เทคนิคการสร้างบ่อเลี้ยงกบ
โดย : นายเหมือน ไชยสาร ตำแหน่ง : เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน วันที่ : 2017-03-25-12:25:58ที่อยู่ : 8 หมู่ที่ 3 ตำบลพิมายเหนือ
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ในปัจจุบันกบนับว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจอย่างหนึ่ง สามารถนำมาเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร และเลี้ยงเป็นสัตว์สวยงามได้ การเลี้ยงไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก ในเขตรั้วบ้านก็สามารถทำเป็นบ่อกบได้ แหล่งเรียนรู้โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เขื่อนดินช่องเขาขาด จึงได้จัดทำบ่อทดลองเลี้ยงเพื่อศึกษาธรรมชาติของกบ การเจริญเติบโต และการขยายพันธุ์รวมทั้งโรคต่างๆ ของกบ เพื่อเป็นข้อมูลให้เกษตรกรนำไปพิจารณาประกอบการลี้ยงเพื่อเพิ่มรายได้ในรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียง และยังมีรูปแบบการเลี้ยงที่สามารถเข้ากับบริบท ทรัพยากรของแต่ละคนได้
กบเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ อาศัยอยู่ในบริเวณแหล่งน้ำตื้น ๆ หรือแอ่งน้ำเล็ก ๆ มีหัวลักษณะคล้ายรูปทรงสามเหลี่ยม มีสัณฐานค่อนข้างแบนเรียบ ปากกว้าง นัยน์ตากลมโตและโปนโดยบริเวณหนังตามีแผ่นเนื้อเยื่อบาง ๆ ซึ่งจะทำหน้าที่เปิดและปิดนัยน์ตาดำของกบ มีหูอยู่บริเวณด้านหลังของนัยน์ตาที่มีลักษณะเป็นแอ่งกลม ๆ ทำหน้าที่เหมือนกับแก้วหูของมนุษย์มีรูจมูกสองรูอยู่ด้านหน้าของนัยน์ตา ภายในปากมีฟันขนาดไล่เลี่ยกันคล้ายกับซี่เลื่อย ลิ้นมีปลายแยกออกเป็นสองแฉก ใช้สำหรับจับแมลงและสัตว์อื่นเป็นอาหาร หายใจโดยใช้ปอดและสามารถหายใจได้ทางผิวหนัง
วัตถุประสงค์ ->
1. การเลี้ยงกบควรเลือกพื้นที่สูงหรือที่ดอน มีลักษณะราบเสมอ ใกล้แหล่งน้ำเพื่อสะดวกต่อการถ่ายเทน้ำ ควรให้ห่างจากถนนเพื่อป้องกันเสียงรบกวน
2. สร้างบ่อซีเมนต์ขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 4 เมตร สูง 1.20 เมตร จำนวน 2 บ่อเพื่อใช้เพาะพันธุ์กบ จำนวน 1 บ่อ และสร้างบ่ออนุบาลกบจำนวน 1 บ่อ โดยก่ออิฐบล็อกและฉาบด้วยปูน ปูนที่ฉาบควรหนาเป็นพิเศษ ตรงส่วนล่างที่กักเก็บน้ำควรสูงจากพื้น 1 ฟุต พื้นล่างเทปูนหนาเพื่อรองรับน้ำและมีท่อระบายน้ำอยู่ตรงส่วนที่ลาดที่สุด
3. พันธุ์กบที่เพาะเลี้ยง ควรเลือกกบนาเพราะเจริญเติบโตเร็ว และเป็นที่นิยมของผู้บริโภคกบนาตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย เมื่อจับพลิกหงายขึ้นจะเห็นกล่องเสียงอยู่ใต้คางแถวมุมปากส่วนตัวเมียมองไม่เห็นกล่องเสียง
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ข้อดี
- สามารถเลี้ยงในบริเวณบ้าน ไร่ นา หรือหากเป็นทุ่งนาได้จะดีมาก
- อายุการใช้งานของกระชังเฉลี่ย 3-5 ปี ต่อกระชัง เงินลงทุนกระชังละไม่เกิน 600 บาทต่อ กระชัง
- เปลี่ยนถ่ายน้ำได้บ่อย ๆ และง่าย รวดเร็ว กว่าแบบอื่น ๆ มาก ถ้ามีน้ำคลอดสามารถเปิดให้ไหลผ่านหมุนเวียนได้ตลอด จะดีที่สุด กบไม่มีโรค และไม่เปลืองค่าใช้จ่าย
- กบมีพยาธิน้อยเพราะไม่สัมผัสดิน โคลนโดยตรง
- กบไม่มีกลิ่นอับติดตัว เพราะเลี้ยงใกล้เคียงกับธรรมชาติที่สุด
- ให้อาหารง่าย ไม่สิ้นเปลืองอาหาร เหมือนการเลี้ยงบ่อปูน
- เป็นการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดอีกวิธีหนึ่ง
- จำนวนกบที่จับขายได้จะมีมากกว่าบ่อดิน
- ควบคุมดูแลโรคได้ง่ายกว่าแบบอื่น ๆ เหมือนกับการเลี้ยงในบ่อปูนแต่ด้อยกว่าเล็กน้อย
- สามารถจับกบขายได้ตลอดเวลา
ข้อเสีย
- ลงทุนสูงกว่าการเลี้ยงแบบบ่อดิน แต่น้อยกว่าการสร้างบ่อปูน
- ถ้าน้ำเสีย กบในกระชังทุกบ่อจะได้รับผลกระทบทั้งหมดคับ ควบคุมโรคได้ยากกว่าบ่อปูน
- กรณีที่สร้างกระชังไม่ดีพอ คือเย็บกระชังเอง มักทำให้เกิดรูรั่ว ทำให้กบหลบหนีในที่สุด
- ต้องรื้อถอนและทำกระชังใหม่ เมื่อครบระยะเวลา 4-5 ปี ทำให้ต้องลงทุนกระชังอีกครั้ง
ข้อพึงระวัง ->