ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

เนื่องจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564)ได้กำหนดยุทธศาสตร์ การสร้างความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำในสังคมเป็น 1 ใน 10 ยุทธศาสตร์ การพัฒนาตามแผนฯ และรัฐบาลได้กำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน จำนวน 11 ด้าน ซึ่งมีนโยบายการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญ ที่มุ่งหวังแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับปากท้องของประชาชนในระดับล่าง ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยมีแผนงานที่สำคัญ คือ แผนงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งได้มอบให้กระทรวงมหาดไทยที่มีกรมการพัฒนาชุมชนเป็นหน่วยงานหลักบูรณาการไปสู่การปฏิบัติ

ปัจจุบัน สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพของประชาชนภาคการเกษตร ในชุมชนมีภาวะความเสี่ยงของอาชีพภาคเกษตรกรรมที่เกิดจากการประกอบอาชีพแบบดั้งเดิม ไม่มีอาชีพหรือรายได้เสริม หลังฤดูกาลผลิต มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มอาชีพค่อนข้างน้อย หรือมีแต่ไม่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างเพียงพอ  ประชาชนเคลื่อนย้ายไปประกอบอาชีพในเมือง ซึ่งส่วนราชการมีศูนย์ฝึกอาชีพ/แหล่งเรียนรู้การประกอบอาชีพ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าที่ควร ปราชญ์ชุมชนด้านอาชีพที่เชี่ยวชาญและประสบผลสำเร็จในการประกอบอาชีพอยู่ในหมู่บ้าน/ชุมชน แต่มีส่วนน้อยที่สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นนำไปทำตามให้สำเร็จได้

เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานขับเคลื่อนการสร้างสัมมาชีพชุมชนแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้สามารถปฏิบัติงานที่ชัดเจนเป็นรูปแบบเดียวกันและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจึงได้ขับเคลื่อนสัมมาชีพชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

วัตถุประสงค์ ->

๑. หมู่บ้านเป้าหมายที่ผ่านการให้การศึกษาด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในภาคการเกษตรแลชนบท(ตามยุทธศาสตร์ที่ ๑)

         ๒. สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอคัดเลือกปราชญ์จากเวทีประชาคมหมู่บ้านละ ๑ คน ส่งข้อมูลให้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด เพื่อจัดทำฐานข้อมูลส่งกรมการพัฒนาชุมชน

         ๓. ปราชญ์ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร วิทยากรผู้นำสัมมาชีพ

         ๔. ประชุมเชิงปฏิบัติการวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับจังหวัดเป้าหมายได้แก่ ปราชญ์ชุมชนที่ผ่านการอบรมเป็น วิทยากรสัมมาชีพชุมชนและทีมสนับสนุนระดับจังหวัด

          ๕. การส่งเสริมและสนับสนุนประชุมเตรียมความพร้อมทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน ดำเนินการ 3 วัน
          ๖. การส่งเสริมและสนับสนุนทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน จัดฝึกอบรมตามโครงการส่งเสริมการสร้างสัมมาชีพชุมชนในระดับหมู่บ้าน จำนวน 5 วัน
          ๗. ติดตาม สนับสนุนครัวเรือนสัมมาชีพ และทีมวิทยากรสัมมาชีพ ได้แก่ การให้ความรู้การบริหารจัดการกลุ่ม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยมีการบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ หรือทีมปฏิบัติการตำบลเข้าร่วมโครงการ ซึ่งทีมนี้ มีส่วนช่วยในการแนะนำพัฒนาอาชีพ เทคนิคหรือความรู้ที่ดีมีประโยชน์กับการพัฒนาอาชีพครัวเรือน
          ๘. การส่งเสริมการจำหน่ายและหาช่องทางการจำหน่าย เพื่อให้ครัวเรือนมีรายได้เพิ่ม สามารถนำมาเป็นอาชีพเสริมของครอบครัวได้
          ๙. การยกระดับสัมมาชีพชุมชนไปสู่การลงทะเบียน OTOP โดยเริ่มจากการฝึกอาชีพ มีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ พัฒนาจนได้รูปแบบ มียอดจำหน่าย และมีระบบการบริหารจัดการกลุ่มที่ดี ซึ่งเป็นการต่อยอดงานสัมมาชีพอีกทางหนึ่งด้วย

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

๑. ทีมสนับสนุนการขับเคลื่อนสัมมาชีพชุมชน หมายถึง กลุ่มองค์กรเครือข่ายพัฒนาชุมชน 4 องค์กร ได้แก่  คณะกรรมการบริหารสำนักงานกลางศูนย์ประสานงานองค์การชุมชนหรือ ศอช.จ/ศอช.อ. /ศอช.ต., สมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนไทยหรือ กพสจ./กพสอ./กพสต.,สมาคมผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนไทยหรือคณะกรรมการชมรมอาสาพัฒนาชุมชน ระดับจังหวัด/อำเภอ,สมาคมกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตหรือคณะกรรมการเครือข่าย กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตระดับจังหวัด/อำเภอหรือผู้แทนคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต

          ๒. การวางแผนการฝึกอบรม ต้องแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ กรอบเนื้อหาที่จะบรรยาย และการมอบภารกิจให้แก่ปราชญ์ชุมชน

๓. การให้ความสำคัญในการดำเนินงานสร้างสัมมาชีพชุมชน ทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องมีแนวทางในการดำเนินงานสร้างสัมมาชีพที่ชัดเจน

๔. การติดตามให้การสนับสนุนแก่ปราชญ์ชุมชนในการทำงานเพื่อสร้างอาชีพแก่ครัวเรือนเป้าหมาย

อุปกรณ์ ->

๑. กลุ่มเป้าหมายจะต้องเป็นปราชญ์ชุมชนที่คัดเลือกมาจากฐานข้อมูลตามแบบรายงานปราชญ์ชุมชนในพื้นที่เป้าหมายหมูบ้านละ ๑ คน

         ๒. กลุ่มเป้าหมายต้องเป็นปราชญ์ชุมชนที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรวิทยากรผู้นำสัมมาชีพ

          ๓. ทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนควรมีการกำหนดบทบาทและแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจนเพื่อให้การปฏิบัติงานของทีมบรรลุเป้าหมายและเกิดประสิทธิภาพ

กระบวนการ/ขั้นตอน->

-

ข้อพึงระวัง ->