เทคนิคส่งเสริมสัมมาชีพ

image1

เทคนิคการส่งเสริมสัมมาชีพชุมชน

โดย : นายอำพล เข็มแก้ว ตำแหน่ง : เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน วันที่ : 2017-03-20-16:30:38

ที่อยู่ : สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอราษีไศล

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) ได้กำหนดยุทธศาสตร์การสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เป็น 1 ใน 10 ยุทธศาสตร์ การพัฒนาตามแผน และรัฐบาลได้กำหนดนโยบ่ายการบริหารราชการแผ่นดิน จำนวน 11 ด้าน ซึ่งเป็นนโยบายด้านการลดความเหลื่อมล้ำ ของสังคมและการสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการของรัฐ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่มุ่งหวังแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับปากท้องของประชาชนในระดับล่างที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยมีแผนงานที่สำคัญคือแผนงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการไปสู่การปฏิบัติ
          ปัจจุบันสถานการณ์การประกอบอาชีพของประชาชนภาคการเกษตรในชุมชน มีความเสี่ยงที่เกิดจากการประกอบอาชีพแบบดั้งเดิม เช่น ปลูกพืชเชิงเดี่ยว โรคพืช ราคาผลผลิตตกต่ำ การไม่มีอาชีพ หรือรายได้เสริมหลังฤดูกาลผลิต และยังมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มอาชีพค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ประชาชนต้องเคลื่อนย้ายแรงงานไปประกอบอาชีพในเมือง การจะสร้างความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้จึงต้องมุ่งเน้นที่การยกระดับเศรษฐกิจฐานราก นั้นคือ "รายได้" ที่ต้องทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วยการสร้างอาชีพ โดยให้ปราชญ์ชุมชนด้านอาชีพที่เชี่ยวชาญ และประสบผลสำเร็จในการประกอบอาชีพด้านต่างๆ ที่อยู่ในหมู่บ้าน/ชุมชน เป็นผู้ถ่ายทอดให้คนอื่นทำตาม จึงเป็นที่มาของ "สัมมาชีพชุมชน" บนหลักปรัชญาเศรษฐกิฐพอเพียง ที่มีเป้าหมายคือ ประชาชนได้รับการพัฒนาอาชีพ โดยให้ชาวบ้านสอนชาวบ้านในสิ่งที่เขาอยากทำ ฝึกปฏิบัติจริงให้สามารถนำไปเป็นอาชีพได้ สร้างรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้  เพราะข้อเท็จจริงในทุกพื้นที่จะมีคนเก่งในแต่ละอาชีพอยู่แล้ว ซึ่งจะคัดเลือกและจัดเวทีฝึกทักษะการนำเสนอให้กับคนเก่งเหล่านี้ ยกให้เป็น "วิทยากรสัมมาชีพชุมชน" หลังจากนั้นกลับไปสร้างทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน เพิ่มเติมอีกหมู่บ้านละ 4 คน แล้วเปิดรับลูกศิษย์ที่สนใจฝึกอาชีพในแต่ละประเภทอาชีพ หมู่บ้านละ 20 คน เมื่อผ่านการฝึกปฏิบัติขั้นมาแล้ว ขั้นพื้นฐานที่สุดก็จะสามารถสร้างอาชีพบนฐานของเศรษฐกิจพอเพียงได้ หากมีความก้าวหน้าก็จะมีแหล่งทุนสนับสนุนต่อยอดอาชีพ สร้างผลผลิต สร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมา เข้าสู่ระบบ OTOP เพื่อขยายตลาดในวงกว้างต่อไป

 

วัตถุประสงค์ ->

พื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงานของอำเภอราษีไศล จำนวน 29 หมู่บ้าน 9 ตำบล ซึ่งเป็นหมู่บ้านเป้าหมายที่ผ่านการให้การศึกษาด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การสำรวจข้อมูลและการจัดเวทีประชาคมทำแผนชุมชนในปี 2559 ตามแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษกิจพอเพียงในภาคเกษตรและชนบท (ยุทธศาสตร์ที่ 1) 
กระบวนการขับเคลื่อนการสร้างสัมมาชีพชุมชน
1. การพัฒนาทักษะการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับปราชญ์ชุมชน (วิทยากรสัมมาชีพชุมชน) หมู่บ้านละ 1 คน

