั้นชอบ

 

 

                

 

  2 . วิธีการทำก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้า

                     วิธีการทำก้อนเชื้อเพาะเห็ดนางฟ้า การก้อนเห็ดนางรม มีความจำเป็นต้องหาวัสดุอุปกรณ์ที่จะต้องเตรียมตัวก่อนดังนี้ เริ่มจากขี้เลื่อยไม้เนื้ออ่อน หรือขี้เลื่อยยางพารา ในส่วนของทางปฏิบัตินั้นขี้เลื่อยยางพาราจะเป็นตัวที่ให้ผลดีที่สุด จากนั้นให้หาส่วนผสมต่าง ๆ เพื่อให้เราได้คุณค่าทางอาหารมากยิ่งขึ้น ในส่วนของสูตรการทำก้อนเชื้อเห็ดนางรม ก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้ามีส่วนผสมหลัก ๆ ดังต่อนี้

                           1.         ขี้เลื่อยยางพาราแห้งสนิท 100 กิโลกรัม

                           2.         หินปูนหรือผงชอล์ก 1 กิโลกรัม

                            3.         ข้าวโพดป่น 3 – 5 กิโลกรัม

                            4.         รำละเอียด 6 – 8 กิโลกรัม

                            5.         น้ำเปล่า 80 กิโลกรัม

                           6.         ปูนยิบซัม 1 กิโลกรัม

                          7.          ดีเกลือ 0.2 กิโลกรัม

                           8.           EM ปริมาณ 1 ลิตร

                       เมื่อได้ส่วนผสมมาครบแล้ว ให้ทำการตากกองขี้เลื่อยยางพาราไว้กับแดด ประมาณ 7 วัน จากนั้นค่อย ๆ เริ่มทำการผสม โดยให้เราทำการเติมน้ำเปล่าลงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ แล้วให้ทำการทดสอบโดยการกำส่วนผสม ถ้าหากว่ากำแล้วมีน้ำซึมออกมาตามง่ามมือนั้น แสดงว่าเพื่อน ๆ ผสมน้ำมากเกินไป แต่ถ้าหากบีบมือแล้วขี้เลื่อยแตกเป็น 3 ก้อน นั่นแสดงว่าการผสมใช้ได้ เราเรียกว่าพอดี แต่ถ้าว่าเรากำแล้วแบมือออก ขี้เลื่อยจับตัวไม่เป็นก้อน นั่นแสดงว่าเพื่อน ๆ เติมน้ำน้อยเกินไป เมื่อเราผสมเข้ากันได้ที่อย่างพอดีแล้ว ก็ให้ทำการกรอกใส่ถุงเพาะเห็ดนางฟ้า  ใส่ถุงให้ได้น้ำหนักประมาณ 800 – 900 กรัม แล้วหลังจากนั้นก็ให้เริ่มทำการรวบรวมปากถุงเห็ด กระทุ้งกับพื้นให้แน่นพอประมาณ แล้วให้ทำการใส่คอขวด

                       ขั้นตอนที่ 3 วิธีการหยอดเชื้อเห็ด วิธีเพาะเห็ดนางฟ้า

                       วิธีเพาะเห็ดนางฟ้า การเพาะเห็ดนางรม วิธีการหยอดเชื้อเห็ด เมื่อเพื่อน ๆ ทำก้อนเชื้อเห็ดเสร็จแล้ว เราก็นำก้อนเชื้อที่ได้มาทำการหยอดเชื้อ และบ่มเชื้อเห็ดนางฟ้า  ตามลำดับ ซึ่งก่อนอื่นเลย ก้อนเชื้อที่ได้มานั้นเราจะนำมาทำการนึ่ง ( เพื่อฆ่าเชื้อ ) ถ้ามีหม้อนึ่งความดันอยู่แล้วให้เพื่อน ๆ นึ่งที่ความดัน 25 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ให้ใช้ระยะเวลาในการนึ่งที่ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ถ้าหากเพื่อน ๆ ไม่มีหม้อนึ่งความดันอาจให้เลือกใช้ หม้อนึ่งจากถังน้ำมัน 200 ลิตร แทนได้ โดยต้องทำการนึ่ง ประมาณ 3 ครั้ง ใช้อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส และใช้ระยะเวลาในการนึ่งประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ( ทำแบบนี้ 3 ครั้ง ) เมื่อเพื่อนๆ ผ่านขั้นตอนการนึ่งฆ่าเชื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็จะเริ่มทำการหยอดเชื้อเห็ดลงสู่ก้อนเชื้อที่ได้เตรียมไว้ เชื้อเห็ดจากเมล็ดข้าวฟ่างนั้น ควรหยอดเชื้อลงในประมาณ 20 – 25 เมล็ด เมื่อเราหยอดเชื้อลงสู่ก้อนเชื้อเห็ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เราทำการปิดปากถุงก้อนเชื้อ หลังจากนั้นให้เพื่อน ๆ บ่มเชื้อเห็ดในขั้นตอนถัดไป การบ่มเชื้อนั้นต้องนำก้อนไปบ่มไว้ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 20 – 25 วัน ซึ่งกรรมวิธีการบ่มเชื้อเห็ดก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมาย เพียงแต่เราต้องเก็บให้เป็นระเบียบ ไม่ให้ไม่ถูกฝน ถูกแดด ลมไม่โกรก ไม่มีหนู ไม่มีแมลง ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกนั่นเอง

                       ขั้นตอนที่ 4  วิธีเก็บเห็ดนางฟ้า

วิธีเก็บเห็ดนางฟ้า  หลังจากที่ได้เพื่อน ๆ ทำการบ่มเชื้อเห็ดนางรม เห็ดนางฟ้าในโรงเพาะเห็ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาของการเปิดดอกเห็ด และทำการเก็บเกี่ยวดอกเห็ดนางรม ดอกเห็ดนางฟ้าของเรา เห็ดจะออกดอกเมื่อมีความชื้นสูงพอ ออกเมื่ออากาศไม่ร้อนมาก เมื่อเห็ดถูกเหนี่ยวนำด้วยอากาศเย็นตอนกลางคืน จะทำให้ออกดอกได้ดี เทคนิคที่ทำให้เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรมออกดอกอย่างสม่ำเสมอ และเห็ดออกดอกใหญ่ ๆ สามารถทำได้ดังนี้  เมื่อเพื่อน ๆ เก็บดอกเห็ดเสร็จแล้ว ต้องทำความสะอาดหน้าก้อนเชื้อเห็ด โดยเขี่ยเศษเห็ดออกให้หมด แล้วงดให้น้ำประมาณ 3 วัน เพื่อให้เชื้อฟักตัว แล้วค่อยกลับมาให้น้ำอีกตามปกติ เห็ดของเราก็จะเกิดเยอะเหมือนเดิม หรือเมื่อเพื่อน ๆ เก็บดอกเห็ดเสร็จ ให้ทำความสะอาดหน้าก้อนเชื้อ แล้วรัดปากถุงเพื่อไม่ให้อากาศเข้า ทิ้งก้อนเห็ดไว้ประมาณ 2 – 3 วัน แล้วค่อยให้น้ำปกติ เมื่อเพื่อน ๆ เปิดปากถุงก็จะเกิดดอกที่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นวิธีการการเหนี่ยวนำให้เห็ดออกดอกพร้อมกัน เมื่อเห็ดของเราออกดอก และบานจนได้ขนาดที่เพื่อน ๆ ต้องการแล้ว ให้เริ่มเก็บดอกโดยจับที่โคนดอกทั้งช่อ คือ โยกซ้าย – ขวา – บนล่าง แล้วให้ดึงออกจากถุงเห็ด ต้องค่อย ๆ ระวังอย่าให้ปากถุงเห็ดบาน ถ้าดอกเห็นโคนขาดติดอยู่ ให้เราแคะออก และทิ้งให้สะอาดเพื่อป้องกันการเน่าเสีย ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดหนอนจากการวางไข่ของแมลงได้ วิธีการการดูลักษณะดอกเห็ดที่ควรเก็บนั่นก็คือ ดอกไม่แก่ หรือดอกไม่อ่อนจนเกินไป ให้เพื่อน ๆ ดูที่ขอบดอก ถ้ายังงุ้มอยู่คือดอกที่เหมาะแก่การเก็บเกี่ยว แต่ถ้าขอบยกขึ้นแสดงว่าแก่แล้ว เป็นดอกเห็ดที่แก่จัด และจะออกสปอร์เป็นผงขาวด้านหลังดอกเห็ด เราต้องรีบเก็บออก เพราะสปอร์จะเป็นตัวชักนำแมลงเข้ามาในโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้าของเรา

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

            1) การลดความเสี่ยงและความไม่แน่นอนของรายได้

            2) รายได้สม่ำเสมอ

            3) การประหยัดทางขอบข่าย ค่าใช้จ่ายในไร่นาลดลง มีรายได้สุทธิเพิ่มมากขึ้น

            4) ลดการพึ่งพิงจากภายนอก

            5) ลดการว่างงานตามฤดูกาล มีงานทำทั้งปี ทำให้ลดการอพยพแรงงาน

อุปกรณ์ ->

เห็ดจัดว่าเป็นพืชที่มีการตอบสนองต่อสภาพแวดล้อม และสิ่งเร้าทางภายนอกอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นปัญหาที่พบหากได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง และทวงทันเวลา ก็จะทำให้เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรมของเพื่อน ๆ เจริญเติบโตได้ดีขึ้น และ ทำให้เห็ดของเราที่มีคุณภาพ

 

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ข้อพึงระวัง ->

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดสุรินทร์
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา