การปลูกถั่วลิสง
โดย : นายบัวลอย ทองโส ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-03-30-09:31:42ที่อยู่ : 25 บ้านหนองแลง หมู่ 9 ตำบลรุ่งระวี
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
- ต้องการมีอาชีพเสริมนอกเหนือจากการทำนา ที่เป็นอาชีพหลัก
- เพื่อบริโภค/จำหน่าย
วัตถุประสงค์ ->
วัตถุดิบ (ถ้ามี)
1. พันธุ์ถั่วลิสง
2. ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
อุปกรณ์
1. รถไถ
2. จอบ,เสียม
3. อุปกรณ์รดน้ำ
กระบวนการ/ขั้นตอน
การปลูก
การปลูกใช้ระยะระหว่างแถว 30-50 เซนติเมตร ระยะระหว่างหลุม 20 เซนติเมตรจำนวน 2 ต้นต่อหลุม หรือในระยะ 1 เมตร ควรมีจำนวนต้อนกระจายอยู่ 10 ต้น ใช้เมล็ดพันธุ์ 20 กิโลกรัม/ไร่ (ทั้งเปลือก) เมล็ดขนาดใหญ่หรือเล็กสามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตไม่แตกต่างกัน แต่ในขั้นตอนการปลูกควรแยกกลุ่มตามขนาดเมล็ด โดยกลุ่มที่มีเมล็ดขนาดโตให้ปลูกในกลุ่มเดียวกัน ส่วนขนาดเมล็ดเล็กถึงปานกลางก็ให้แยกกลุ่ม เพื่อให้เกิดความสม่ำเสมอในการเจริญเติบโตในพื้นที่ กลุ่มเมล็ดขนาดเล็กสามารถเจริญเติบโตให้ผลผลิตได้ดี เช่นเดียวกับกลุ่มเมล็ดขนาดใหญ่
การให้น้ำ
โดยการให้น้ำทุก ๆ 10-15 วัน อย่าให้ถั่วลิสงขาดน้ำในระยะออกดอก (30-40 วัน หลังงอก) และช่วงลงเข็มเพราะจะทำให้ผลผลิตลดลงมาก
ในช่วงฤดูฝน ควรมีแหล่งน้ำ ที่สามารถช่วยลดความเสียหายหากถั่วลิสงเกิดกระทบแล้ง
ในช่วงฤดูแล้ง อาศัยน้ำชลประทาน ควรควบคุมการให้น้ำอย่าให้แฉะเกินไป เพราะจะทำให้ถั่วลิสงเจริญเติบโตไม่ดี และเกิดโรคโคนเน่าได้ง่าย และอย่าปล่อยให้ถั่วลิสงขาดน้ำจนแสดงอาการใบเหี่ยว ในการให้น้ำก็ไม่ควรให้น้ำท่วมหลังแปลงปลูก การให้น้ำปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้งจะทำให้ผลผลิตและคุณภาพของเมล็ดถั่วลิสงเจริญเติบโตได้ดีกว่าการให้น้ำครั้งละมาก ๆ แต่น้อยครั้ง
การกำจัดวัชพืช และพูนโคน
กำจัดวัชพืชครั้งแรกที่อายุ 15 วัน และครั้งที่ 2 ที่อายุ 30 วันหลังงอก ถ้ายังมีวัชพืชตกค้างในแปลงมากควรมีการกำจัดอีกครั้งเมื่ออายุ 60 วัน แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบกระเทือน ต่อการลงเข็มของต้นถั่ว หรือใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช เช่น อะลาคลอร์ เมโทลาคลอร์ อิมาเซ็ททาเพิร์ แลคโตเฟน ฮาล๊อคซิฟอพเมทิล เป็นต้น การพูนโคนไม่ควรกองดินสูง ควรพูนโคนเตี้ย ๆ และให้แผ่กว้างออกจากโคนต้น ทั้งนี้เนื่องจากการติดฝักไม่ได้กระจายอยู่บริเวณโคน แต่จะแผ่กระจายออกจากแนวโคนต้นเล็กน้อย
การใส่ปุ๋ย
ให้ใช้ตามแนะนำทั่วไปในการใส่ปุ๋ยสำหรับถั่วลิสงโดยมีเนื้อธาตุอาหารอัตราต่างๆดังนี้
- ดินร่วน-ร่วนเหนียว อัตรา3-9-0 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O
- ดินร่วนปนทราย อัตรา 3-9-6กิโลกรัมต่อไร่ ของ N-P2O5-K2O หรือปุ๋ยสูตร 12-24-12 หรือ
สูตร 15-15-15 อัตรา 25-50 กิโลกรัมต่อไร่ ใส่ในช่วงพร้อมกับการปลูก หรือหลังงอกไม่เกิน 15-20 วัน พร้อมกับการกำจัดวัชพืช โดนโรยปุ๋ยและพรวนคลุกเคล้ากับดินข้างแถวปลูก
หากวิเคราะห์ดินมีค่าวิเคราะห์ธาตุอาหารที่จำเป็นต่ำกว่าระดับที่เหมาะสมดังกล่าว จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยตามอัตราแนะนำให้มีเนื้อธาตุ N-P2O5-K2O อัตรา 3-9-0 หรือ3-9-6 กิโลกรัมต่อไร่ขึ้นกับความละเอียดของดิน หากค่าวิเคราะห์อยู่ในเกณฑ์เหมาะสมไม่มีความจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเพิ่มเติม
สำหรับถั่วลิสงเมล็ดโตหารดินมีค่าแคลเซียมต่ำกว่าระดับ 400 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm) ควรใส่
ยิปซั่มในอัตรา 50-100 กิโลกรัมต่อไร่ช่วงออกดอกแรกหรือถั่วลิสงมีอายุ 30 วัน จะช่วยให้ฝักและเมล็ดสมบูรณ์มากขึ้น ผลผลิตสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามทั้งขนาดเมล็ดและเปอร์เซ็นต์ของเมล็ดขนาดโตพิเศษจะไม่คงที่แต่ขึ้นอยู่กับดินที่ใช้ปลูก ระยะปลูก และความชื้นในดินในระหว่างฤดูปลูกเป็นสำคัญโดยเฉพาะความแห้งแล้งที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาการลงเข็มและการติดฝักถั่วลิสง จะทำให้ผลผลิตและคุณภาพทางการค้าของเมล็ดลดลงได้อย่างมากกล่าวคือ เมล็ดลีบก็จะยิ่งมีปริมาณมากขึ้นเนื่องจากการดูดใช้แคลเซียมในดินของถั่วลิสงถูกจำกัด เนื่องจากความชื้นที่ต่ำเกินไปในช่วงฝนแล้ง เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาผู้ปลูกจึงควรหลีกเลี่ยงการปลูกในดินดังกล่าว หรือควรมีน้ำให้กับถั่วลิสงสม่ำเสมอตลอดฤดูปลูกหรืออย่างน้อยก็ไม่ควรให้ช่วงเริ่มลงเข็มและติดฝัก
การเก็บเกี่ยว
ควรนับอายุประกอบการสุ่มถอนดูให้ถั่วลิสงมีฝักแก่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของแต่ละต้น
เนื่องจากถั่วลิสงเมล็ดโตพันธุ์ขอนแก่น 60-3 มีขั้วฝักอ่อนสามารถดึงหลุดจากฝักได้ง่าย ขณะเก็บเกี่ยวหากถอนต้นถั่วลิสงในขณะดินค่อนข้างแข็งหรือปลูกในดินค่อนข้างเหนียว จะทำให้ฝักขาดในดินได้ง่าย ดังนั้นควรใช้จอบขุดดินช่วย จะทำให้ลดการสูญเสียฝักที่ขาดในดินลงได้อย่างมาด ถั่วบิสงพันธุ์ขอนแก่น 60-3 อายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 110-120 วัน หรือฝักถั่วแก่ ประมาณ 60-65 เปอร์เซ็นต์ ของแต่ละต้น สำหรับถั่วลิสงพันธุ์พระราชทานมีอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 120 วัน ถั่วที่ส่งโรงงานกะเทาะหลังปลิดฝักถั่วลิสงแล้วควรตากฝักประมาณ 3-4 แดด เก็บไว้ในกระสอบป่านรอการจำหน่ายต่อไป ถ้าจะเก็บไว้เป็นเมล็ดพันธุ์ ควรจาก 5-7 แดดให้ความชื้นในเมล็ดต่ำกว่า 9 เปอร์เซ็นต์ และเก็บไว้ในภาชนะที่กันความชื้น
การตาก
ควรตากฝักถั่วลิสงบนตะแกรง ตาข่าย แคร่ หรือผ้าใบ โดยไม่ให้ฝักถั่วลิสงสัมผัสพื้นดิน และมีความหนาของกองไม่เกิน 5 เซนติเมตร ควรมีการพลิกกลับกองไม่เกิน 5 เซนติเมตร ควรมีการพลิกกลับกองถั่วลิสงที่ตาก ประมาณ 2-3 ครั้งต่อวัน เพื่อช่วยให้ฝักถั่วลิสงแห้งเร็วขึ้นและแห้งสม่ำเสมอทั้งกอง ถ้าเป็นช่วงที่มีแดดจัดใช้เวลาตากประมาณ 3-5 วัน เพื่อลดความชื้นให้ต่ำกว่า 9 เปอร์เซ็นต์
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
อุปกรณ์ ->
โรคโคนเน่าขาด
เชื้อสาเหตุ เกิดรุนแรงในช่วงต้นกล้า ต้นถั่วลิสงจะเหี่ยวยุบตัวลง โคนต้นเป็นแผลสีน้ำตาลและมีกลุ่ม
สปอร์เชื้อราสีดำขึ้นปกคลุมที่แผล ถ้าถอนขึ้นมาต้นจะขาดออกโดยง่าย ระยะต้นกล้าอายุ 1-4 สัปดาห์จะอ่อนแอต่อโรคมากที่สุด
การป้องกันกำจัดโรค
- ไม่ปลูกด้วยเมล็ดที่เก็บไว้เก็บนานเกินไป
- คลุกเมล็ดก่อนปลูกด้วยสารเคมี benomyl + mancoceb, carboxin และ tiprodione
- ไม่เก็บเกี่ยวเมื่อถั่วแก่จัดเกินไป
โรคโคนเน่าขาว (
เชื้อสาเหตุ เชื้อรา
ลักษณะอาการ เกิดการเหี่ยวของกิ่ง ใบย่อยเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือเขียวซีด และเปลี่ยนเป็น
สีตาล ในที่สุดบริเวณลำต้นที่เชื้อเข้าทำลายจะฉีกและมีเม็ดสีขาวปรากฎอยู่
สภาพแวดล้อมที่ระบาด พบมากในสภาพฝนชุก การปลูกแน่นจนเกินไป และปลูกซ้ำที่เดิม
แมลงศัตรูที่สำคัญในถั่วลิสง
เสี้ยนดิน
เป็นมดชนิดหนึ่งหรือชาวบ้านเรียกว่า แมงแดง เกษตรกรถือว่าเป็นศัตรูที่สำคัญที่สุดของถั่วลิสง อาศัยอยู่ในดิน ทำลายฝักถั่วลิสง โดยการเจาะเปลือกถั่วเป็นรูแล้วกัดกินเม็ดในฝักหลังจากนั้นจะนำดินเข้าไปใส่ไว้ในฝักแทนเมล็ดที่ถูกทำลาย ในพื้นที่ที่มีการระบาดของเสี้ยนดินจะทำให้ผลผลิตลดลงมากจนไม่คุ้มทุนที่จะเก็บเกี่ยว
การตรวจว่าในไร่มีเสี้ยนดินหรือไม่
ให้ใช้มะพร้าวแก่ผ่าเป็น 2 ซีก นำมะพร้าวแต่ละซีกไปฝังดินโดยคว่ำมะพร้าว ลงในดินให้ลึกพอ ด้านบนอยู่ในระดับผิวดิน คอยตรวจดูเสี้ยนดินเป็นระยะ ๆ ถ้าพบเสี้ยนดินขณะถั่วลิสงอยู่ในระยะติดฝักและสร้างเมล็ดควรหาวิธีป้องกันกำจัด
วิธีป้องกันกำจัด
การปลูกถั่วลิสงในที่ดอนซึ่งหาน้ำผสมสารฆ่าแมลงลำบาก ให้ใช้ carbofuran อัตรา 200 กรัมเนื้อสารออกฤทธิ์ต่อไร่ โดยโรยข้างแถวพร้อมใส่ปุ๋ยหลังดายหญ้าครั้งที่ 2 หรือเมื่อถั่วลิสงอายุ 30-35 วัน แล้วกลบโคนหรือแบ่งใส่ 2 ครั้งเพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้น โดยครั้งแรกใส่พร้อมปุ๋ยดังกล่าว ครั้งที่ 2 ใส่เมือ่ถั่วลิสงอายุ 60-65 วัน หรือใช้ Chlorpyrifos อัตรา 200 กรัมเนื้อสารออกฤทธิ์ต่อไร่ พ่นลงดินระหว่างแถวถั่วลิสง พ่นครั้งแรกเมื่อถั่วลิสงอายุ 30-35 วันและพ่นครั้งที่ 2 เมื่อถั่วลิสงอายุ 60-65
เพลี้ยไฟ
ลักษณะอาการ ดูดกินน้ำเลี้ยงตามใบ ตาดอก ดอกและยอดอ่อนทำให้ใบหงิกงอ บิดเบี้ยว ใบแห้ง กรอบ มีลักษณะเหมือนไขติดอยู่เส้นกลางใบเป็นสีน้ำตาล ถ้าระบาดรุ่นแรงจะทำลายช่อดอก ทำให้ดอกร่วง ถ้าระบาดช่วงแล้งทำให้ยอดไหม้และตาย เป็นพาหะนำโรคยอดไหม้ และโรคใบจุดเหลือง
การป้องกันกำจัด ใช้สารเคมี carbofuran carbosulfan triazophos cyhalotrin imidacloprid หรือ acephate
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ฤดูกาล ที่เหมาะสม สำหรับพื้นที่นาคือ หลังเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงตั้งแต่ วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน และไม่เกินวันที่ ๑๕ ธันวาคม
ดินที่เหมาะสมกับการปลูกถั่วลิสงคือ ดินร่วนปนทราย (บางพื้นที่เรียกดินทรายปนตม) หรือดิน เหนียวปนทราย
ข้อพึงระวัง ->