2. วิทยากรสัมมาชีพชุมชนกลับไปสร้างทีม โดยคัดเลือกปราชญ์ชุมชนเข้าร่วมเพิ่มเติมอีก 4 คน/หมู่บ้าน (ทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน)
3. จัดฝึกอาชีพให้กับครัวเรือนเป้าหมายที่ต้องการฝึกอาชีพ หมู่บ้านละ 20 คน โดยใช้พื้นที่บ้านปราชญ์ชุมชน หรือศูนย์เรียนรู้ชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อมุ่งหมายให้ครัวเรือนที่เข้ารับการฝึกอาชีพมีความรู้ และปฏิบัติอาชีพได้จริง จนพัฒนาเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับครัวเรือน และต่อยอดสู่การรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความเข้มแข็งต่อไป

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

การพัฒนาทักษะการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับปราชญ์ชุมชน (วิทยากรสัมมาชีพชุมชน หมู่บ้านละ 1 คน)

อุปกรณ์ ->

สัมมาชีพ เป็นการประกอบอาชีพที่ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม และมีรายได้มากกว่ารายจ่าย เป็นความพยายามที่จะปรับจากการทำมาหากิน เป็นทำมาค้าขาย ครัวเรือนเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการต้องคิดใหม่ว่า ตนเองเป็นผู้ประกอบการคนหนึ่งในฟันเฟืองของระบบเศรษฐกิจใหญ่ กำลังทำธุรกิจอยู่เช่นเดี่ยวกับผู้ประกอบการในเชิงธุรกิจอื่นๆ การสร้างกำไรสุทธิให้มากขึ้นนั้น ทำได้ 2 ทางคือ 
1) มุ่งสู่การลดรายจ่าย ลดต้นทุนในการผลิต ลดรายจ่ายครัวเรือน ไม่ก่อหนี้ที่ไม่กอ่ให้เกิดรายได้
2) เพิ่มมูลค่าในการจำหน่ายผลผลิตของครัวเรือนของชุมชน ให้มีส่วนต่างจากต้นทุนมากขึ้น รายเหลือก็จะมากขึ้นตาม
ซึ่งทั้งหมดเป็นการคิดอย่างครบวงจร เพราะการผลิตเพียงอย่างเดียว คิดด้านเดียว เป็นความคิดที่ซ้ำซากที่ทำกันมานานและจะเป็นปัญหาต่อไป เนื่องจากผลิตมาแล้วขายไม่ได้ ดังน้น การคิดให้ครบวงจร ตั้งแต่ความต้องการ จำนวนที่ผลิต ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับราคา การตลาด การขนส่ง รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตที่ต้องเพิ่มเติมอย่างหยุดนิ่งไม่ได้ และต้องทำอย่างต่อเนื่องจึงจะยั่งยืน

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ปฏิบัติการสร้างสัมมาชีพเพื่อให้เกิดรายได้ในชุมชน จะเกิดขึ้นได้ต้องมีกระบวนการจัดการเพื่อมองหาอาชีพที่สามารถทำรายได้ และอยู่รอดได้จริงในชุมชน คือต้องจัดการให้ครบทั้งห่วงโซ่เศรษฐกิจ ตั้งแต่กระบวนการผลิต การแปรรูป และมองตลาดให้ออก ทั้งตลาดในชุมชนและนอกชุมชน เพราะพื้นที่เป้าหมายการสร้างสัมมาชีพ คือ "ชุมชน" ไม่ใช่ "ปัจเจก" แม้ว่าพื้นฐานของชุมชนจะมาจาก "ครัวเรือนมีปัจเจกชน" แต่กระบวนการขับเคลื่อนงานสัมมาชีพชุมชนที่จะสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นใพื้นที่ได้ ควรตั้งอยู่บนฐานคิดของการก้าวไปสู่สัมมาชีพของ "องค์กรชุมชน" หรือ "ชุมชนท้องถิ่น" จึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างได้อย่างยั้งยืนและมั่นคง ภายใต้กระบวนการใช้ความรู้มาพัฒนาการประกอบอาชีพต่างๆ (ความรู้ด้านการผลิต, การแปรรูป และการสร้างความพร้อมของผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพเพื่อการตลาด ทั้งในตลาดระดับชุมชน ท้องถิ่น และตลาดภายนอกชุมชนท้องถิ่น  ทั้งนี้ ผู้นำชุมชนมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้นำชุมชนที่มีวิสัยทัศน์ จะสามารถเปลี่ยนแปลงชุมชนและทำให้ชุมชนเกิดความสามัคคี ร่วมมือกัน สร้างสิ่งที่ดีขึ้นมาได้

ข้อพึงระวัง ->

รูปประกอบ -> image1 image2 image3

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา